‘14 ตุลาคม’ หมุดหมายสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ประเทศไทยกับการยืนหยัดต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยโดยเหล่า ‘วีรชนผู้กล้า’ ทั้งยังเป็นวันเดียวกันกับที่เหล่าผู้ชุมนุมที่เรียกแทนตัวเองว่า ‘กลุ่มคณะราษฎร’ ได้ประกาศจัดการชุมนุมใหญ่
ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาของวันนี้ (08.00 น.) มวลชนกลุ่มคณะราษฎร นำโดย แกนนำอย่าง อานนท์ นำภา ได้เริ่มจัดกิจการชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมประกาศ 3 ข้อเรียกร้องในการขับเคลื่อนประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นกับประเทศ นั่นคือการให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี, แก้ไขรัฐธรรมนูญจากประชาชน และปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ดี ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 08.57 น. ประชาชนอีกกลุ่มที่สวมเสื้อเหลือง ก็เริ่มเดินทางมาจับจองพื้นที่ตลอดริมทางเท้าถนนราชดำเนินกลางเพื่อเฝ้ารอขบวนเสด็จฯ เช่นกัน ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะเกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถขยายเสียงมาจอดหน้าร้านแมคโดนัลด์ เพื่อเตรียมประกาศยุติการปิดถนน สร้างความไม่พอใจให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ปักหลักอยู่ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ปิดล้อมรถเจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนขับไล่ จนสุดท้ายตำรวจต้องถอยรถออกไป
กระทั่งในช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. ได้เกิดเหตุชุลมุนขึ้นอีกครั้ง เมื่อกลุ่มคณะราษฎรและกลุ่มคนเสื้อเหลืองได้ปะทะกันบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยมีการขว้างปาสิ่งของใส่กันเป็นระยะ และมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามประชาสัมพันธ์ให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ
ทั้งนี้มวลชนกลุ่มคณะราษฎรยังคงยืนยันกำหนดการเดิมที่จะปักหลักบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อรวมตัวกันในช่วงเวลา 14.00 น. ก่อนจะเคลื่อนพลไปยังทำเนียบรัฐบาลในเวลา 14.30 น. ของวันนี้
สำหรับสถานกาณ์ความคืบหน้าเพิ่มเติม THE STANDARD จะรายงานให้ทราบผ่านทุกๆ ช่องทางและแพลตฟอร์มในลำดับถัดไป
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า