เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งย่างก้าวที่สำคัญสำหรับ Zipmex หนึ่งในแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียแปซิฟิก กับการประกาศการระดมทุนรอบ Series B ด้วยมูลค่า 41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเป็นเงินมูลค่ากว่า 1.3 พันล้านบาท
“การระดมทุนในรอบนี้ทำให้ Zipmex มีมูลค่าหลักหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำลังมุ่งไปสู่การเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลักพันล้านดอลลาร์สหรัฐในไม่ช้านี้ ซึ่งเรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับกลุ่มนักลงทุนหลากหลายราย รวมถึงผู้ที่ยังไม่เปิดเผย ณ ตอนนี้” ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานผู้บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง Zipmex กล่าว
ความร่วมมือจากบริษัทชั้นนำ
สิ่งที่ต้องจับตามองจากการระดมทุนในครั้งนี้ของ Zipmex คือ นี่เป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทร่วมลงทุน (CVC) ในเครือธนาคาร และ Venture Capitalists ระดับโลก ได้ร่วมลงทุนในแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล
ไม่ว่าจะเป็นบริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุน (CVC) ในเครือธนาคารกรุงศรีฯ รวมถึงบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) และบริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) ที่ได้ประกาศเข้าร่วมลงทุนก่อนหน้านี้
นอกจากนักลงทุนที่กล่าวมาข้างต้นแล้วยังมี MindWorks Capital ซึ่งเป็นบริษัทจากฮ่องกง รวมถึงผู้นำในการระดมทุนรอบ Series A ที่ผ่านมา Jump Capital ผู้บริหารเงินร่วมลงทุนในสหรัฐฯ ร่วมลงทุนในรอบนี้ด้วย
นี่จึงเป็นสัญญาณที่ชัดเจน และตอกย้ำว่าสินทรัพย์ดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาท รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันมากขึ้น
“การระดมทุนรอบนี้เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับเรา ไม่ได้เพียงแต่แสดงถึงความถูกต้องของรูปแบบธุรกิจของเรา และแนวทางในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเท่านั้น แต่การระดมทุนรอบนี้ยังแสดงถึงศักยภาพของสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะกลายเป็นส่วนสำคัญของไลฟ์สไตล์ของเรา” ดร.เอกลาภกล่าว “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับกลุ่มนักลงทุนที่หลากหลาย ในขณะที่เรายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก”
โดยปัจจุบัน Zipmex คือแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลเพียงแห่งเดียวที่ดำเนินการและปฏิบัติตามกฎหมายใน 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย
(ซ้าย) แซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด
(ขวา) ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานผู้บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง Zipmex Thailand
ผนึกกำลังกับ ‘กรุงศรี ฟินโนเวต’
สิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้คือ การเข้ามาของ ‘กรุงศรี ฟินโนเวต’ ซึ่งที่ผ่านมาได้ลงทุนในสตาร์ทอัพตั้งแต่ Series A เป็นต้นไป โดยครอบคลุมฟินเทคอีกหลายสาขา และมีการเชื่อมต่อนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ากับธุรกิจของกรุงศรีฯ เช่น บล็อกเชน สินเชื่อ อีคอมเมิร์ซ ประกันภัย และการโอนเงินข้ามพรมแดน นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในอีกหลายอุตสาหกรรม ได้แก่ บริษัท Grab, Flash Express, SYNQA และ FINNOMENA
“กรุงศรี ฟินโนเวต ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีทางด้านการเงินในอนาคต แน่นอนวันนี้สินทรัพย์ดิจิทัลถือเป็นเทคโนโลยีหนึ่งที่สำคัญมากๆ และเป็นเทคโนโลยีที่กรุงศรีฯ ต้องไปดูแลอย่างใกล้ชิด และหลังจากใช้เวลาค้นหามากกว่า 1 ปี เราจึงได้เลือก Zipmex สำหรับการลงทุนอย่างเป็นทางการ” แซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด กล่าว
แซมขยายความว่า เหตุผลที่เลือก Zipmex มาจากจุดแข็งในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการทำตลาดใน 4 ประเทศ มีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างมากมาย เป็นต้น
