วายแอลจียังมองราคาทองคำปีนี้ยังมีแนวโน้มสดใส เหตุสถานการณ์เงินเฟ้อยังรุนแรง รวมถึงราคาพลังงานที่พุ่งสูงสร้างแรงกดดันทางเศรษฐกิจเพิ่ม แนะนักลงทุนใช้โอกาสที่ราคาปรับตัวลงกลับเข้าซื้ออีกครั้ง มองแนวรับ 1,900-1,953 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านทองคำในประเทศมองจุดซื้อ 30,000-30,700 บาทต่อบาททองคำ
ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า ปีนี้ราคาทองคำก็จะทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยปัจจัยสนันสนุนหลักๆ มาจากสถานการณ์ในรัสเซียและยูเครนที่สร้างความกังวลว่าจะยืดเยื้อและกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่จะกระทบราคาสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆ และส่งผลต่อเงินเฟ้อให้ปรับตัวขึ้นมากกว่าเดิม และในจังหวะที่มีแรงขายทำกำไรสลับออกมาจนราคาทองคำเริ่มปรับตัวลดลง มองว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนที่เทขายทองคำออกไปแล้วได้กลับเข้ามาสะสมซื้อทองคำอีกครั้ง
โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสามารถขึ้นไปใกล้กับสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 2,070 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศทะยานขึ้นทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยขายออกที่ราคา 32,100 บาทต่อบาททองคำ และราคารับซื้ออยู่ที่ 32,000 บาทต่อบาททองคำ ก่อนที่จะย่อตัวลงมา
สำหรับคำแนะนำนักลงทุนในช่วงนี้ สำหรับผู้ที่มีทองคำในพอร์ตเป็นจำนวนมากแนะนำให้แบ่งขายทำกำไรบางส่วนและถือต่อบางส่วน รวมถึงผู้ที่ลงทุนในตลาดล่วงหน้าหากถือสถานะเป็นจำนวนมากแนะนำให้ลดสถานะการถือครองทองคำบางส่วน ด้วยการขายทำกำไรระยะสั้นเมื่อราคาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 2,020-2,050 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อย่างไรก็ตาม หากราคาทองคำผ่านแนวต้าน 2,050 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แนะนำถือสถานะที่เหลือต่อเพื่อรอไปขายที่แนวต้านถัดไปในโซน 2,070-2,075 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอการอ่อนตัวลงของราคาจึงกลับเข้าซื้อบริเวณแนวรับด้านล่าง
ส่วนผู้ที่ไม่มีทองคำอยู่ในพอร์ตแนะนำรอการอ่อนตัวลงเพื่อเป็นโอกาสทยอยซื้อ โดยต้องระมัดระวังการไล่ซื้อ ซึ่งประเมินว่าการปรับตัวลงของราคาทองคำยังคงเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเช่นเดิม แต่แนะนำให้แบ่งเงินลงทุนเข้าซื้อ โดยไม่เข้าซื้อที่แนวรับใดแนวรับหนึ่งเต็ม 100% ของพอร์ต โดยประเมินแนวรับแรกที่ 1,953-1,970 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 1,953 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ควรชะลอการเข้าซื้อออกไปยังแนวรับถัดไปที่ 1,890-1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์
หากราคาทองคำหลุด 1,890 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะทำให้ทิศทางราคาทองคำในระยะสั้นเป็นลบมากยิ่งขึ้น จึงแนะนำชะลอการเข้าซื้อออกไปเพื่อรอดูการตั้งฐานของราคาอีกครั้ง
ฐิภากล่าวเพิ่มว่า ในช่วงนี้ไม่เพียงแต่ราคาทองคำเท่านั้นที่ปรับตัวขึ้นในระดับสูง แต่สินค้าโภคภัณฑ์อีกหลายชนิดก็ได้ปรับตัวขึ้นไปเช่นกัน การลงทุนในตลาดฟิวเจอร์สต่างประเทศจึงเป็นไปอย่างคึกคัก โดยปัจจัยหนุนที่ส่งผลให้นักลงทุนหันมาลงทุนในตลาดฟิวเจอร์สต่างประเทศส่วนหนึ่งมาจากนักลงทุนมองหาทางเลือกในการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อ
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP