ที่โรงแรมเช็นทาราแกรนด์เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว พรรคการเมือง 11 พรรค ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพรรคที่ได้คะแนนเสียงทั้งประเทศต่ำกว่าเกณฑ์ ส.ส. พึงมี ประกอบด้วย พรรคพลังชาติไทย, พรรคประชาภิวัฒน์, พรรคไทยศรีวิไลย์, พรรคพลังไทยรักไทย, พรรคครูไทยเพื่อประชาชน, พรรคประชานิยม, พรรคประชาธรรมไทย, พรรคพลเมืองไทย, พรรคพลังธรรมใหม่ และพรรคไทรักธรรม มีมติร่วมกันสนับสนุนให้มีการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว ด้วยการยกมือสนับสนุน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย พร้อมสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
อย่างไรก็ตามทั้ง 11 พรรคการเมืองซึ่งมี ส.ส. รวมกัน 11 คนประกาศด้วยว่าจะยังคงติดตามดูแลการทำงานของรัฐบาลด้วย หากรัฐบาลทำไม่ดีก็พร้อมคัดค้าน
ด้าน สัมพันธ์ เลิศนุวัติ หัวหน้าพรรคพลเมืองไทยยืนยันว่า 11 พรรคการเมืองไม่มีเงื่อนไขในการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี
ด้าน มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์เรียกร้องไปยังพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยอย่าต่อรองให้มาก แต่ขอให้มาร่วมกันทำงาน
ส่วนพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ ขอให้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มความสามารถ และส่วนตัวยังทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลการทำงานของรัฐบาลในเรื่องที่ถูกต้อง และคัดค้านเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
ด้าน ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่กล่าวว่าสมาชิกพรรคมากกว่า 90% ต้องการให้พรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐด้วยเหตุผลในการยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ ซึ่งเห็นว่าพรรคพลังประชารัฐมีโอกาสตั้งรัฐบาลได้ อีกทั้งเป็นการเลือกข้างรักษาสถาบัน แต่จะยังคงรักษาอิสระในการนำเสนอนโยบายพรรค และหากรัฐบาลเกิดคอร์รัปชันก็พร้อมถอนตัวจากรัฐบาล
ขณะที่ พิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย กล่าวว่า เหตุผลสืบทอดอำนาจเป็นเหตุผลแต่ละคน แต่ข้อเท็จจริงนั้นประเทศผ่านการเลือกตั้งมาแล้วจึงต้องขับเคลื่อนให้มีรัฐบาลโดยเร็วที่สุด และขอบคุณพรรคพลังประชารัฐที่นำนโยบายของแต่ละพรรคมาร่วมขับเคลื่อนประเทศ
ด้าน สมเกียรติ ศรลัมพ์ หัวหน้าพรรคประชาภิวัฒน์ กล่าวว่า การเดินหน้าประเทศจะต้องไม่ข้องเกี่ยววาทกรรมประชาธิปไตยหรือเผด็จการ แต่ต้องให้ความสำคัญในการช่วยเหลือประชาชน ด้วยการสนับสนุนให้รัฐบาลทำงานต่อเนื่อง
ด้าน พีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงรวมทั้งประเทศประมาณ 3 หมื่นคะแนน แต่ได้ ส.ส. 1 ที่นั่ง ประกาศพร้อมรับคำวิจารณ์ และให้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ เพราะตนได้เป็น ส.ส. ตามกติกาและรัฐธรรมนูญ
จากนั้นแกนนำพรรคพลังประชารัฐ อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ได้มารับหนังสือซึ่งเป็นมติของทั้ง 11 พรรคในการสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐจัดตั้งรัฐบาลจากตัวแทน 11 พรรค
พร้อมกันนี้ได้กล่าวขอบคุณทั้ง 11 พรรคการเมืองที่มาร่วมกันตั้งรัฐบาลเพื่อนำพาประเทศไปข้างหน้า ซึ่งประชาชนกำลังรอให้ประเทศขับเคลื่อนไปด้วยความราบรื่นและเกิดประโยชน์กับประเทศโดยเร็ว ถือเป็นก้าวสำคัญในการรับใช้ประชาชน ซึ่งทุกพรรคที่มาร่วมงานกันถือเป็นหุ้นส่วน ที่สามารถปรึกษาหารือร่วมกันและท้วงติงกันได้
สำหรับการตั้งรัฐบาลอยู่ระหว่างดำเนินการพูดคุยกับพรรคที่จะมาร่วมงานกัน โดย 11 พรรคการเมืองขนาดเล็กที่มาร่วมตั้งรัฐบาลนั้นไม่มีเงื่อนไขใดๆ
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยนั้น พรรคพลังประชารัฐต้องให้เกียรติทุกพรรคที่มีกระบวนการภายในในการหารือของแต่ละพรรค ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะได้กี่เสียง แต่ก็หวังว่าทุกพรรคจะมาทำงานร่วมกัน
พร้อมยืนยันไม่มีเงื่อนไขจากพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่จะไม่สนับสนุน พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ และพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นรัฐมนตรี ขณะเดียวกันยังไม่สามารถบอกได้ว่าทั้งสองคนจะกลับมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์