กลุ่มพิทักษ์สิทธิสัตว์ในฝรั่งเศสรวมตัวเรียกร้องให้รัฐบาลนายเอ็มมานูเอล มาครง เร่งหามาตรการป้องกันแก้ไขโดยด่วน หลังจากที่มีโลมาเกยตื้นเสียชีวิตบริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของฝรั่งเศสสูงถึง 1,100 ตัวในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ทำลายสถิติปีที่ผ่านมา และถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 40 ปี
ทางด้าน Willy Daubin สมาชิกของกลุ่มนักวิจัย La Rochelle University’s National Center for Scientific Research ระบุว่า ไม่เคยมีสถิติตัวเลขสูงขนาดนี้มาก่อน ซึ่งกว่า 90% ของโลมาที่เสียชีวิตเกิดจากการถูกจับโดยเครื่องมือทางการประมง ในขณะที่สาเหตุอื่นๆ ยังรอการยืนยันคำตอบ
ในขณะที่ Francois de Rugy รัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมเดินทางมายังมหาวิทยาลัย La Rochelle โดยด่วนหลังจากได้รับทราบข่าว พร้อมกับยืนยันว่า จะหามาตรการในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว พร้อมเสนอแนะจะใช้เครื่องส่งสัญญาณรบกวนให้โลมาออกไปจากบริเวณที่จะใช้อวนหรือตาข่ายดักจับสัตว์น้ำ เพื่อตอบสนองทิศทางนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญของนายมาครงอย่าง ‘Make the Planet Great Again’
ด้านกลุ่มพิทักษ์สิทธิสัตว์อย่าง Sea Shepherd ระบุว่า มาตรการดังกล่าวของนาย Rugy อาจจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องสร้างสัญญาณรบกวนอาจไร้ประโยชน์ในสถานการณ์นี้ พร้อมทั้งระบุว่า เครื่องมือดังกล่าวอาจส่งผลเสียในระยะยาว ซึ่งเป็นการสร้างมลภาวะทางเสียงให้แก่สัตว์น้ำและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมภายใต้ท้องทะเลและมหาสมุทร
จำนวนตัวเลขโลมาที่เสียชีวิตเริ่มสูงขึ้น หลังจากที่รัฐบาลยกไฟเขียวให้แก่ภาคอุตสาหกรรมประมงของประเทศเมื่อราว 3 ปีก่อน หลังความต้องการที่จะบริโภคอาหารทะเลในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: