เมื่อวานนี้ (22 เม.ย.) เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาดแมกนิจูด 6.1 มีจุดศูนย์กลางการสั่นสะเทือนห่างจากกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ เป็นระยะทางราว 60 กิโลเมตร มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 ราย ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 100 ราย และติดอยู่ภายใต้ซากอาคารอีกเป็นจำนวนมาก
ทางการระบุว่า จังหวัดปัมปังกาได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด มีผู้เสียชีวิตมากถึง 8 ราย ได้รับบาดเจ็บอีก 20 ราย อาคารบ้านเรือนจำนวนมาก รวมถึงโบสถ์เก่าแก่พังเสียหาย ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้งานชั่วคราว ทีมกู้ภัยเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตโดยด่วน ทั้งการใช้สุนัขช่วยดมกลิ่น รวมถึงใช้อุปกรณ์ในการช่วยเคลื่อนย้ายเศษซากอาคาร คาดการณ์ว่า มีผู้ติดอยู่ภายใต้อาคารที่พังถล่มลงมาไม่ต่ำกว่า 31 ราย
สถาบัน Philippine Institute of Volcanology and Seismology เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (23 เม.ย.) สามารถตรวจวัดแรงสั่นสะเทือนอาฟเตอร์ช็อกได้มากกว่า 406 ครั้ง โดยฟิลิปปินส์ตั้งอยู่บริเวณวงแหวนแห่งไฟ ซึ่งมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดมากถึง 90%
เมื่อปี 1990 เคยเกิดแผ่นดินไหวบริเวณตอนเหนือของเกาะลูซอน ขนาดแมกนิจูด 7.8 คร่าชีวิตผู้คนไปไม่ต่ำกว่า 2,400 คน นับเป็นหนึ่งในเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟิลิปปินส์
ภาพ: Noel Celis / AFP
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- www.aljazeera.com/news/2019/04/northern-philippines-jolted-magnitude-61-earthquake-190423010018244.html
- www.scmp.com/news/asia/southeast-asia/article/3007200/five-dead-philippines-after-strong-earthquake-strikes
- www.accuweather.com/en/weather-news/deadly-earthquake-rocks-philippines-buildings-sway-in-manila/70008060