×

โรดทริปยลบ่อน้ำพุร้อนหลากสี ‘Yellowstone National Park’ อลังการงานสร้าง อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของโลก

28.09.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins. Raed
  • อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของโลกและของสหรัฐอเมริกา โดยการพยายามผลักดันของ เฟอร์ดินานด์ วี. เฮย์เดน นักธรณีวิทยาชาวอเมริกัน
  • เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่ารัฐโรดไอแลนด์และรัฐเดลาแวร์เสียอีก
  • เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ จึงมีบ่อน้ำร้อนและน้ำพุร้อนมากกว่า 10,000 แห่ง
  • สีฟ้าเทอร์ควอยส์ในบ่อน้ำร้อนเกิดจากแร่ธาตุทองแดงใต้ผิวโลกที่แทรกตัวผ่านชั้นหินขึ้นมา และมีอุณหภูมิสูงเกินกว่าที่มนุษย์อย่างเราจะเดินลงไปได้

     ภาพบ่อน้ำพุร้อนขนาดยักษ์สีฟ้าเทอร์ควอยส์ฉายขึ้นบนหน้าเว็บไซต์ทันทีที่ค้นหาคำว่า ‘เยลโลว์สโตน’ (Yellowstone) อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของสหรัฐอเมริกาที่สร้างความตะลึงงันตั้งแต่แรกเห็น ยิ่งบวกกับการเป็นหนึ่งในลิสต์ ‘1,000 Places to See Before You Die’ 1,000 สถานที่ที่ควรไปเยือนสักครั้งในชีวิต โดยแพทริเซีย ชูลต์ส ยิ่งตอกย้ำว่าเราต้องดั้นด้นไปเห็นด้วยตาให้ได้แน่นอน

 

 

     ทริปนี้เดินทางช่วงปลายเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงหน้าร้อนของสหรัฐอเมริกา แม้อุณหภูมิแดดจะแรงจนเผาผิวหน่อย แต่ก็มีลมเย็นพอให้สัมผัสได้บ้างประปราย จากเมืองซอลต์เลกซิตี้ รัฐยูทาห์ ขับรถวิ่งไปตามเส้นทางถนนหลวงสาย I-15 N มุ่งหน้าสู่ทิศเหนือ ระหว่างสองข้างทางมีหลากวิวสวยให้ทอดสายตามองเต็มไปหมด ผ่านรัฐไอดาโฮก็มีท้องทุ่งไร่มันฝรั่งกว้างใหญ่สุดสายตา พานให้คิดถึงมันฝรั่งชื่อดังที่ชอบกินขึ้นมาในบัดดล และที่นี่ก็เป็นแหล่งปลูกมันฝรั่งชื่อดังของสหรัฐอเมริกาเชียวนะ วิ่งไปอีกสักพักก็ผ่านวิวทะเลทรายสลับภูเขา บรรยากาศราวกับหลุดไปอยู่ในหนังคาวบอย รวมเวลาแวะพักรายทางประมาณ 5 ชั่วโมงกว่าก็ถึงทางเข้าอุทยานด้านทิศตะวันตก

 

 

     อันที่จริงนักท่องเที่ยวสามารถเข้าสู่อุทยานได้ถึง 4 ทางคือ ด้านตะวันตกจากรัฐไอดาโฮ ด้านเหนือจากรัฐมอนทานา ส่วนทางด้านใต้และด้านตะวันออกอยู่ในเขตไวโอมิง เนื่องจากพื้นที่ทั้งหมดกินอาณาเขตหลายรัฐ ด้วยความกว้างใหญ่ไพศาลนี้ ทำให้ภายในบริเวณอุทยานมีถนนหนทางยาวรวมแล้วกว่า 500 กิโลเมตร

 

 

     ถนนส่วนใหญ่เปิดให้รถยนต์ใช้ในหน้าร้อนราวเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน นอกนั้นปิดให้บริการทุกเส้น เนื่องจากมีหิมะปกคลุมหนา อนุญาตให้เฉพาะพาหนะบางประเภทเท่านั้น เช่น รถสโนว์โค้ช สโนว์โมบิล และเลื่อนน้ำแข็ง

     ตรงทางเข้าอุทยานด้านทิศตะวันตก หรือ West Yellowstone เป็นสถานที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ‘Yellowstone Historic Center’ ซึ่งอยู่ภายในอาคารสถานีรถไฟเก่าของเส้นทางรถไฟสาย Union Pacific เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00-21.00 น. จัดแสดงเรื่องราวของอุทยานตั้งแต่เริ่มมีการสำรวจ โดย จอห์น โคลเทอร์ (John Colter) จวบจนเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ใกล้กันเป็น ‘ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว’ แนะนำให้หาข้อมูลตรงนี้ก่อน อย่าดุ่มๆ เข้าไปโดยไม่ศึกษา เพราะร้อยทั้งร้อยหลงมานักต่อนักแล้ว

