104 วัน จาก 23 มกราคม ถึง 18 เมษายน คือช่วงเวลาที่ ฌอง เอวราร์ด คูอัสซี ปีกตัวจี๊ดวัย 25 ปี ชาวไอวอรีโคสต์ ของทีมอู่ฮั่น ซอลล์ (Wuhan Zall) จะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต
อย่างที่เราได้รับรู้กันว่าเมืองอู่ฮั่นคือศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นจุดเริ่มต้นของหายนะครั้งยิ่งใหญ่ของโลกในปี 2020 ที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 100 ปี ไม่ต่างอะไรจากมหาสงครามโลกครั้งที่ 2
ทุกประเทศทั่วโลกยังคงต้องต่อสู้อย่างหนักกับสิ่งมีชีวิตตัวร้ายเล็กๆ ที่มองไม่เห็น มีจำนวนผู้ติดเชื้อรวมกันทั้งโลกมากกว่า 3 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตแล้วเกินกว่า 2 แสนคน แต่อย่างน้อยสถานการณ์ที่กลับสู่สภาวะใกล้เคียงปกติ และข่าวการ ‘เปิดเมือง’ อู่ฮั่นก็เป็นสัญญาณที่ดี เป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ของเรื่องนี้
โดยเฉพาะสำหรับคูอัสซีและเพื่อนร่วมทีมของเขา ที่ต้องผ่านอะไรมาไม่น้อยตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ที่พวกเขาจำเป็นจะต้องออกจากเมืองที่อยู่อาศัยเป็นการชั่วคราว
ไม่มีใครรู้ว่ามันจะเป็นการเดินทางที่ยาวไกลและหนาวเหน็บในหัวใจขนาดนั้น
ย้อนหลังกลับไปในช่วงต้นเดือนมกราคม เหล่านักเตะในทีมอู่ฮั่น ซอลล์ต่างขะมักเขม้นกับการเก็บตัวในช่วงพรีซีซันอยู่ที่เมืองกวางโจว ซึ่งอยู่ห่างจากอู่ฮั่นราว 520 ไมล์
เป้าหมายอยู่ที่ความพร้อมขั้นสูงสุดก่อนที่ฤดูกาลใหม่ของไชนีสซูเปอร์ลีกจะเริ่มในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์
แต่แล้วการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสตัวร้ายก็ทำให้ทุกอย่างตกอยู่ในความโกลาหล มีคำสั่งปิดเมืองอู่ฮั่นในวันที่ 23 มกราคม คำสั่งนี้ทำให้ใครเข้าเมืองก็ไม่ได้ และคนที่อาศัยอยู่ภายในก็ออกจากเมืองไม่ได้เหมือนกัน
นั่นหมายถึงทั้งทีมอู่ฮั่น ซอลล์ถูกตัดขาดจากครอบครัวและเพื่อนฝูงอย่างสิ้นเชิง
สถานการณ์คับขันดังกล่าวทำให้สโมสรตัดสินใจที่จะส่งตัวผู้เล่นและสตาฟฟ์โค้ชทั้งทีมไปเก็บตัวต่อที่สเปนเพื่อหนีโรคระบาดและเพื่อเตรียมความพร้อมต่อ โดยบินไปลงที่เมืองมาลากา และเข้าแคมป์เก็บตัวที่คอสตาเดลโซลในอีก 6 วันหลังคำสั่งล็อกดาวน์
ในเวลานั้นทุกคนยังเชื่อว่าพวกเขาจะได้กลับจีนทันเวลาก่อนที่ฤดูกาลใหม่จะเริ่มต้น แต่มันก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น
และสถานะของคนที่มาจากอู่ฮั่นได้กลายเป็นตราบาปแก่พวกเขาทั้งที่ไม่ได้เตรียมตัวและไม่เคยเตรียมใจ
“มีช่วงเวลาที่แปลกประหลาดเยอะแยะมากมาย มีสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมและเพื่อนร่วมทีมที่เราคงจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต” คูอัสซีเผย
