วันนี้ (19 มิถุนายน) เวลาประมาณ 07.00 น. ธนลภย์ หรือ หยก เยาวชนวัย 15 ปี ผู้ถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เดินทางมายังโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ โดยยังคงสวมชุดไพรเวตเพื่อไปเรียนหนังสือ หลังจากต้องปีนรั้วและหน้าต่างเข้าไปเรียนภายในโรงเรียนมา 3 วัน เนื่องจากทางโรงเรียนปิดประตูรั้วโรงเรียนไม่ให้หยกเข้าเรียน
ขณะที่วันนี้ก่อนเข้าโรงเรียน หยกได้อ่านคำแถลงที่ต้องการสื่อสาร ซึ่งมีรายละเอียดระบุว่า อยากจะชี้แจงการมอบตัวที่เสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 ทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ก็ยืนยันว่าเสร็จสมบูรณ์ เพราะว่าสิทธิของนักเรียนต้องมาก่อน ส่วนตัวได้จ่ายค่าเทอมและเข้าเรียนเป็นเวลา 1 เดือนแล้ว โดยในเดือนหน้าจะทำการสอบ แต่ทางโรงเรียนให้ออก
หยกกล่าวอีกว่า ในส่วนที่หนูยืนยันเรียกร้องก็คือเสรีทรงผม สีผม ก็สีผมของเรา ทรงผมของเรามันก็เป็นสิทธิพื้นฐานตามเนื้อตัวร่างกายของเราอยู่แล้ว ล่าสุดมีเคส #จากอาณาจักรฟ้าขาว ที่มีเด็กเสียชีวิตจากการถูกครูกดดันเรื่องทรงผม เคสนี้จะไม่ใช่เคสแรกและไม่ใช่เคสสุดท้ายหากกฎระเบียบโรงเรียนและกฎระเบียบกระทรวงต่างๆ ยังไม่เปลี่ยนแปลง ยังมีการกดดันนักเรียนต่อ
ส่วนเรื่องที่สอง การแต่งกายก็เป็นสิทธิพื้นฐานตามเนื้อตัวร่างกายเช่นกัน การแต่งกายไม่ได้ส่งผลต่อการเรียน อยากจะยืนยันว่าการแต่งไพรเวตก็สามารถเรียนได้ และเรื่องพิธีกรรมต่างๆ ที่ไม่เข้าร่วมนั้น ตนมองว่าเป็นการสืบทอดอำนาจนิยม การจ่ายค่าเทอมเพื่อเรียนและให้ครูสอนเรา
“การเปลี่ยนแปลงต้องมีจุดเริ่มต้น ถ้าไม่เริ่มวันนี้จะให้เราวันไหน ที่ผ่านมาสมัย 10 ปีก่อนก็มีพี่เนติวิทย์ทำ สมัย 1-3 ปีที่แล้วก็มีกลุ่มนักเรียนเลวที่ทำ มันไม่ใช่หนูที่เป็นจุดเริ่มต้น มันเริ่มต้นมานานแล้ว เพียงแค่หนูแสดงออกของหนูในเวลานี้แบบนี้ที่ทุกคนมองว่ามันเร็วเกินไปหรือเปล่า”
หยกยืนยันด้วยว่า จะเรียนที่นี่เพราะสอบเข้าที่นี่ โดยพยายามจะพูดคุยกับทางผู้บริหารโรงเรียนแล้ว แต่ไม่มีการพูดคุย ซึ่งทั้ง 3 วันที่ผ่านมาเมื่อเข้าโรงเรียนไปแล้วก็ได้เข้าเรียนตามปกติ มีสมาคมปกครองฯ คอยติดตาม อย่างไรก็ตามทาง กสม. ก็ยืนยันว่ามีสิทธิเรียน โดยได้ปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่บ้าง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหากมีการทำประชาพิจารณ์ในเรื่องการแต่งกาย ทรงผม จะรับฟังตามความเห็นส่วนรวมหรือไม่ หยกระบุว่า ก็ต้องรับตามนั้น ในเมื่อนักเรียนทุกคนได้เลือกจริงๆ เราก็ต้องยอมรับ เพราะที่ตนไม่ต้องใส่ชุดนักเรียนไม่ได้คิดว่าจะยกเลิก แต่คิดว่าใครอยากใส่ไพรเวตก็ใส่ โดยอยู่บนพื้นฐานความเหมาะสม เพราะกฎต้องเป็นกฎที่สังคมยอมรับได้ เป็นกฎที่ใช้ได้จริง ให้คนที่ใช้มีส่วนร่วมในการออกแบบ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสสังคมที่มีฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยนั้น หยกระบุว่า ขอบคุณที่โต้แย้งกัน มาถกเถียงกัน ก็มีทั้งคนที่โต้แย้งแบบมีสาระและโต้แย้งแบบไม่สนสาระ ส่วนที่มีคนแนะนำให้ไปฟ้องศาลปกครอง ยืนยันว่ายังไม่อยากฟ้อง เพราะ กสม. ก็ยืนยันว่ามีสิทธิเรียนได้
หยกยังได้ระบุถึงตัวแทนพรรคก้าวไกลด้วยว่า ตนปีนโรงเรียนมา 3 วันแล้ว และเรื่องการแต่งกายทรงผมก็เป็นหนึ่งในนโยบายของพรรคก้าวไกล พรรคทำงานช้าไปนิดหนึ่ง
ด้าน บุ้ง ตัวแทนผู้ปกครอง เปิดเผยว่า ได้เคยหารือกับหยกในการฟ้องศาลปกครอง ซึ่งหยกไม่มีความมั่นใจในกระบวนการยุติธรรม อาจจะเป็นเรื่องที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ ขอเวลาในการพิจารณา และปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของน้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการให้สัมภาษณ์ หยกเดินทางเข้าโรงเรียนเพื่อไปเรียนหนังสือตามปกติโดยไม่ได้มีการขัดขวางจากครูอาจารย์ของโรงเรียน ทั้งนี้ในเวลา 09.00 น. วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ตัวแทนจากพรรคก้าวไกล จะเดินทางมาหารือกับโรงเรียนด้วย
สำหรับบรรยากาศวันนี้ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. พบเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงและตำรวจในเครื่องแบบเข้าไปสแตนด์บายภายในโรงเรียน และมีรถผู้ต้องขังมาจอดไว้ที่หน้าโรงเรียนด้วย