ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นแข็งค่าขึ้น 4% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ของสหรัฐฯ ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา หลังจากนักลงทุนในตลาดเชื่อว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบเร็วกว่าที่คาด
การแข็งค่าของเงินเยนอย่างรวดเร็วได้รับแรงสนับสนุนจากการเก็งกำไรที่ลดการเดิมพันกับการอ่อนค่าของค่าเงินเยน หลังจากที่ปริมาณการใช้อัตราทด (Leverage) ในฝั่งขาลงเคยพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าปัจจัยอย่างการขาดสภาพคล่องและการซื้อขายด้วยอัลกอริทึมทำให้เงินเยนกลับมาแข็งค่าอีกครั้ง
Yukio Ishizuki นักยุทธศาสตร์อาวุโสด้านอัตราแลกเปลี่ยนของ Daiwa Securities กล่าวว่า คำสั่งชอร์ตต่อเงินเยนถูกปิดสถานะ (Liquidated) ไปมากแล้ว เช่นเดียวกับนักลงทุนบางคนที่ตั้งระดับของการตัดขาดทุน (Stop Loss) ไว้เช่นกัน หลังจากข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่อ่อนแรงในวันนี้ (8 ธันวาคม) อาจกระตุ้นให้เกิดการเทขายเงินดอลลาร์มากขึ้น ซึ่งอาจได้เห็นเงินเยนในระดับ 141 เยนต่อดอลลาร์อีกครั้ง
นอกจากนี้ นักลงทุนกำลังจับตามองตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ อย่างรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่อาจกลายเป็นหลักฐานเพิ่มเติมว่าตลาดแรงงานกำลังชะลอตัวลงในการประชุมนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า
ความเห็นจากผู้ว่าการ BOJ อย่าง Kazuo Ueda เมื่อวันพฤหัสบดี พร้อมด้วยคำพูดจากเจ้าหน้าที่ของ BOJ เมื่อวันพุธ (6 ธันวาคม) สร้างความปั่นป่วนให้แก่ตลาดการเงินในโตเกียวและทั่วโลก เงินเยนที่แข็งค่าอย่างรวดเร็วและเป็นสกุลเงินที่แข็งค่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 10 สกุลทั่วโลก
Ayako Sera นักยุทธศาสตร์การตลาดของ Sumitomo Mitsui Trust Bank ระบุว่าตลาดยังคงมีความผันผวนจากความวิตกกังวลของนักลงทุน จนกว่าความตั้งใจที่แท้จริงของ Ueda จะถูกเปิดเผยขึ้นในการประชุมนโยบายการเงิน วันที่ 19 ธันวาคม
นักเศรษฐศาสตร์เริ่มคาดหวังว่า BOJ จะสามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ ในขณะที่ยังคงความก้าวร้าวน้อยกว่านักลงทุนที่พยายามเดิมพันนโยบายของ BOJ ในอนาคต และยังเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยติดลบจะสิ้นสุดลงภายในเดือนเมษายนปีหน้า ตามการสำรวจของ Bloomberg
Bipan Rai หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ด้านอัตราแลกเปลี่ยนของ CIBC เปิดเผยว่าโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยจะเข้มงวดขึ้นในวันที่ 19 ธันวาคม น่าจะต้องใช้เวลานานกว่าจะเกิดขึ้น ด้วยความมั่นใจว่า Fed จะสิ้นสุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว ทำให้อัตราส่วนระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทน (Risk/Reward Ratio) ของเงินดอลลาร์ต่อเงินเยนเปลี่ยนไปอย่างมาก
อย่างไรก็ดี เงินเยนยังคงอ่อนค่าลงประมาณ 9% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในปีนี้ ซึ่งเป็นค่าเงินที่อ่อนค่ามากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มประเทศ G10
อ้างอิง: