วันนี้ (30 มีนาคม) วศิน วณิชย์วรนันต์ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (สมาคมฯ) และประธานกรรมการบริหาร บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย กล่าวว่า เมื่อไทยเจอผลกระทบจากโควิด-19 ทางคณะรัฐมนตรีมีมติสนับสนุนกองทุนรวมเพื่อการออม (กองทุน SSF) โดยให้วงเงินลงทุนในกองทุน SSF พิเศษสูงสุด 200,000 บาท เพิ่มจากวงเงินลงทุนในกองทุน SSF ที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีปกติสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท รวมสูงสุดสำหรับปีภาษี 2563 ไม่เกิน 400,000 บาท
ทั้งนี้ SSF เฉพาะวงเงินพิเศษ มีกำหนดระยะเวลาลงทุน 3 เดือน คือ ในระหว่างวันที่ 1 เมษายน ถึง 30 มิถุนายน 2563 ขณะนี้มี 13 บลจ. ที่พร้อมเสนอขายกองทุน SSF พิเศษ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 ทั้งนี้ หลังจากนั้นจะมีอีก 6 บลจ. เสนอขายเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ผ่านมาปัจจัยพื้นฐานของหุ้นไทยยังคงอยู่ในระดับที่ดี และราคาได้ปรับตัวลงมามากแล้ว จึงถือเป็นโอกาสการลงทุนที่ดีของผู้สนใจที่จะออมเงินระยะยาว ทั้งนี้ การเสนอขายกองทุน SSF เพื่อให้เกิดการรวมพลังของเม็ดเงินจากการระดมทุนพร้อมๆ กัน ช่วยกระตุ้นการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อันเป็นแหล่งระดมทุนที่สำคัญของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งเป็นกิจการหลักสำคัญของประเทศ ที่ส่งผลให้บริษัทอีกจำนวนมากที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานเดียวกันสามารถประกอบกิจการไปได้
อย่างไรก็ตาม กองทุน SSF วงเงินทั่วไปนั้น บลจ. จะทยอยจัดตั้งกองทุนออกมา โดยจะมีนโยบายการลงทุนให้เลือกหลากหลายตามความสนใจของผู้ลงทุน โดยผู้ลงทุนสามารถลงทุนนับตั้งแต่วันที่เสนอขายไปถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567 สามารถนำไปลดหย่อนภาษีในแต่ละปีภาษีรวมกันทุกกองทุนได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับเงินลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF), เงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD), กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.), กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน, กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท ในปีภาษีเดียวกัน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์