ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการรายงานจากสื่อของรัฐบาลจีน โดยอ้างอิงข้อมูลจากระบบ ‘SWIFT’ ว่า ยอดธุรกรรมสกุลเงินหยวนเติบโตกว่า 10.85% เมื่อเทียบกับช่วงเดือนธันวาคม และในขณะนี้สกุลเงินหยวนคิดเป็นสัดส่วนกว่า 3.2% จากธุรกรรมทั้งหมดในโลก ซึ่งเติบโตจาก 2% เมื่อเดือนพฤศจิกายน ในขณะที่เงินปอนด์ (อังกฤษ) คิดเป็นสัดส่วน 6.3% จากธุรกรรมทั่วโลก
การเติบโตของการใช้งานเงินหยวนนั้นได้รับการสนับสนุนจากการที่ผู้ผลิตก๊าซและน้ำมันอันดับ 3 ในรัสเซีย ‘Gazprom Neft’ จะรับชำระโดยใช้เงินหยวนแทนเงินดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการเติมน้ำมันให้สายการบินรัสเซียในสนามบินจีน และยังจะมีการใช้สกุลเงินหยวนดิจิทัล (eCNY) รวมถึง CBDC (Central Bank Digital Currency) ของจีนอีกเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สายการบินจากรัสเซียที่มาลงในจีนนั้นยังมีสัดส่วนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งการซื้อขายน้ำมันในตลาดโลกก็ยังคงใช้สกุลเงินดอลลาร์เป็นหลัก และจากปัจจัยด้านโรคระบาดทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไม่สะดวกนัก นอกจากนี้การรับชำระด้วย eCNY ยังไม่ครอบคลุมภายในประเทศมากเท่ากับการรับชำระด้วย weChat หรือ Alipay จึงทำให้การเติบโตอาจชะลอตัวลงไป
นอกจากนี้ข้อมูลจากเว็บไซต์ด้านคริปโต Chainalysis ยังเผยว่า ในปี 2020 สกุลเงินคริปโตที่อยู่ภายในประเทศจีน ส่วนใหญ่เป็นเหรียญที่ถูกค้ำมูลค่าด้วยเงินดอลลาร์อยู่ด้วยซ้ำ
ไมค์ แม็กโกลน นักกลยุทธ์จากสำนักข่าว Bloomberg ยังแสดงมุมมองว่า คริปโตเป็นปัจจัยเชิงบวกสำหรับเงินดอลลาร์ เพราะแม้การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะลดลง แต่ในโลกคริปโตปริมาณการใข้งาน Stablecoin ในรูปเงินดอลลาห์กลับเติบโตสูงขึ้น ซึ่งขณะนี้มีปริมาณสูงถึง 1.83 แสนล้านดอลลาร์ (5.4 ล้านล้านบาท)
แม้ eCNY จะเป็นความฝันของจีน แต่ด้วยการควบคุมตลาดจากรัฐบาลจีนทำให้ตอนนี้การใช้งานของสกุลดังกล่าวยังคงโดดเด่นภายในประเทศจีนเป็นหลักเท่านั้น
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP