Zhongrong International Trust Co. เผยพลาดการชำระหนี้ (Missed Payment) ผลิตภัณฑ์หลายสิบรายการแล้ว และมียอดค้างชำระ (Overdue) อย่างน้อย 30 รายการ พร้อมทั้งยอมรับว่าบริษัทยังไม่มีแผนหาเงินมาชำระหนี้ลูกค้าสักรายเดียว
เมื่อต้นสัปดาห์ Wang Qiang เลขานุการคณะกรรมการของ Zhongrong International Trust Co. เปิดเผยในการประชุมผู้ถือหุ้นว่า บริษัทได้พลาดการชำระเงิน (Missed Payment) สำหรับผลิตภัณฑ์การเงินบางรายการไปเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม หลังจากพลาดการชำระผลิตภัณฑ์การเงินอื่นๆ ไปแล้วอย่างน้อย 10 รายการแล้ว ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม
โดยแหล่งข่าวในการประชุมดังกล่าวยังเปิดเผยกับ Bloomberg อีกว่า ขณะนี้ Zhongrong มีผลิตภัณฑ์อย่างน้อย 30 รายการที่ค้างชำระ (Overdue) อยู่ นอกจากนี้บริษัทยังได้ขอระงับการไถ่ถอน (Redemption) ตราสารระยะสั้นบางรายการด้วย
ในการประชุมผู้ถือหุ้น Wang Qiang ยังยอมรับว่า บริษัทยังไม่มีแผนที่จะหาเงินมาชำระเงินคืนนักลงทุน ‘ในทันที’ เนื่องจากสภาพคล่องในระยะสั้นของบริษัทได้เหือดแห้งไปอย่างกะทันหัน แต่ขอให้ทุกฝ่ายอดทน ขณะที่บริษัทพยายามกอบกู้มูลค่าของการลงทุนอยู่
ทั้งนี้ Zhongrong International Trust ถือเป็นบริษัทใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในอุตสาหกรรมทรัสต์มูลค่า 2.9 ล้านล้านดอลลาร์ของจีน โดยอุตสาหกรรมนี้ถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจจีนโต เนื่องจากทำหน้าที่เป็นตัวกลางรวบรวมเงินออมจากครัวเรือนที่ร่ำรวยและลูกค้าองค์กร เพื่อนำมาลงทุนและปล่อยสินเชื่อเพื่อสร้างผลตอบแทนอีกที
โดย Zhongrong International Trust ยังเป็นบริษัทในเครือ Zhongzhi Enterprise Group ซึ่งบริษัทบริหารสินทรัพย์รายใหญ่ในจีน ซึ่งมีสินทรัพย์ภายใต้การดูแล (AUM) มากกว่า 1 ล้านล้านหยวน (หรือราว 4.88 ล้านล้านบาท) จึงได้ชื่อว่าเป็น Blackstone แห่งประเทศจีน และเป็นหนึ่งธนาคารเงา (Shadow Banking) รายใหญ่ที่ทางการจีนพยายามจะควบคุมเมื่อปี 2017 เพื่อลดความเสี่ยงสำหรับลูกค้ารายย่อยหลายแสนรายที่ซื้อผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนสูงเหล่านี้โดยคิดว่าปลอดภัย
การพลาดการชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้นของ Zhongrong ที่เพิ่มขึ้น ยังส่งสัญญาณว่าปัญหาที่ Zhongzhi Enterprise Group ย่ำแย่กว่าที่หลายฝ่ายคิดไว้ในตอนแรก
อย่างไรก็ดี ล่าสุด ทางการจีนได้จัดตั้งทีมงานเฉพาะกิจขึ้นมาเพื่อศึกษาว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะมีโอกาสลุกลามหรือไม่แล้ว ตามรายงานที่อ้างแหล่งข่าวของ Bloomberg
จับตา ‘โดมิโนล้ม’ ลามถึงภาคธนาคารจีน
Shuo Yang นักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs Group Inc. ระบุในบันทึกว่า จากเหตุการณ์เร็วๆ นี้ เราคาดว่าการเติบโตของผลิตภัณฑ์ทรัสต์จะชะลอตัวลง ซึ่งอาจส่งผลให้เงื่อนไขการปล่อยเงินกู้ให้ภาคอสังหาริมทรัพย์เข้มงวดขึ้น จนส่งผลกระทบต่อรายได้และงบดุลของธนาคาร
โดยความท้าทายด้านสภาพคล่องในปัจจุบันยังเป็นการเน้นย้ำว่าปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีนกำลังส่งผลกระทบไปถึงภาคการเงิน
ตามข้อมูลของ Bloomberg Economics ระบุว่า อุตสาหกรรมทรัสต์ในจีนลงทุน (Exposure) ในภาคอสังหาริมทรัพย์ประมาณ 2.2 ล้านล้านหยวน หรือคิดเป็น 10% ของสินทรัพย์ทั้งหมด ณ สิ้นปี 2022 โดยผลิตภัณฑ์ทรัสต์จำนวนมากก็ถูกหนุน (Back) โดยโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทที่มีปัญหา รวมถึง China Evergrande Group
อ้างอิง: