ตลอดระยะเวลา 17 ปีจากวันแรกในการลงเล่นให้บาร์เซโลนา มาจนถึงวันนี้ที่ ลิโอเนล เมสซี จะต้องไปจากทีมเดียวในชีวิตของเขา มีเรื่องราวและความทรงจำเกิดขึ้นมากมาย เรามาร่วมเดินทางย้อนเวลาไปด้วยกันเป็นครั้งสุดท้ายกับนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของบาร์ซา
จุดเริ่มต้นในสีเสื้อบาร์เซโลนา
จุดเริ่มของเรื่องราวระดับเทพนิยาย เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 พฤษจิกายน 2003 เมื่อ แฟรงก์ ไรจ์การ์ด โค้ชของบาร์เซโลนาช่วงเวลานั้น เลือกให้โอกาสกับเด็กหนุ่มพรสวรรค์สูงอายุ 16 ปี 4 เดือน กับ 23 วัน อย่าง ลิโอเนล เมสซี ลงเล่นเป็นตัวสำรองนาทีที่ 74 ในเกมกระชับมิตรกับ เอฟซี ปอร์โต 2003
ก่อนจะเริ่มลงเล่นในแมตช์แรกของอาชีพอย่างเป็นทางการในเกมดวลกับเอสปันญอล ในฤดูกาล 2004-05 ด้วยการลงเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 77
ขณะที่ประตูแรกในทีมชุดใหญ่ของเจ้าตัวเกิดขึ้นในเกมกับ อัลบาเซเต เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2005 โดยเวลานั้นเมสซีอายุเพียง 17 ปี สวมเสื้อเบอร์ 30 ลงมาเป็นตัวสำรอง ได้รับบอลงัดมาจากโรนัลดินโญ หลุดกับดักล้ำหน้าก่อนซัดด้วยซ้ายข้างถนัดไม่พลาด และนั่นคือประตูแรกอย่างเป็นทางการของเมสซี
ช็อตโซโล่ระดับตำนานในเกมกับ ‘เคตาเฟ่’ ปี 2007
นอกเหนือจากทักษะการทำประตูอันยอดเยี่ยมแล้ว จังหวะการลากเลื้อยไปกับบอลที่ดูแล้วเพลินตาของเมสซี ก็เป็นอีกหนึ่งสกิลที่เจ้าตัวมักทำได้ดีเสมอ
โดยช็อตลากเลื้อยบรรลือโลกของเมสซีถ้าจะให้พูดถึงอาจนับได้เยอะพอสมควร เพียงแต่ช็อตที่แจ้งเกิดให้กับเมสซีคือเกมที่ดวลกับเคตาเฟ่ ปี 2007
มันเป็นจังหวะที่เกิดขึ้นในนาทีที่ 28 เมสซีที่รับบอลจาก ชาบี เอร์นานเดซ ล็อกหลบ 2 ผู้เล่นของเกตาเฟ่ ก่อนจะพาบอลลากจี้เข้ากรอบเขตโทษ และทำการแตะบอลหลบแนวรับอีก 2 คน รวมถึงผู้รักษาประตูที่ยืนอยู่เป็นคนสุดท้าย และปิดสกอร์ด้วยเท้าขวาบอลซุกตาข่ายอย่างเฉียบคม กลายเป็นประตูมหัศจรรย์ที่แจ้งเกิดให้กับเมสซีอย่างเต็มตัว
ดาวซัลโวตลอดกาลของบาร์เซโลนา
หนึ่งในความยอดเยี่ยมที่ ‘King Leo’ ได้สร้างไว้ในคัมป์นู และยากต่อการหานักเตะคนอื่นมาทำลายคือ ตำแหน่งดาวซัลโวตลอดกาลของบาร์เซโลนา ที่ปัจจุบันเมสซีทำไป 672 ประตู กับอีก 305 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 778 เกม
