เงินหยวน ทำสถิติอ่อนค่าเข้าใกล้ระดับสูงสุดเมื่อเทียบเป็นรายปี

เงินหยวน ทำสถิติอ่อนค่าเข้าใกล้ระดับสูงสุดเมื่อเทียบเป็นรายปีนับจากปี 2005 ซึ่งจีนมีการปรับรูปแบบการดูแลอัตราแลกเปลี่ยนมาเป็นแบบลอยตัว โดยล่าสุดเงินหยวนอยู่ที่ระดับ 6.96 หยวนต่อดอลลาร์ อ่อนค่านับจากต้นปีไปแล้ว 8.7%

ในสัปดาห์ที่ผ่านมาธนาคารกลางจีนมีความพยายามจะชะลอการอ่อนค่าของเงินหยวนด้วยการปรับอัตราอ้างอิงค่าเงิน (Midpoint Rate) จาก 6.8998 หยวนต่อดอลลาร์ เป็น 6.9096 หยวนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าสูงสุดในรอบ 2 ปี ขณะเดียวกันยังประกาศปรับลดสัดส่วนการถือครองสกุลเงินต่างประเทศในเงินทุนสำรอง (Foreign Exchange Reserve Requirement Ratio: FX RRR) ของธนาคารพาณิชย์ลงจาก 8% เหลือ 6% แต่เงินหยวนก็ยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องในสัปดาห์นี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นักวิเคราะห์จากหลายสำนักระบุตรงกันว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้เงินหยวนอ่อนค่าคือความแตกต่างของนโยบายการเงินระหว่างสหรัฐฯ กับจีน โดยจีนยังคงใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ในขณะที่สหรัฐฯ กำลังเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้การที่จีนยังคงให้ความสำคัญกับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดก็มีส่วนทำให้เกิดภาวะเงินทุนไหลออก ซึ่งส่งผลต่อค่าเงินเช่นกัน

Mansoor Mohi-Uddin หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Bank of Singapore ระบุว่า การอ่อนค่าและความผันผวนของเงินหยวนที่มากเกินไปในช่วงที่การประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์กำลังใกล้เข้ามา ไม่ใช่สิ่งที่รัฐบาลจีนปรารถนาจะให้เกิดขึ้น อย่างไรก็ดี เขาไม่เชื่อว่าทางการจีนจะออกมาตรการแทรกแซงที่รุนแรงออกมาเพิ่มเติม

นักวิเคราะห์จากบางสำนักมองว่า เงินหยวนยังมีแนวโน้มจะอ่อนค่าต่อไปได้อีกจากปัจจัยด้านความแตกต่างทางนโยบายการเงินที่จะเพิ่มมากขึ้น เมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย โดยคาดว่าเร็วๆ นี้เงินหยวนจะอ่อนค่าหลุดจากระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี

ขณะที่การสำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ของ Bloomberg พบว่า นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ยังมองว่า ณ สิ้นปีนี้ เงินหยวนจะอยู่ที่ระดับ 6.8 หยวนต่อดอลลาร์

อ้างอิง: