นักอุตสาหกรรมรุ่นใหม่ Young FTI ฝากความหวัง ‘พิธา’ ก้าวไกล สร้างความเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว มีการเปิดกว้างการส่งเสริมนวัตกรรม ทำงานด้วยความโปร่งใส ไม่ทุจริตคอร์รัปชัน ยกเครื่องเศรษฐกิจ 8 เรื่อง เร่งด่วน ‘เกาไม่ถูกจุด เกษตรกรรมไทยไม่ยั่งยืน’ ‘ทอนไม่ถึง พึ่งไม่ได้’ และ ‘นวัตกรรมดีแต่พี่ไม่เหลียวแล’
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ และคณะทำงาน พบปะกลุ่มนักอุตสาหกรรมรุ่นใหม่จาก Young FTI จำนวน 300 คน เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากนักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์
กรกฤช จุฬางกูร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ประธานโครงการนักอุตสาหกรรมรุ่นใหม่ ระบุว่า นักอุตสาหกรรมรุ่นใหม่ฝากความหวังในการสร้างความเปลี่ยนแปลงและการทำงานร่วมกับภาครัฐไว้กับทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกลว่าควรจะทำให้กระบวนการทำงานรวดเร็ว มีการเปิดกว้างในการส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ๆ และทำงานด้วยความโปร่งใส ไม่มีการทุจริตคอร์รัปชัน
โดยนักอุตสาหกรรมรุ่นใหม่นำเสนอปัญหาในด้านต่างๆ และได้ทำการคัดเลือกจากทั้งหมด 28 เรื่อง มานำเสนอจำนวน 8 เรื่อง เพื่อให้ได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เนื่องจากส่งผลกระทบในวงกว้างต่อผู้ประกอบการอันเกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจ อุตสาหกรรมด้านต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมการเกษตร ชิ้นส่วนและยานยนต์ แกรนิตและหินอ่อน สิ่งทอ นวัตกรรม และศักยภาพข้าราชการไทย เป็นต้น ผ่านการนำเสนอปัญหาและแนวทางแก้ไขจากตัวแทน Young FTI จำนวน 8 ท่าน ในเรื่องต่างๆ ดังนี้
- เรื่อง ‘เกาไม่ถูกจุด เกษตรกรรมไทยไม่ยั่งยืน’
- เรื่อง ‘ยานยนต์ 0 เหรียญ สหภาพไร้กฎเกณฑ์ ทางตันของ SMEs ไทย’
- เรื่อง ‘ไทยจะครองไทย’
- เรื่อง ‘ของปลอมระบาด ผู้ถือลิขสิทธิ์ตาย ประเทศขาดรายได้’
- เรื่อง ‘ศักยภาพข้าราชการไทยกับการจัดการมาตรฐานระหว่างประเทศ’
- เรื่อง ‘ทอนไม่ถึง พึ่งไม่ได้’
- เรื่อง ‘นวัตกรรมดีแต่พี่ไม่เหลียวแล’
- เรื่อง ‘ชิ้นส่วนเครื่องบินก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม’
พิธากล่าวว่า สิ่งแรกที่ต้องแสดงให้เห็นก่อนคือการไม่ทำงานเป็นแท่งๆ เป็นไซโล แต่ต้องมองภาพใหญ่ว่าการบริหารเศรษฐกิจที่เราต้องการคืออะไร สิ่งที่พรรคก้าวไกลมองเห็นบทเรียนจากเศรษฐกิจไทยที่เติบโตมา 40 ปี คือในอนาคตต้องเป็นการเติบโตแบบ Inclusive Growth เศรษฐกิจโต ลดความเหลื่อมล้ำ และเปิดโอกาสให้ทุกคนเติบโตด้วย
“ผมคิดว่าเรื่องการบริหารนวัตกรรมสรุปได้เป็นหนึ่งประโยคคือ ‘สร้างงาน ซ่อมประเทศ’ ที่เราจะเปลี่ยนจุดอ่อนของประเทศและปัญหาของประชาชน มาเป็นโอกาสของอุตสาหกรรมเพื่อแก้ปัญหาของอนาคต เช่น กฎหมายรถเมล์อนาคต การทำน้ำประปาดื่มได้ ถ้าทำสิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้นได้ทั้งประเทศ คุณคิดว่าจะเป็นโอกาสสำหรับนวัตกรรมมากแค่ไหนของประเทศไทย” พิธากล่าว
ส่วนอุตสาหกรรมโดรนและการป้องกันประเทศถ้าหากประเทศไทยสามารถส่งเสริมนโยบาย Offset Policy ได้ แทนที่จะซื้ออาวุธจากต่างชาติ เปลี่ยนเป็นการซื้อพร้อมทำให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ใช้แรงงานและชิ้นส่วนในประเทศแทนที่จะนำเข้า 100%
พิธาโพสต์เฟซบุ๊กอีกว่า “วันนี้ผมและทีมก้าวไกลรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบกับนักธุรกิจ/นักอุตสาหกรรมรุ่นใหม่ Young FTI ทุกคน ในการพูดคุยกันวันนี้ผมเห็นประกายในแววตาของทุกคน
“ผมได้รับฟังความเจ็บปวดของนักธุรกิจไทยที่มีนวัตกรรม ลงทุนวิจัยและพัฒนาถึงขั้นตอน ระบบ และกฎหมายเกี่ยวกับการขอใบอนุญาตต่างๆ จนทำให้สูญเสียโอกาสทางธุรกิจให้กับผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์จากต่างชาติ
“ผมได้รับฟังโอกาสของอุตสาหกรรมใหม่ๆ ของประเทศไทยที่ทำให้เห็นว่าประเทศไทยมีโอกาสในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพียงแค่รัฐบาลเปลี่ยนนโยบายการส่งเสริมการลงทุน และปลดล็อกงบประมาณจาก Competitiveness Fund มาส่งเสริมงบวิจัยและพัฒนาให้กับอุตสาหกรรมไทยที่เป็น Product Champion
“ประเทศไทยเราไม่ได้มีแต่อุตสาหกรรมเก่า แต่เรามีธุรกิจยาและเวชภัณฑ์ ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า และธุรกิจชิ้นส่วนอากาศยานที่เป็นของคนไทยเราเอง และยิ่งน่ายินดีอย่างยิ่งที่ธุรกิจเหล่านี้วันนี้อยู่ในมือของนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ยังมีไฟที่จะสร้างสรรค์ความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมไทย
“ผมมีความหวังมากจริงๆ ครับที่ได้มาเจอกับทุกคนในวันนี้ และพรรคก้าวไกลขอเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มการทำงานของภาครัฐให้รวดเร็ว เปิดกว้างการส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ๆ และทำงานด้วยความโปร่งใส ไม่มีการทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อพาประเทศนี้ไปข้างหน้าด้วยกัน”