ส่วนสถิติดาวซัลโวตลอดกาลของสโมสร 5 อันดับแรก ประกอบด้วย
- ลิโอเนล เมสซี 672 ประตู
- หลุยส์ ซัวเรซ 195 ประตู
- เซซาร์ โรดริเกซ 195 ประตู
- ลาสซ์โล คูบาลา 144 ประตู
- ซามูเอล เอโต 130 ประตู
ทำ 91 ประตูในปีปฏิทินเดียว
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในระหว่างปี 2012-2013 เป็นช่วงเวลาที่ ลิโอเนล เมสซี ฟอร์มร้อนแรงเกินใครจะต้านอยู่
ในปีนั้นหนึ่งในสถิติที่เมสซีทุบทิ้ง คือการทำประตูในปีปฏิทินเดียว ซึ่งเจ้าของสถิติเดิม ณ ตอนนั้นเป็นของ ‘ไอ้ลูกระเบิด’ เกิร์ด มุลเลอร์ ที่เคยทำ 85 ประตู ให้ทั้งบาเยิร์น มิวนิก และทีมชาติเยอรมนีตะวันตก ในปี 1972
โดยผลงานในมือของเมสซีที่ใช้แซงหน้าสถิติของมุลเลอร์คือการตะบันไป 91 ประตู แบ่งเป็น 79 ประตูกับบาร์ซา และ 12 ประตูในนามทีมชาติ
และจากผลงานอันยอดเยี่ยมนี้กลายเป็นอานิสงส์ส่งให้เมสซีคว้ารางวัลบัลลงดอร์ในปลายปีนั้นเหนือคู่แข่งอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด และ อันเดรส อิเนียสตา
หนึ่งเดียวในโลก! เจ้าของบัลลงดอร์ 6 สมัย
‘บัลลงดอร์’ คือหนึ่งในรางวัลที่ยิ่งใหญ่ของนักเตะอาชีพที่ใฝ่ฝันจะได้รับสักครั้งในชีวิต แต่ความยากของรางวัลนี้นอกเหนือจากความยอดเยี่ยมของฟอร์มการเล่นที่เหล่านักเตะต้องเค้นมาโชว์ให้เป็นที่ประจักษ์ของแฟนบอลทั่วโลกแล้ว ยังต้องได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมอาชีพหรือนักเตะคนอื่นๆ
แน่นอนว่า ลิโอเนล เมสซี หนึ่งในนักเตะชื่อว่าเป็น ‘เดอะ แบก’ ของทีม มักจะได้รับของขวัญปีใหม่ล่วงหน้าเป็นลูกบอลทองคำบัลลงดอร์มากถึง 6 สมัย โดยปีที่ King Leo ได้รับรางวัลนี้ ประกอบไปด้วย 2009, 2010, 2011, 2012, 2015 และ 2019
ประตูที่ 500 บนสมรภูมิ ‘เอลกลาซิโก’
หนึ่งในสุดยอดเกมแห่งความทรงจำของเมสซี ที่ติดอยู่ในใจของใครหลายคนคงหนีไม่พ้นศึกเอลกลาซิโกระหว่าง เรอัล มาดริด พบ บาร์เซโลนา วันที่ 23 เมษายน 2017
เกมดังกล่าวดำเนินไปอย่างสนุกและดุเดือดตลอด 90 นาที จนในช่วงท้ายเกมทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 2-2 ช่วงเวลาทดบาดเจ็บ 90+2 ก่อนที่ผู้ตัดสินจะยกนกหวีดเป่าจบเกมเพียง 12 วินาที
บาร์เซโลตั้งเกมสวนกลับขึ้นมาโดย เซร์จี โรเบร์โต ก่อนจะไหลบอลออกซ้ายให้ อังเดร โกเมส ผ่านบอลต่อไปถึง จอร์ดี อัลบา เปิดบอลตัดเข้ากลางให้เมสซีที่ยืนอยู่เหลี่ยมหัวกระโหลกได้ซัดด้วยซ้ายไม่พลาด
