วันนี้ (4 สิงหาคม) รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. ได้เห็นชอบผลการพิจารณาโครงการภายใต้แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชนของจังหวัด จำนวน 157 โครงการ วงเงินรวม 884.62 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ตามท้ายพระราชกำหนดการใช้เงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ในเรื่องการสร้างงาน สร้างอาชีพ โดยจำแนกออกเป็น 6 ด้าน และมีตัวอย่างโครงการ ดังนี้
- การจัดหาปัจจัยการผลิตและสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น โครงการส่งเสริมและพัฒนาเกษตรปลอดภัย เกษตรอินทรีย์แบบครบวงจร จังหวัดลำปาง โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการตลาดแพะเนื้อ จังหวัดเลย และโครงการพัฒนาเพิ่มศักยภาพมัลเบอร์รีวัลเลย์ จังหวัดสระบุรี
- การยกระดับมาตรฐานคุณภาพและการสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นชุมชน เช่น โครงการพัฒนาศักยภาพเพิ่มมูลค่าและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ไม้ผลอัตลักษณ์ท้องถิ่น (ทุเรียนสาลิกา มังคุดทิพย์พังงา) อำเภอกะปง จังหวัดพังงา และโครงการยกระดับคุณภาพผลผลิตทางการเกษตรสู่มาตรฐานเกษตรปลอดภัย จังหวัดปทุมธานี
- การสร้างการเข้าถึงช่องทางการตลาด เช่น โครงการส่งเสริมการตลาดผลิตภัณฑ์ชุมชนตามฐานวิถีชีวิตใหม่ New Normal จังหวัดลำพูน
- การส่งเสริมการตลาดผลผลิตเชื่อมโยงการท่องเที่ยวและบริการ เช่น โครงการเชฟชุมชน เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวเชิงอาหาร จังหวัดกาญจนบุรี และโครงการโคเนื้อทุเรียนวากิวปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์
- การส่งเสริมการตลาดผลิตภัณฑ์ชุมชนเชื่อมโยงการท่องเที่ยวและบริการ เช่น โครงการพัฒนาผ้าทอละว้า บ้านตุน หมู่ที่ 4 ตำบลห้วยห้อม อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน และโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
- การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตเครือข่ายพื้นที่ขยายผล ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสกลนคร และโครงการส่งเสริมเพิ่มประสิทธิภาพเกษตรผสมผสาน โดยจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง จังหวัดภูเก็ต
ทั้ง 157 โครงการนี้ จะครอบคลุมในพื้นที่ 57 จังหวัดทั่วประเทศ ประกอบด้วย ภาคเหนือ จำนวน 22 โครงการ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 65 โครงการ ภาคกลาง จำนวน 30 โครงการ ภาคตะวันออก จำนวน 2 โครงการ และภาคใต้และจังหวัดชายแดน จำนวน 38 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการของจังหวัดที่มีหน่วยรับผิดชอบอยู่ในสังกัดกระทรวงต่างๆ ได้แก่ 1. กระทรวงมหาดไทย 2. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 3. กระทรวงแรงงาน 4. กระทรวงศึกษาธิการ 5. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 6. กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม
รัชดากล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการใช้เงินกู้กรอบวง 4 แสนล้านบาทเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ตั้งกรอบงบประมาณไว้ที่ 92,400 ล้านบาท (รอบที่ 1) มีโครงการที่อนุมัติไปแล้วจำนวน 10 โครงการ รวมวงเงิน 41,949 ล้านบาท ตัวเลข ณ วันที่ 29 กรกฎาคม 2563 ทั้งนี้โครงการอื่นๆ ในจังหวัดต่างๆ จะทยอยเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ต่อไป เนื่องจากคณะกรรมการกลั่นกรองต้องใช้เวลาในการตรวจสอบและพิจารณาแต่ละโครงการที่มีความเหมาะสม สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การใช้เงินกู้ โปร่งใส ผลลัพธ์สามารถเกิดขึ้นได้จริง ซึ่งมีการเสนอโครงการทั้งหมดเข้ามาจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้กำชับเรื่องการผลักดันโครงการและการโอนงบประมาณว่าอย่าได้ช้า เพื่อเศรษฐกิจระดับท้องถิ่นจะได้ฟื้นตัว ประชาชนมีงานทำและรายได้ ส่วนรายละเอียดโครงการสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า