ปัญหาที่เขาและทีมเจอคือ อู่ฮั่นกลายเป็นคำต้องห้ามในยุโรป ไม่มีใครต้อนรับพวกเขาอีกต่อไป โรงแรมที่พักที่จองไว้ถูกยกเลิก การติดต่อกับคนภายนอกศูนย์ฝึกกลายเป็นเรื่องที่ยากจนแทบจะเป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นในระดับคนทั่วไปหรือในระดับของคนทำงานมืออาชีพเองก็ตาม
“ช่วงเวลาในสเปนเป็นช่วงเวลาที่ยาก เป็นช่วงเวลาที่ลำบากมาก” คูอัสซีกล่าว “เพราะเราจำเป็นต้องสวมยูนิฟอร์มของสโมสรในเวลาที่เราออกไปข้างนอก ดังนั้นทุกคนจะเห็นชัดว่าเราคือใคร และพวกเขาก็มองเราแบบแปลกแยก โดยเฉพาะนักฟุตบอลชาวจีนที่เจอกับประสบการณ์เลวร้ายมากๆ ในซูเปอร์มาร์เก็ต
“สำหรับสตาฟฟ์โค้ชเองก็เจอกับความยากลำบากเหมือนกัน พวกเราซ้อม แต่ไม่มีใครเลยที่อยากจะมาเล่นกระชับมิตรกับเรา ทุกสัปดาห์เราอยากจะมีเกมลงเล่นกับทีมอื่น แต่เราหาคู่แข่งไม่ได้เลย นั่นหมายความว่าแผนของทีมโค้ชต้องมีการปรับเปลี่ยน และโค้ชจำเป็นต้องคิดในแบบที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
“เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อทีม เพราะเราทำได้แค่ฝึกซ้อมไปวันๆ ทุกคนอยากจะทำอะไรที่แตกต่าง แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็เหมือนเดิม”
สิ่งเลวร้ายที่นักเตะชาวจีนได้พบเจอทำให้ยิ่งเป็นความท้าทายของนักฟุตบอลชาวต่างชาติอย่างคูอัสซี เพื่อนๆ ที่มีรวม 5 คน และโค้ชชาวสเปนอย่าง โฆเซ่ กอนซาเลซ ที่ต้องแบกรับในสิ่งที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ในทีมไม่พร้อมจะเผชิญ
เพราะแม้กระทั่งการลงซ้อมทั่วไป นักเตะจีนก็ไม่อยู่ในสภาพจิตใจที่จะลงสนามไหว
“บรรยากาศนั้นเลวร้ายมาก” คูอัสซีเล่าในสิ่งที่เกิดขึ้น “เวลาที่ลงซ้อมเราจะได้เห็นว่านักฟุตบอลจีนไม่อยากที่จะออกมาเลย พวกเขาดูกังวลและรู้สึกแปลกแยก ทุกวันมันจะมีข่าวมาจากอู่ฮั่น และส่วนใหญ่มันคือข่าวร้าย จะมีคนที่ได้ข่าวว่ามีคนใกล้ชิดป่วย
“สถานการณ์แบบนี้ทำให้การเล่นฟุตบอลเป็นไปได้ยาก ดังนั้นโค้ชจึงพยายามจะทำให้การซ้อมกระชับขึ้น พวกเราต้องพยายามที่จะทำให้ตัวเราเองมีความสุข ทุกสัปดาห์เราจะมีวันพักที่จะได้ออกไปข้างนอกแคมป์บ้าง แต่มันก็เป็นเรื่องเลวร้ายโดยเฉพาะกับเพื่อนๆ นักเตะชาวจีน”
เรื่องนี้จึงเป็นที่มาของประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน แต่มันก็ไม่ได้มีแค่นั้น
บรรยาย: แฟนบอลอู่ฮั่น ซอลล์ มาให้การต้อนรับขวัญใจของพวกเขาที่ได้เดินทางกลับบ้านครั้งแรกเมื่อ 18 เมษายนที่ผ่านมา
ข่าวการอนุญาตให้รถไฟความเร็วสูงออกจากอู่ฮั่นได้ทำให้เขารู้สึกมีความสุขกับเพื่อนมากกว่าตัวเอง เพราะนั่นหมายถึงการที่จะมีหลายๆ คนจะมีโอกาสได้พบกับครอบครัวบ้าง รวมถึงคูอัสซีที่ได้เดินทางไปเยี่ยมบ้านเกิดที่ไอวอรีโคสต์ในช่วงสั้นๆ แต่ฝันร้ายมันไม่ได้จบแค่นั้น
คูอัสซีถูกเรียกตัวกลับมาสเปนในวันที่ 14 มีนาคมเป็นการด่วน สถานการณ์ในแดนกระทิงดุเวลานั้นกำลังร้อนเหมือนไฟนรก ผู้คนเจ็บป่วยล้มตายจำนวนมาก และสโมสรตัดสินใจเด็ดขาดว่าการกลับจีนอาจจะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด
แต่ก็ไม่ได้แปลว่าพวกเขาจะได้กลับเข้าบ้านทันที ในทางตรงกันข้าม ทุกคนได้เจอกับบททดสอบที่ยากเย็นอีกขั้นของชีวิต
ผู้เล่นของทีมอู่ฮั่น ซอลล์บินกลับจากสเปนมาที่เซินเจิ้น และต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 2 สัปดาห์ในห้องพักที่มองไม่เห็นเดือน ไม่เห็นตะวัน
“ผมเรียกมันว่าคุก” คูอัสซีกล่าว
“มันเหมือนกับการติดคุก การกักตัวนั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก และมันจะเป็นช่วงเวลาที่จะอยู่กับผมไปตลอดชีวิต เราไม่สามารถออกไปไหนได้เลยในช่วงเวลา 14 วัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก”
สิ่งที่เขาและทีมทำได้นอกจากการใช้ชีวิตประจำวันอย่างการนอนเล่น ทำกับข้าวกินเอง ดูทีวี ก็มีแค่การพยายามรักษาสภาพความฟิตด้วยการวิดพื้นและออกกำลังกายในรูปแบบอื่นๆ
โชคดีที่การกักตัวผ่านไปด้วยดี ทำให้อู่ฮั่น ซอลล์ได้รับอนุญาตให้ไปเก็บตัวในแคมป์ใกล้กับเมืองกวางโจว และล่าสุดทุกคนได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว ก่อนจะเพิ่งลงฝึกซ้อมในอู่ฮั่นได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม
แต่กระบวนการยังไม่จบแค่นี้ “เราต้องถูกตรวจเลือดทุกวันก่อนการซ้อม ดีที่การตรวจรวดเร็วและทุกอย่างโอเค
“ผมไม่ได้รู้สึกว่าโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเราในเวลานี้ ถ้าเราเคารพในสิ่งที่เราถูกขอร้องให้ทำ เช่นการสวมหน้ากากในเวลาที่ออกไปข้างนอก และในระหว่างการเดินทางจากบ้านไปสนามซ้อม ทุกอย่างก็จะผ่านไปด้วยดี”
สำหรับสถานการณ์ในอู่ฮั่น เมืองนั้นยังไม่ถึงกับ ‘หายดี’ เต็มร้อย
แต่ก็เริ่มมีสัญญาณชีวิต ชีพจรของเมืองอย่างร้านค้าและร้านอาหารเริ่มทยอยเปิดอีกครั้ง ชาวเมืองเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติ โดยที่ทุกคนต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ‘Green Code’ ซึ่งจะตรวจสอบข้อมูลสุขภาพก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้ใช้บริการขนส่งสาธารณะหรือที่ชุมชน
“ตอนที่เราจากมา เราได้ยินอะไรเยอะแยะมากมาย แต่ตอนนี้เราเริ่มมองเห็นแล้วว่าชีวิตเริ่มกลับมาโอเคอีกครั้งแล้ว”
ถึงแม้จะยังไม่รู้ว่าไชนีสซูเปอร์ลีกจะกลับมาได้เมื่อไร ซึ่งมีการคาดกันไว้ว่าจะเป็นช่วงเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคมนี้ แต่อย่างน้อยการก้าวผ่านช่วงเวลาที่เลวร้าย 104 วันของชีวิตก็ทำให้คูอัสซีได้รู้แล้วว่าอะไรที่สำคัญ
สิ่งนั้นคือการที่ทุกคนได้กลับมาใช้ชีวิตปกติ
และคูอัสซีก็หวังว่าทุกคนบนโลก ไม่เฉพาะแค่ที่จีน จะกลับมามีชีวิตเหมือนเดิมได้อีกครั้งในเร็วๆ นี้
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: