วันนี้ (4 สิงหาคม) ที่อาคารรัฐสภา ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดมหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 แถลงข่าวถึงกรณีที่กรรมาธิการงบประมาณในส่วนพรรคเพื่อไทยตัดสินใจโหวตโยกงบประมาณที่ถูกปรับลงไปไว้ในงบกลาง 1.63 หมื่นล้านบาท ว่า มีการตั้งคำถามว่าจะเป็นการตีเช็คเปล่าให้กับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือไม่ และเมื่อดูงบกลางปี 2564 ได้รับประมาณ 6.14 แสนล้านบาท เพื่อนำไปใช้จ่ายในการบรรเทาแก้ปัญหาเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิดจำนวน 4.03 หมื่นล้านบาท ขณะที่ปี 2565 มีงบกลางประมาณ 5.71 แสนล้านบาท แต่กลับไม่มีงบประมาณที่จะนำไปบรรเทาเยียวยาแก้ไขปัญหาโควิดเลย จึงเป็นเหตุให้กรรมาธิการงบประมาณฝั่งพรรคเพื่อไทยมีมติโหวตเป็นเอกฉันท์ เพื่อให้นำเงิน 1.63 หมื่นล้านบาท ไปช่วยแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนทั้งหมด และมั่นใจว่าไม่ใช่เป็นการตีเช็คเปล่า เพราะทุกอย่างมีระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทาแก้ไขปัญหาและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด ที่ออกโดยสำนักงบประมาณ มากำกับไว้ ซึ่งในระเบียบดังกล่าวยังระบุวัตถุประสงค์ในการใช้จ่ายไว้อย่างชัดเจน โดยทุกหน่วยงานต้องปฏิบัติตามระเบียบขั้นตอน ถ้าพบการทุจริตต้องรับผิดชอบ
นอกจากนั้นยุทธพงศ์ยังกล่าวว่า งบประมาณที่ให้ไปทั้งหมดการันตีได้ว่าจะถูกนำไปช่วยประชาชนที่เกี่ยวกับปัญหาโควิดอย่างแน่นอน แม้ทางพรรคก้าวไกลจะออกมาระบุว่า เหตุใดไม่โยกไปให้ในส่วนของท้องถิ่น ก็ยอมรับว่าท้องถิ่นก็มีความจำเป็น แต่เงินเราก็มีจำกัด กรณีที่มี ส.ส. พรรคก้าวไกล ออกมาตอบโต้ตนนั้น ตนก็ไม่อยากตอบโต้กลับ เพราะแต่ละพรรคและแต่ละคนมีสิทธิคิดและตัดสินใจ
ในการตัดปรับลดงบประมาณปี 2565 นั้นจะเห็นได้ว่า ทางพรรคเพื่อไทยได้ขอให้ตัดงบประมาณตั้งแต่กรณีการจัดซื้อเรือดำน้ำแล้ว แต่การแปรญัตติพรรคก้าวไกลไม่เห็นมีการแปรญัตติไปช่วยโควิดเลย การโหวตของกรรมาธิการงบประมาณฝั่งพรรคเพื่อไทยที่ไปตรงกับพรรคร่วมรัฐบาลคงเป็นเพราะ ส.ส. ทุกคนเห็นว่าขณะนี้ประชาชนกำลังเดือดร้อนกับโควิดจริงๆ ขอย้ำว่าถ้ามีการนำงบประมาณในส่วนของงบกลางไปใช้ผิดระเบียบ ไม่ได้ใช้เกี่ยวกับโควิด ถ้ามีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ ตนก็พร้อมลาออกจาก ส.ส. และเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต
ทั้งนี้ ยุทธพงศ์ได้กล่าวถึงกรณีการโต้ตอบกับ ตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส อดีตผู้สมัคร ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย ด้วยถ้อยคำรุนแรง จนออกมาตั้งคำถามว่าไม่เหมาะสมนั้น ตรีรัตน์ไม่เคยเป็น ส.ส. และพรรคเพื่อไทยให้โอกาสหลายครั้ง ถามว่ามาอ้างสิทธิเป็นตัวแทนประชาชนได้อย่างไร ทั้งที่สอบตกและออกจากพรรคเพื่อไทยไปแล้ว แต่กลับมาว่าพรรคเพื่อไทย ตรีรัตน์ไม่มีราคาทางการเมือง แต่กลับเข้ามาใน Clubhouse และอ้างว่าเป็นตัวแทนประชาชน ตนจึงถามว่าเป็นตัวแทนประชาชนได้อย่างไร ในเมื่อไม่ได้เป็น ส.ส. ทั้งที่เคยอยู่พรรคเพื่อไทยแต่กลับมาด่าพรรค และที่อ้างว่าออกไปเพราะเลือดไหล ย้ำว่าจะเลือดไหลได้อย่างไร ในเมื่อไม่ได้เป็น ส.ส. ทำไมตรีรัตน์ออกไปแล้วต้องมาด่าพรรค หากใครดีเลวก็ว่าไป พรรคทำอะไรให้เสียหาย อย่าลืมว่าคนรู้จักวันนี้เพราะลงสมัคร ส.ส. ในนามพรรคเพื่อไทย