รัฐบาลสหราชอาณาจักร ในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ COP 26 ที่เมืองกลาสโกว์ของสกอตแลนด์ เปิดเผยในแถลงการณ์ร่วมเมื่อวานนี้ (3 พฤศจิกายน) ว่า 190 ประเทศ และองค์กรต่างๆ ทั่วโลก ได้ให้คำมั่นที่จะยกเลิกการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากถ่านหิน โดยเตรียมลงนามข้อตกลงในวันนี้ (4 พฤศจิกายน) เพื่อยุติการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมทั้งเตรียมให้ยุติการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากถ่านหินทั้งหมดภายในปี 2030 สำหรับประเทศร่ำรวย และภายในปี 2040 สำหรับประเทศยากจน
“จุดสิ้นสุดของถ่านหินนั้นอยู่ในสายตาของเรา โลกกำลังเคลื่อนไปในทิศทางที่ถูกต้อง โดยเตรียมพร้อมที่จะผนึกชะตากรรมของถ่านหิน และโอบรับผลประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ จากการสร้างอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด” กวาซี กวาร์เต็ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงธุรกิจ พลังงาน และยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมแห่งสหราชอาณาจักร กล่าว
ประเทศที่ตอบรับข้อตกลงฉบับนี้ คือประเทศผู้ใช้ถ่านหินรายใหญ่อย่างโปแลนด์ เวียดนาม และชิลี ในขณะที่ประเทศที่พึ่งพาพลังงานไฟฟ้าจากถ่านหินรายใหญ่อย่างออสเตรเลีย อินเดีย จีน และสหรัฐฯ ไม่ได้เข้าร่วม
ถ่านหินนั้นถือเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิล (Fossil Fuel) ที่ก่อมลพิษมากที่สุด และเป็นตัวการสำคัญในการแพร่กระจายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศโลกด้วยการเผาไหม้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
ข้อมูลในปี 2019 พบว่า ทั่วโลกยังคงใช้พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากถ่านหิน คิดเป็น 37% ของพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งข้อดีจากการใช้ถ่านหินผลิตไฟฟ้าที่มีค่าใช้จ่ายน้อย ทำให้หลายประเทศ เช่น แอฟริกาใต้ โปแลนด์ และอินเดีย มีการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินจำนวนมาก ส่งผลให้การเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานทางเลือกที่สะอาดกว่านั้นจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาพบว่า การสร้างท่อส่งสำหรับโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ทั่วโลกมีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจีน อินเดีย เวียดนาม และอินโดนีเซีย จะยังคงมีแผนลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่เพิ่มเติม
ซึ่งในส่วนของเวียดนามที่ตอบรับข้อตกลงยกเลิกผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะส่งผลให้ต้องยุติโครงการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ที่อยู่ระหว่างเตรียมการหรือไม่
ขณะที่จีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินรายใหญ่ของโลก ให้คำมั่นเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่าจะหยุดสนับสนุนการลงทุนในโครงการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ในต่างประเทศ แต่ไม่ระบุถึงการยุติการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศ
ภาพ: Photo by Ryan Pyle/Corbis via Getty Images
อ้างอิง:
