วานนี้ (27 มกราคม) เวลา 21.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์ เอเชีย รอบสุดท้าย รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม B นัดที่ 3 ทีมชาติไทยพบกับทีมชาติออสเตรเลีย
เกมแรกไทยแพ้ฟิลิปปินส์ 0-1 และชนะอินโดนีเซีย 4-0 ส่วนออสเตรเลียชนะมาสองนัดรวด เข้า 8 ทีมสุดท้ายต่อไปแน่นอนแล้ว
เกมนี้ มิโยะ โอกาโมโตะ ใช้ สุชาวดี นิลธำรงค์ เป็นกองหน้าอีกครั้ง โดยเล่นร่วมกับ เสาวลักษ์ เพ็งงาม ตรงกลางมี ศิลาวรรณ อินต๊ะมี และ อิรวดี มาครีส
เริ่มเกมออสเตรเลียมีโอกาสหลายครั้ง และในนาทีที่ 39 เป็น เอมิลี ฟาน เอ็กมอนด์ ที่ยิงไกลหน้าเขตโทษเข้าไปให้ออสเตรเลียนำไทยก่อน 1-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังออสเตรเลียบุกอย่างหนัก จนในนาทีที่ 80 ออสเตรเลียได้ประตูนำห่างจากจังหวะที่ทิฟฟานีรับบอลกระฉอกมาเข้าทาง แซม เคอร์ ยิงซ้ำเข้าไปให้ออสเตรเลียหนีไทยไปเป็น 2-0
ช่วงทดเจ็บ ไทยได้ประตูตีไข่แตกจากลูกเตะมุม ที่ผู้รักษาประตูออสเตรเลียชกบอลมาเข้าทาง นิภาวรรณ ปัญโญสุข ยิงสวนเข้าไปให้ไทยไล่มาเป็น 1-2
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกมทีมชาติไทยพ่ายออสเตรเลียไป 1-2 ทำให้ ออสเตรเลียเป็นแชมป์กลุ่ม B เข้าไปเจอกับเกาหลีใต้ ส่วนไทยต้องเจอกับญี่ปุ่น แชมป์ของกลุ่ม C
ขณะที่ผลอีกคู่ ฟิลิปปินส์ชนะอินโดนีเซีย 6-0 ทำให้ผ่านเข้ารอบไปเจอกับไต้หวัน รองแชมป์กลุ่ม A
ความพ่ายแพ้นัดนี้ ทำให้ทีมชาติไทยจบด้วยการเป็นอันดับ 3 ของกลุ่ม B พร้อมผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยจะไปพบกับทีมชาติญี่ปุ่น แชมป์ของกลุ่ม C ที่สนาม ดี วาย พาติล ซึ่งจะแข่งขันกันในวันที่ 30 มกราคม 2565 เวลา 15.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถ่ายทอดสด ทาง Eleven Sports
โดยเกมที่พบกับญี่ปุ่น หากใครชนะจะได้ตั๋วไปเล่นในศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2023 ที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ในปีหน้าทันที
หลังจบเกม นิภาวรรณ ปัญโญสุข ผู้ยิงประตูในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ยืนยันว่าฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย แสดงให้เห็นว่าพวกเธอไม่เคยคิดยอมแพ้ และพร้อมทำทุกทางเพื่อไปเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายเป็นสมัยที่ 3 ให้ได้
“จริงๆ ประตูนี้คงจะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าหากไม่มีเพื่อนๆ ที่พยายามวิ่งตลอดทั้งเกม เราแค่อยากทำตามความฝัน ทำให้ทุกคนรู้ว่าเราไม่เคยยอมแพ้ เรายังทำงานหนัก และยังสู้เพื่อคนไทย” นิภาวรรณกล่าว
“ในรอบก่อนรองชนะเลิศ แน่นอนว่าเป้าหมายของเราคือการผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย อะไรที่ทำให้พวกเราได้ไปเล่นรอบสุดท้ายได้ เราจะทำ”