Heart over Height ยูกิ คาวามูระ เพราะหัวใจใหญ่กว่าตัวเสมอ

ภาพของนักบาสเกตบอลร่างจิ๋วท่ามกลางเหล่าคนยักษ์ สร้างความปั่นป่วนและป่วนปั่นไปทั่วสนาม ที่ให้ความรู้สึกคล้ายได้เห็นกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางโผล่มาซุกซนบนเกาะเอลบัฟ กลายเป็นภาพที่น่าประทับใจอย่างน่าประหลาดสำหรับคนที่ได้เห็น

นั่นไม่เพียงเพราะความคอนทราสต์ที่ชัดเจนระหว่างส่วนสูง

แต่เป็นเพราะความมหัศจรรย์ในท่วงท่าและลีลาการเล่นของนักบาสเกตบอลจิ๋วคนนั้นต่างหากที่สะกดสายตาและหัวใจของทุกคนเอาไว้อย่างง่ายดาย

ใครบ้างเล่าที่จะไม่หลงรัก ยูกิ คาวามูระ พอยต์การ์ดคนใหม่ของชิคาโก บูลส์ในศึกบาสเกตบอลเอ็นบีเอ?

เรื่องราวของ ยูกิ คาวามูระ กับการผจญภัยในสหรัฐอเมริกา ดินแดนที่เป็นเหมือน “เกาะสุดท้าย” ของเหล่าผู้มีความฝันในการยัดห่วง ความจริงไม่ใช่เรื่องที่แปลกหรือใหม่อะไร

สำหรับหลายคนเรื่องราวของนักบาสเกตบอลคนนี้อาจจะเคยผ่านหูผ่านตากันมาบ้างแล้ว เพราะเขาผ่านการเป็น “รุกกี้” (Rookie) ในศึกบาสเก็ตบอลเอ็นบีเอมาเมื่อฤดูกาลที่แล้วกับเมมฟิส กรีซลีย์

โดยที่ในช่วงเวลาสั้นๆ นั้น เป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจไม่น้อย ความจริงเราพอจะพูดได้เต็มปากว่ายูกิ เด็กหนุ่มจากเมืองยานาอิ คือขวัญใจของชาวเมมฟิสเลยทีเดียว

แต่กว่าจะมาถึงตรงนั้น ไม่เคยมีอะไรง่ายสำหรับเด็กหนุ่มคนนี้

ยูกิ เป็นนักบาสเกตบอลในระดับ Rising star ของประเทศญี่ปุ่นที่เฉิดฉายเจิดจ้ามานานตั้งแต่ครั้งยังเรียนอยู่ในระดับไฮสคูล จนมาถึงในระดับมหาวิทยาลัย ก่อนจะก้าวไปสู่เส้นทางของการเป็นนักบาสเกตบอลอาชีพได้อย่างรวดเร็ว

บนแผ่นดินอาทิตย์อุทัยแล้ว ยากจะหาใครที่ต่อกรกับเขาได้

นั่นเพราะยูกิมีทักษะและพรสวรรค์ในการเล่นระดับสูง มีสายตาที่มองเห็นเส้นทางในการลำเลียงบอลที่คนอื่นอาจจะมองไม่เห็น และเซลล์ประสาทในสมองที่รวดเร็วทำให้ตัดสินใจได้แม่นยำและถูกต้องกว่าคนอื่นภายในช่วงเวลาเสี้ยววินาที

พูดง่ายๆ คือ “คลาส” ของเขาเหนือชั้นกว่าคนอื่น

มากกว่านั้นคือการเล่นที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ตื่นเต้น น่าติดตามดู เพราะยูกิจะมีจังหวะการเล่นที่เข็มขัดสั้น (คาดไม่ถึง!) ให้อ้าปากค้างอยู่เสมอ

ปัญหาใหญ่ที่เป็นอุปสรรคอย่างเดียวในชีวิตของเขาคือความสูง

และมันเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ด้วย…

ความสูง 5 ฟุต 8 นิ้วของยูกินั้นสำหรับคนทั่วไปแล้วอาจไม่ใช่ปัญหาอะไร ไม่ได้ตัวสูง แต่ก็ไม่ได้ทำให้การใช้ชีวิตยากลำบาก

แต่สำหรับคนที่เป็นนักบาสเกตบอลแล้ว เรื่องนี้นับว่าเป็นอุปสรรคในระดับยักษ์ไททันในกำแพงวอลล์มาเรียเลยทีเดียว เพราะสำหรับกีฬาชนิดนี้แล้วความสูงถือเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่พิเศษ ใครสูงกว่าก็มีโอกาสที่ดีกว่า

และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการแข่งขันในระดับสูงแล้ว แทบไม่มีที่ยืนสำหรับคนตัวเล็กเลยทีเดียว

ตรงนี้แหละครับที่ทำให้เรื่องนี้พิเศษ

เพราะยูกิแสดงให้โลกได้เห็นว่าไม่มีอะไรที่จะขัดขวางเราได้ หากหัวใจเราใหญ่มากพอ

ในความเสียเปรียบเรื่องของส่วนสูง สิ่งที่เขาได้มาเพื่อชดเชยกันคือความเร็ว ความคล่องตัวที่เหนือกว่าตัวใหญ่ การเปลี่ยนจังหวะและทิศทางอย่างรวดเร็ว และอย่างที่บอกไปข้างต้นคือมันสมองในการเล่นของเขาที่เป็นความแตกต่างมากที่สุด ที่รู้ว่าจังหวะนี้ควรเล่นแบบไหน ช้าหรือเร็ว ผ่อนหรือเร่ง

อย่าสู้ในเกมของคนอื่น จงสู้ในเกมของเราเอง ในสนามที่เราถนัด คือสิ่งที่ยูกิทำและนั่นคือการสร้าง “ความแตกต่าง” ที่กลายเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ความแตกต่างนี้ทำให้การเล่นของเขามีเอกลักษณ์ จนเป็นที่สนใจ และมีทีมแรกที่ขอ “ลองเสี่ยง” คือเมมฟิส กริซลีส์ หนึ่งในทีมบาสเกตบอลระดับเอ็นบีเอ ที่ส่งเทียบเชิญมาเข้าแคมป์เก็บตัวเพื่อดูว่าจะสามารถเล่นในระดับสูงสุดไหวหรือไม่

คำตอบที่พวกเขาพบคือเด็กคนนี้ – ซึ่งในเวลานั้นเริ่มสร้างชื่อในระดับนานาชาติกับทีมชาติญี่ปุ่นแล้ว โดยเฉพาะในกีฬาโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส – ดีพอ หรืออาจจะดีเกินพอด้วยซ้ำไป

ยูกิ ได้รับข้อเสนอจากกริซลีส์ในสัญญาประเภท “2-Way” ซึ่งอาจจะไม่ใช่สัญญาที่ดีที่สุด เพราะเป็นสัญญาที่จะทำให้เล่นได้ทั้งในระดับเอ็นบีเอและในจี-ลีก (G-League) ที่เป็นลีกการแข่งขันในระดับรอง สำหรับผู้เล่นที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา

แต่สัญญานี้คือโอกาสที่เขาจะไม่มีวันปล่อยให้หลุดมือไป

ความขยัน มานะ ทุ่มเท บากบั่นของยูกิในสีเสื้อกรีซลีย์ ทำให้เขาได้รับการยอมรับและกลายเป็นหนึ่งในเรื่องราวแรงบันดาลใจสำหรับแฟนเอ็นบีเอมาตั้งแต่ในช่วงปีที่แล้ว

เพราะแม้ว่าจะได้โอกาสในการลงเล่นไม่มากนักในระดับสูงสุด แต่ไม่ว่าจะกี่วินาทีในสนาม เจ้าจิ๋วคนนี้เต็มที่กับชีวิตเสมอ

สิ่งที่เขาทำ ผู้คนไม่ใช่แค่เห็นแต่ยังสัมผัสได้ มันนำมาซึ่ง “พลังงาน” ของความสุขมาสู่ทุกคน

เราอาจเปรียบได้ว่าเขาคือดวงอาทิตย์ขนาดพกพาของทีมเลยทีเดียว

ไม่ใช่แค่แฟนๆ กริซลีส์ที่รักเขา แม้แต่เพื่อนร่วมทีมอย่าง จา มอแรนต์ ก็ให้การยอมรับและนับถือจนกลายเป็นคู่หูกันทั้งในสนามและนอกสนาม

จาเรียกคู่หูของเขาแบบสั้นๆ ว่า “ยา” พร้อมแบ่งปันหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตให้กัน ซึ่งไปไกลกว่าบนคอร์ตมาก

หนึ่งในนั้นคือการสอนยูกิที่จริงจังกับการเรียนภาษาอังกฤษให้พูดศัพท์สแลงเอาไว้ใช้คุยกับคนอื่นในทีมได้ เพราะจาอยากให้เขา “เป็นตัวของตัวเอง” และรู้สึกอบอุ่นเหมือนได้อยู่ในบ้านของตัวเองจริงๆ แม้จะต้องมาอยู่ไกลถึงแคนาดา (เมมฟิสอยู่ในแคนาดา) ก็ตาม

