กระทรวงคลังเผย เช้านี้ (25 กันยายน) โอนเงินสำเร็จ 3,167,565 ราย พบยังมีผู้พิการกว่า 90,000 คนยังโอนไม่ผ่าน ขอให้เร่งแก้ไขก่อนวันที่ 22 ธันวาคม เข้มมาเฟีย-เจ้าหนี้นอกระบบยึดเงินหมื่น ประสานมหาดไทยดูแลเข้ม
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการแถลงข่าวเปิดตัว (Kick Off) การโอนเงินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการว่า ยอดเงินทั้งหมดที่จะโอนให้กับกลุ่มเปราะบางและผู้พิการในวันนี้ จำนวน 3,167,565 ราย เริ่มโอนตอนเที่ยงคืน สำเร็จทั้งหมดตอน 7 โมงเช้าวันนี้ และวันนี้นอกจากการโอนเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ยังมีการโอนเงินเดือนข้าราชการด้วย ทำให้ระบบอาจจะช้านิดหนึ่ง แต่กระบวนการทั้งหมดเป็นไปด้วยความราบรื่น
ส่วนการตรวจสอบสิทธิสามารถทำได้ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น แอปพลิเคชันรัฐจ่าย ของกรมบัญชีกลาง สามารถตรวจสอบสวัสดิการได้หลายประเภท ทั้งคนพิการและกลุ่มบัตรสวัสดิการ แต่หากคนที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในรอบต่อไป
อย่างไรตาม ในวันนี้ยังพบว่ามีกลุ่มสวัสดิการที่ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์ ก็ขอให้เร่งไปดำเนินการผ่านทางธนาคารที่มีบัญชี ส่วนในกลุ่มผู้พิการมีอีกราว 90,000 คนยังมีสถานะที่ต้องแก้ไข เช่น บัตรผู้พิการหมดอายุ บัตรผิดพลาด และยังไม่ได้เชื่อมช่องทางในการจ่ายเงิน ซึ่งต้องเร่งประสานทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้เร่งแก้ไขให้เรียบร้อย เพราะเราจะมีการโอนซ้ำอีก 3 ครั้ง คือวันที่ 22 ตุลาคม – 22 พฤศจิกายน และวันที่ 22 ธันวาคม เป็นครั้งสุดท้าย หากดำเนินการแก้ไขไม่ทันวันที่ 22 ธันวาคม ถือว่าสละสิทธิ
ส่วนคนพิการที่ไม่สามารถมาดำเนินการด้วยตนเองได้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มีเจ้าหน้าที่ประจำพื้นที่อยู่แล้ว เพื่อดูว่ามีคนตกหล่นหรือไม่ แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นยืนยันว่าไม่มีคนตกหล่น
ขณะที่ เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า วันนี้จะเห็นถึงความคึกคักที่เกิดขึ้นกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ ทั้งในตลาดและหน้าตู้ ATM ซึ่งบางคนไปกดเงินจากตู้ ATM ได้รับเงิน 10,000 บาท แต่ในบัญชีมีเงินอยู่ 10,010 บาท ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่เปราะบางมากจริงๆ ไม่มีเงินเก็บเลย ดังนั้นเงินที่โอนเข้าสู่บัญชีในวันนี้เป็นไปได้สูงว่าจะถูกนำไปใช้ทั้งหมด ซึ่งจากการสำรวจพบว่าจะมีการดำเนินไปใช้กับปัจจัย 4 ทั้งอาหารเครื่องนุ่งห่ม รวมถึงเครื่องมือสำหรับคนพิการ นอกจากนี้ยังมีการรวมเงินของคนในครอบครัวเพื่อนำไปใช้ซื้อสินค้าคงทน
เมื่อถามว่า หากประชาชนนำเงินที่ได้ไปใช้หนี้จะไม่ตอบโจทย์เรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจใช่หรือไม่ เผ่าภูมิย้ำว่าส่วนใหญ่นำไปใช้จ่าย ซึ่งเป็นปัจจัยแรกที่ประชาชนจะใช้ เพราะคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเปราะบางจริงๆ แม้กระทั่งเงินในการดำรงชีพในแต่ละวันยังไม่พอ จึงต้องนำเงินไปใช้สำหรับการดำรงชีวิตด้วยปัจจัย 4 เป็นเรื่องแรก
ส่วนเรื่องเจ้าหนี้นอกระบบและมาเฟียจะดูแลเรื่องนี้หรือไม่ จุลพันธ์กล่าวว่า การแก้ไขหนี้นอกระบบทางกระทรวงมหาดไทยเป็นแม่งานร่วมกับกระทรวงการคลัง เราเดินหน้าตั้งแต่สมัย เศรษฐา ทวีสิน ยังไม่ได้หยุดดำเนินการ และความคืบหน้าการทำงานเรื่องนี้ยังคงเข้มข้น เรายืนยันว่าการปราบปรามเจ้าหนี้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนดเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสนใจ ขณะนี้เงินเข้าถึงมือประชาชนกลุ่มเปราะบาง ขอโอกาสให้เขาได้ใช้เพื่อที่จะเป็นประโยชน์ต่อชีวิต ซึ่งการโอนเงินครั้งนี้นอกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว วันนี้ตลาดสด ตลาดค้าส่ง-ค้าปลีก จะมีความคึกคักเป็นอย่างมาก และสำหรับกลุ่มเปราะบางยังถือเป็นการจุนเจือและลดภาระค่าครองชีพ
ดังนั้น ขอโอกาสที่เขาจะได้นำไปใช้สร้างชีวิต ช่วยเหลือครอบครัว หากมีข่าวสารเรื่องหนี้นอกระบบเข้ามาทวงต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด ตนมีโอกาสได้คุยกับ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งตนจะนำเรียนเรื่องดังกล่าวเพื่อให้อนุทินช่วยกระชับพื้นที่ด้วย
เมื่อถามถึงการตรวจสอบสถานะผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จุลพันธ์กล่าวว่าจะทบทวนทุก 2 ปี ซึ่งรอบหน้าจะทบทวนในเดือนตุลาคม 2568 แม้จะถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้สิทธิในรอบนี้ เพราะหากบัตรนั้นไม่ได้อยู่ในกรอบที่จะได้รับสิทธิในรอบนี้ก็ถือว่าไม่นับ เพราะฉะนั้นต้องดูว่าในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐยังได้รับการโอนเงินช่วยเหลือรายเดือนในทุกเดือนอยู่หรือไม่