ประตูดังกล่าวนอกจากจะพาบาร์เซโลนาบุกชนะเรอัล มาดริด 3-2 ยังกลายเป็นประตูที่ 500 ในอาชีพของเมสซีที่สร้างภาพจำให้แฟนบอลทั่วโลกกับภาพที่กลายเป็นมีมบนโลกออนไลน์ อย่างการ ‘ชูเสื้อ’ ของตนต่อหน้าแฟนบอลในซานติอาโก เบร์นาเบว
ทุบสถิติ ‘เปเล’
อีกหนึ่งสถิติที่ถูกเมสซีทำลายคือ ทำประตูให้สโมสรเดียวมากที่สุดในโลก โดยเจ้าของสถิติเดิมคือ ‘ไข่มุกดำ’ เปเล ที่ยิงให้สโมสรซานโตสในบราซิล ระหว่างปี 1956-1974 ด้วยจำนวน 643 ประตู
ก่อนถูกโค่นโดยเมสซีเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ในเกมไล่ต้อน เรอัล บายาโดลิด 3-0 เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2020 พร้อมกดประตูให้สโมสรเดียวกับบาร์เซโลนา แซงหน้าสถิติเก่าของเปเล เป็น 644 ประตู (ในเวลานั้น)
ส่งผลให้เมสซีผงาดเป็นเจ้าของสถิติทำประตูให้สโมสรเดียวมากที่สุดโลกคนใหม่ในทันที
เกมสุดท้ายที่(ไม่)น่าจดจำ
สำหรับนักเตะระดับตำนานของแต่ละสโมสรไม่ว่าใครก็มักจะได้รับการปฏิบัติอย่างสมเกียรติ อาจจะเป็นการตั้งแถวปรบมือ จัดพิธีขอบคุณแฟนบอลหลังจบเกมสุดท้าย หรืออะไรก็ตามที่ทุกคนพอจะนึกออก
หากแต่ไม่มีใครคาดคิดว่าเกมที่เคยลงเล่นเมื่อปลายฤดูกาลก่อน (อาจจะ) เป็นเกมสุดท้ายของพวกเขา
และเหตุการณ์ประหนึ่งความโชคร้ายนี้กลับเกิดขึ้นกับ ลิโอเนล เมสซี นักเตะที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร
กัปตันทีมวัย 34 ปี แม้ล่าสุดจะมีความสุขดีกับการพาทีมชาติบ้านเกิด (อาร์เจนตินา) เถลิงแชมป์โคปา อเมริกา แต่ก่อนหน้านี้ในเกมระดับสโมสร ที่กลายเป็นเกมสุดท้ายที่เมสซีลงเล่นให้บาร์เซโลนาดันเป็นเกมที่ไม่น่าจดจำเท่าที่ควร
นั่นคือเกมที่ขุนพลอาซูลกรานาเล่นในสนามเก่งอย่างคัมป์นู เจอกับ เซลตา บีโก ทีมอันดับ 8 ของตาราง
เกมนี้มีคะแนนสำหรับลุ้นคั่วแชมป์ลีกเป็นเดิมพัน และเมสซียังคงทำผลงานได้ดี ช่วยทีมทำประตูออกนำ 1-0 ตั้งแต่ต้นเกม
แต่หลังจากนั้นปัจจัยในทีมหลายอย่างเริ่มไม่เป็นใจ จนสิ้นเสียงนกหวีดบาร์ซาเป็นฝ่ายปราชัยด้วยสกอร์ 1-2 ยุติเส้นทางลุ้นแชมป์ชนิดช็อกแฟนบอล
และที่เศร้าไปกว่านั้น นั่นคือเกมที่ 778 และเป็นเกมสุดท้ายที่เมสซีสวมเสื้อหมายเลข 10 ลงเล่นให้กับบาร์เซโลนา ที่สาวกอาซูลกรานาหลายคนกำลังรู้สึกใจหายเป็นอย่างมากเมื่อย้อนนึกถึงเหตุการณ์นี้ และน่าจะรวมถึง…ลิโอเนล เมสซี ด้วยเช่นกัน
ภาพประกอบ: กริน วสุรัฐกร