สายสัมพันธ์นั้นไปถึงการที่ลูกสาวของจาเองก็กลายเป็นแฟนตัวยงของยูกิด้วย

เพียงแต่น่าเสียดายที่ทั้งคู่มีเวลาได้อยู่ด้วยกันเพียงแค่ 7 เดือนเท่านั้น เมมฟิสตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับยูกิ โดยมองเรื่องของผลงานเป็นหลัก ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดเพราะนี่คือโลกของมืออาชีพที่เราคุยกันด้วยเหตุและผลอยู่แล้ว

“ผมคงจะคิดถึงเมมฟิสมากทีเดียว ผู้คนที่นี่ดีกับผมมาก ผมเองก็อยากจะเล่นให้กับพวกเขาในปีนี้ด้วย เพียงแต่มันเป็นเรื่องของธุรกิจ”

แต่สำหรับยูกิ เขาไม่คิดที่จะหยุดแค่นี้

เมื่อประตูบานหนึ่งปิดลง นั่นหมายถึงประตูบานต่อไปจะเปิดขึ้นเสมอ

โอกาสครั้งต่อมาสำหรับยูกิคือชิคาโก บูลส์ หนึ่งในทีมบาสเกตบอลที่ดังที่สุดในโลกที่ให้โอกาสเขาได้ลองอีกครั้ง

ความจริงสัญญาเริ่มต้นของเขาสั้นๆ ในรายการซัมเมอร์ลีก (Summer League) รายการช่วงระหว่างการพักฤดูกาลของเอ็นบีเอที่เหมือนไม่ได้มีความสำคัญมากนัก แต่สำหรับยูกิแล้วนี่เป็นเหมือนการทดสอบที่สำคัญ

หากทำได้ดีก็มีโอกาสที่เขาจะได้รับสัญญาอาชีพอีกครั้ง นั่นคือเป้าหมาย

หรือหากทำได้ไม่ดี บางทีเขาอาจจะต้องตัดใจ และมองหาโอกาสที่ใหม่ที่อาจจะเหมาะสมกับเขามากกว่า

“ผมเชื่อว่าผมยังดีพอสำหรับเอ็นบีเอ” ยูกิบอก “ผมอยากได้สัญญา จะเป็นสัญญาแบบ Two-way หรือแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น ผมแค่อยากเซ็นสัญญาให้ได้”

อาจเพราะเดิมพันมันยิ่งใหญ่เท่าชีวิต เราเลยไม่ได้เห็นแค่ผลงานที่ดีจากเขา แต่เราได้เห็นฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นในระดับสตาร์เลยทีเดียว

โดยเฉพาะในเกมที่พบกับยูทาห์ แจ๊ซ ซึ่งยูกิทำผลงาน “ดับเบิล-ดับเบิล” ได้โดยทำไป 20 แต้มกับอีก 10 แอสซิสต์ ซึ่งถือว่าไม่น้อยสำหรับผู้เล่นในตำแหน่งพอยต์การ์ด

คราวนี้ยูกิไม่เพียงแค่ทำได้ดี แต่เขาทำได้ยอดเยี่ยมมากๆ ตลอดรายการ ก่อนที่เขาจะโพสต์ในเชิงขอบคุณและอำลาทีม

สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือกระแสเรียกร้องจากแฟนๆ บูลส์ให้ทีมรีบเซ็นสัญญาเพื่อคว้าตัวเขามาร่วมทีมให้ได้!

และสุดท้ายมันก็เกิดขึ้นจริงๆ ยูกิได้รับข้อเสนอสัญญาแบบ Two-way อีกครั้งกับบูลส์ ซึ่งเขาน้อมรับมันด้วยความยินดี กับความหวังว่าเขาจะสามารถพิสูจน์ตัวเองได้ดียิ่งขึ้นกว่าในปีกลายที่ยังแจ้งเกิดได้ไม่เต็มตัวดีนัก

แต่จากสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ ยูกิที่ปัจจุบันอายุ 24 ปีดูเติบโตและพร้อมขึ้นมากสำหรับความท้าทายครั้งใหม่ และที่สำคัญคือตอนนี้เขาคือ “ขวัญใจ” ของทุกคน ที่พร้อมจะส่งกำลังใจให้เสมอ

บนโลกใบนี้ที่คนตัวเล็กมักจะถูกมองข้ามเสมอ

ยูกิ คาวามูระ คือบทพิสูจน์ที่ยิ่งใหญ่ของคำว่า “Heart over height”

สิ่งที่ใหญ่กว่าตัวก็คือหัวใจของเรานี่แหละ 🙂

อ้างอิง: