วันนี้ (27 เมษายน) เวลา 17.00 น. ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวภายหลังประชุมคลี่คลายคดีของ สรารัตน์ หรือ แอม อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาในคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาลักทรัพย์ด้วยการใช้สารไซยาไนด์ หลังพบว่ามีผู้เสียชีวิตเกี่ยวโยงหลายสิบราย
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการสืบสวนและรับแจ้งเบาะแสข้อมูล พบว่า มีผู้เสียชีวิตจากการถูกวางยาพิษไซยาไนด์รวม 13 ราย และถูกวางยาพิษแต่รอดชีวิต 1 ราย รวมผู้เสียหาย 14 ราย สำหรับผู้เสียชีวิตรายที่ 13 ที่ตรวจพบในวันนี้เป็นภรรยาของ ด.ต. นิติพนธ์ นุชิต ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ มาให้ปากคำยืนยันว่าผู้เสียชีวิตคือ หนิม-สาวิตรี บุตรศรีรักษ์ อายุ 40 ปี รู้จักเกี่ยวข้องกับแอมก่อนจะเสียชีวิตเมื่อปี 2563 ลักษณะการเสียชีวิตคล้ายกับรายอื่นๆ ที่ถูกวางยา
โดย ด.ต. นิติพนธ์ ให้การว่า ขณะที่ภรรยายังมีชีวิตอยู่ได้รู้จักกับแอม และแอมได้มาขอยืมเงิน ภรรยาจึงได้ไปกู้เงินด่วนมาให้ 150,000 บาท ส่วนอีก 90,000 บาทเป็นเงินของสามีที่มอบให้ภรรยานำไปให้แอมกู้ยืม
จากนั้นไม่นานภรรยา ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของแอม ก็เสียชีวิต ที่ผ่านมาตนยอมรับว่าไม่ติดใจสงสัยสาเหตุการเสียชีวิต กระทั่งเกิดข่าวของแอม และมีผู้เสียชีวิตลักษณะคล้ายๆ กันหลายสิบราย จึงเริ่มสงสัยว่าภรรยาของตนก็อาจถูกวางยาพิษ เพื่อปลดหนี้เช่นกัน
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า แนวทางการสืบสวนขณะนี้ฟันธงว่า สาเหตุการวางยาฆ่าเหยื่อกว่า 10 รายของแอมเพื่อต้องการล้างหนี้ เนื่องจากผู้เสียชีวิตเกือบทั้งหมดเป็นเจ้าหนี้ที่แอมไปกู้ยืมเงินมาเกือบทั้งสิ้น ซึ่งแอมไม่มีรายได้ จึงกู้ยืมเงินจากหลายคนรวมๆ แล้วกว่าล้านบาท พอมีหนี้สินเกิดขึ้นจำนวนมาก ไม่มีเงินไปใช้หนี้ จึงมีความเป็นไปได้ว่าอาจมีคนแนะนำให้ใช้วิธีการวางยาฆ่าล้างหนี้ เมื่อฆ่าแล้วไม่ถูกจับจึงฆ่ามาเรื่อยๆ
สำหรับการสอบปากคำอดีตสามีตำรวจของแอม ถูกสอบสวนในหลายประเด็น โดยเฉพาะความสัมพันธ์กับแอมและความรู้เห็นเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของแอมในการวางยาฆ่าเจ้าหนี้ เบื้องต้นอดีตสามีให้การว่าจดทะเบียนหย่ากับแอม แต่หลังจดทะเบียนหย่าแล้วก็ยังอาศัยอยู่ด้วยกัน จึงสงสัยว่าเด็กในท้องของแอมเป็นลูกของสามีที่อ้างว่าเป็นสามีใหม่ชื่อแด้จริงหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนให้ชัดเจน โดยเป็นการเรียกสอบสวนในฐานะพยาน ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับอดีตสามีตำรวจแต่อย่างใด
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวต่ออีกว่า ส่วนกรณีที่แอมมีประวัติรักษาอาการทางจิต เชื่อว่าไม่มีผลกระทบต่อคดี เนื่องจากมีหลักฐานแน่นหนาว่าแอมรู้เห็นทุกขั้นตอนในการกระทำความผิด เมื่อถึงชั้นสรุปสำนวน ตำรวจจะสั่งฟ้องทุกข้อหาแน่นอน
ส่วนการสอบปากคำเหยื่อที่รอดชีวิตจากการวางยา ซึ่งตอนนี้ยังมีเพียง 1 รายที่รอดมาได้ ให้การเป็นประโยชน์ ระบุว่า แอมพูดจาดี คุยสนุก และคบกันไประยะหนึ่งก็ขอให้ช่วยเรื่องเงิน จากนั้นก็ถูกลอบวางยาหวังฆ่าให้ตาย แต่กลับรอดมาได้