“การได้ร่วมลงทุนกับ Zipmex จะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะช่วยยกระดับเทคโนโลยีทางการเงิน เชื่อมโยงธุรกิจต่างๆ โดยกรุงศรีฯ เชื่อมั่นว่าจะเป็นโอกาสที่สำคัญในการเดินหน้าสู่ธุรกิจหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เสริมสร้างความแข็งแกร่งของ Ecosystem และเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายที่สำคัญในการเป็นรากฐานของระบบการเงินดิจิทัลแห่งโลกอนาคต
“ยิ่งไปกว่านั้น การที่กรุงศรีฯ เป็นบริษัทในเครือของ มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) หนึ่งในกลุ่มสถาบันทางการเงินชั้นนำของโลกที่มีเครือข่ายกว่า 50 ประเทศทั่วโลก จะเป็นจุดแข็งที่จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือในอนาคตระหว่างกรุงศรีฯ และ Zipmex ในภูมิภาคอาเซียนและในระดับโลกได้เป็นอย่างดี”
เปลี่ยนการลงทุนให้เข้าใจง่าย
ความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนการลงทุนให้เข้าใจง่าย เพื่อให้ทุกคนลงทุนได้ทุกที่ทุกเวลาบนแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล ผ่านแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ที่เข้าถึงง่าย โดยผู้ใช้จะสามารถเข้าถึงบริการนวัตกรรมทางการเงินที่หลากหลาย นับเป็นจุดแข็งที่สร้างความแตกต่างให้กับ Zipmex
จึงไม่ต้องแปลกใจ หากระยะเวลาเพียง 1 ปีของการก่อตั้งแพลตฟอร์มในเมืองไทย จะมีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนไปแล้วกว่า 1 ล้านคน โดยมูลค่าการเทรดกำลังพุ่งทะยานขึ้นไปสู่มูลค่ากว่า 140,000 ล้านบาท
ขณะที่ Asset Under Management หรือสินทรัพย์ภายใต้การจัดการของ Zipmex ณ เดือนสิงหาคม 2564 อยู่ที่ 3.6 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าภายใน 2 ปี ตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้น 16 เท่า เป็น 8.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทุกบริการของ Zipmex ต่างเติบโตขึ้นอย่างถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็น ZipTrade ที่เพิ่มขึ้น 256% ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ขณะที่ ZipUp การออมกระแสรายวัน และ ZipLock การฝากประจำ 45 วัน มีการลงทุนเพิ่มขึ้นมากถึง 450%
อีกสิ่งที่ทำให้ Zipmex แตกต่างไม่เหมือนใครคือ ‘โทเคน ZMT (Zipmex Token)’ ซึ่งมีการซื้อขายที่สูงถึง 1 พันล้านบาท นับตั้งแต่เปิดตัวในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ยังไม่หมดเท่านั้น Zipmex ยังมี ZipSpend ในหลาย ๆ ประเทศ ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ในการชำระด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล อำนวยความสะดวกต่อการทำธุรกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการแลกซื้อรถยนต์ ศิลปะ หรืออสังหาริมทรัพย์
ขณะเดียวกันเมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2564 Zipmex ได้ประกาศผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด Zipmex Card ซึ่งเป็นบัตรชำระเงินรูปแบบใหม่ที่จะเปิดตัวในปลายปีนี้ โดยได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ Visa เปิดโอกาสให้ลูกค้ามีอิสระในการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลกับร้านค้ากว่า 70 ล้านราย ผ่านทางเครือข่ายการชำระเงินทั่วโลกของ Visa ที่มีความรวดเร็ว เชื่อถือได้ และปลอดภัย
Zipmex ยังได้เปิดตัว ZipWorld เวอร์ชันเบตา โลกแห่งสินทรัพย์ดิจิทัลที่ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ ไลฟ์สไตล์สุดพิเศษ และประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟไม่เหมือนใครด้วย ZMT และยังมี Z-Launch แพลตฟอร์มที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนได้ก่อนใคร ซึ่งในอนาคตอันใกล้จะมีการขยายไปยังตลาดที่ให้บริการในต่างประเทศอีก 3 แห่ง นอกจากนี้ Zipmex ยังได้มีการวางแผนที่จะลิสต์ Non-Fungible Token (NFT) ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้บน ZipWorld อีกด้วย
จากการได้รับการลงทุนในครั้งนี้ ตลอดการวางทิศทางที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มและผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของนักลงทุน พร้อมทั้งพัฒนา Ecosystem ของสินทรัพย์ดิจิทัลในทวีปเอเชียแปซิฟิก จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ Zipmex เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และก้าวไปสู่การเป็น ‘ยูนิคอร์น’ ตัวต่อไปของเอเชียในอนาคตอันใกล้นี้
