กระแสที่กำลังร้อนแรงตอนนี้ หนีไม่พ้นเรื่องการต่อสัญญาของวง BLACKPINK กับต้นสังกัด YG Entertainment สร้างความกังวลให้นักลงทุนและแฟนคลับทั่วโลก หลังวานนี้ (21 กันยายน) หุ้น YG ร่วงลงกว่า 13.3% แถมสื่อในเกาหลีใต้รายงานว่ามีเพียงโรเซ่คนเดียวที่ต่อสัญญา
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลังจาก BLACKPINK หมดสัญญากับ YG ไปเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2023 เหล่าแฟนๆ และนักลงทุนทั้งหลายต่างกังวลว่า BLACKPINK จะต่อสัญญาหรือไม่ ซึ่งนับเป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่บริษัทยังไม่มีการแถลงเรื่องต่อสัญญาใดๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- สื่อนอกเผย ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ปฏิเสธต่อสัญญารอบ 2 แม้มีข้อเสนอมูลค่า 1,350 ล้านบาท ทำหุ้น YG ร่วง 9% ลือมีการทาบทามจากค่ายในไทยด้วย
- หุ้น YG Entertainment ดิ่งเกือบ 7% หลังยังไม่สามารถต่อสัญญาที่จะหมดลงในเดือนหน้ากับ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ได้
- YG Entertainment เผยว่า 2.11 ล้านคนทั่วโลกได้ดูการแสดงของ BLACKPINK ในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา
จนทำให้ราคาหุ้น YG ผันผวนทุกครั้งที่มีประเด็นการต่อสัญญา โดยเฉพาะช่วงที่สื่อท้องถิ่นในเกาหลีใต้รายงานว่า ลิซ่า สาวชาวไทย หนึ่งในสมาชิกของ BLACKPINK อาจไม่ต่อสัญญาและปฏิเสธข้อเสนอมูลค่า 37.3 ล้านดอลลาร์ (หรือราว 1,350 ล้านบาท ) แถมล่าสุดสื่อในเกาหลีใต้ยังรายงานว่า มีเพียง โรเซ่ คนเดียวที่ต่อสัญญากับ YG ทำให้วานนี้ (21 กันยายน) หุ้น YG ร่วงลงมามากกว่า 13.3%
ยิ่งไปกว่านั้น สื่อต่างประเทศต่างเปิดเผยว่า YG อยู่ระหว่างการเจรจากับสมาชิกที่เหลืออีก 3 คน ทั้ง เจนนี่ จีซู และลิซ่า โดย YG ได้เสนอกลยุทธ์ ‘แยกจากแต่อยู่ด้วยกัน’ คือการย้ายไปเซ็นสัญญากับค่ายอื่นที่ไม่ใช่ YG แต่จะยังคงทำงานในฐานะ BLACKPINK เป็นเวลา 6 เดือนต่อปี
ขณะที่ YG Entertainment ระบุว่า ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการเจรจาและยังไม่ได้ตัดสินใจในเรื่องรูปแบบของสัญญา
เรียกได้ว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา YG มีรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า และทำกำไรได้ต่อเนื่อง โดยกำไรส่วนใหญ่ก็มาจากวง BLACKPINK ที่จัดคอนเสิร์ต Born Pink World Tour 16 งาน ในอเมริกาเหนือ เอเชีย และออสเตรเลีย นับเป็นทัวร์รอบโลกที่ใหญ่ที่สุดของเกิร์ลกรุ๊ป K-Pop ที่สามารถดึงดูดผู้คน 2.11 ล้านคนทั่วโลก
Lee Sun Hwa นักวิจัยด้านหลักทรัพย์ของ KB ระบุว่า นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการต่อสัญญาของ BLACKPINK และค่าธรรมเนียมจากการทำสัญญาใหม่ที่อาจเกิดขึ้นนั้นมีนัยสำคัญ ซึ่งบริษัทก็ต้องพยายามปรับโมเดลธุรกิจเพื่อกระจายความเสี่ยง หาก BLACKPINK ตัดสินใจไม่ต่อสัญญา
เช่นเดียวกับ Nam Soo Lee ตั้งข้อสังเกตว่า แม้ปี 2024 BLACKPINK จะไม่กลับมาเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปเต็มวงเหมือนเดิม แต่อัลบั้มเดี่ยวจากสมาชิกนั้นก็มีโอกาสจะประสบความสำเร็จ เห็นได้จากผลงานเดี่ยวของจีซู และที่สำคัญทาง YG ก็มีโอกาสสร้างกำไรจากศิลปินหน้าใหม่ เช่น TREASURE และ BABYMONSTER
ทั้งนี้ ดูเหมือนว่าหุ้นของยักษ์ธุรกิจ K-Pop รายใหญ่ในเกาหลีใต้ต่างมีความผันผวนเช่นกัน โดยราคาหุ้นของ SM Entertainment -3.47% ตามด้วย JYP Entertainment -4.41% และ HYBE Corporation -5.14%
แม้ HYBE จะประกาศก่อนหน้านี้ว่าสมาชิกทุกคนของ BTS ได้ต่ออายุสัญญาเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ไม่ได้ช่วยให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่ออุตสาหกรรมบันเทิงที่เริ่มน้อยลงไปทุกวัน
อ้างอิง:
- https://asia.nikkei.com/Business/Media-Entertainment/South-Korea-s-YG-Entertainment-hit-by-Blackpink-uncertainty
- https://www.allkpop.com/article/2023/09/blackpinks-contract-renewal-failure-rumor-shakes-yg-entertainment-stock-price
- https://www.cnbc.com/2023/09/21/report-blackpink-three-members-not-renewing-yg-contracts.html