 

 

     ดินแดนกลางป่าสนของเยลโลว์สโตนเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ จึงทิ้งร่องรอยของหินละลายที่พุ่งผ่านผิวโลกขึ้นมาเย็นตัว เกิดเป็นที่ราบและหุบเขาสวยงามบนพื้นที่กว่า 2 ล้านเอเคอร์ ประกอบด้วยที่ราบ น้ำตก ทะเลสาบ บ่อน้ำร้อน และน้ำพุร้อน มีแม่น้ำเยลโลว์สโตนไหลผ่านก่อนลงสู่ทะเลสาบเยลโลว์สโตน ซึ่งอยู่เกือบกึ่งกลางเขตอุทยาน

 

 

     เราขับรถเลาะเลียบไปตามแม่น้ำที่เปรียบดั่งเส้นแบ่งเขตระหว่างนักท่องเที่ยวกับบริเวณถิ่นที่อยู่ของสัตว์ป่า ระหว่างทางก็ชื่นชมกับความยิ่งใหญ่ของทิวเขา ป่าสนสีเขียว อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอากาศดีเสียจนต้องลดกระจกรถยนต์เพื่อสูดอากาศให้เต็มปอด เป้าหมายหลักของทริปนี้คือการไปปักหมุดที่บ่อน้ำร้อน Grand Prismatic Spring ระหว่างทางก่อนไปถึงก็มีจุดชมบ่อน้ำร้อนมากมาย อย่างบ่อน้ำพุร้อนพวยพุ่ง เต้นระบำเป็นจังหวะออกมาตามรอยแยกของพื้นผิวโลก โดยมีภาพเบื้องหลังเป็นป่าสนอันไพศาล รวมทั้งบ่อโคลนเดือดแอ่งใหญ่ Fountain Paint Pot เดือดปุดๆ เสมือนน้ำต้มกำลังเดือด ขอย้ำว่าระหว่างเดินชมตามเส้นทาง ไม่ควรเล่นหยอกล้อกัน ควรปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะถ้าเกิดพลัดตกขึ้นมาก็มีสิทธิ์ถึงแก่ชีวิตได้ แค่สัมผัสควันที่ลอยคลุ้งอยู่รอบบ่อก็พอบอกได้แล้วว่าร้อนขนาดไหน

 

 

     จากบ่อโคลนเดือด ขับรถต่อไปอีกไม่นานก็มาถึงบริเวณ Midway Geyser Basin ที่นี่คือที่ตั้งของ Grand Prismatic Spring บ่อน้ำพุร้อนขนาดยักษ์สีฟ้าเทอร์ควอยส์ สัญลักษณ์แห่งความอลังการงานสร้างของเยลโลว์สโตนที่ฉันอยากเห็นด้วยตาเปล่า กลิ่นกำมะถันลอยคลุ้งตามสายลมเตะจมูกทักทายจนฉุกกึกไปหมด แต่พอเห็นด้วยตาเท่านั้นแหละ โอ้โห! อะไรจะอลังการงานสร้างขนาดนั้น! บ่อน้ำร้อนเดือดพล่านที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอุทยาน มหึมาเกินบรรยายจนอดคิดไม่ได้ว่าที่นี่คือดาวอื่น ไม่ใช่โลกเราหรือเปล่า จะอุทานคำไหนๆ ก็คงไม่พอ ได้แต่มองให้เต็มตาและกดชัตเตอร์รัวๆ ไป

 

 

     ขอบบ่อเป็นสีส้มจัดที่เกิดจากแบคทีเรียและพืชเซลล์เดียวบางชนิดที่สามารถอาศัยอยู่ในน้ำร้อนที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 45 องศาเซลเซียสได้ ตรงกลางบ่อเป็นสีฟ้าเทอร์ควอยส์สวยสด ตัดสีกันฉูดฉาด ไอร้อนลอยเหนือบ่อประหนึ่งน้ำเดือดตลอดเวลา ภาพเบื้องหลังคือภูเขาป่าสนสีเขียวบวกกับท้องฟ้าใสไร้เมฆ ซาบซึ้งกับความอัศจรรย์ธรรมชาติสร้างตรงหน้า เดินเพลินจนลืมกลิ่นเหม็นของกำมะถันไปเลย

 

 

     ระหว่างทางในอุทยานมีสัตว์ป่าให้ชมมากมาย ซึ่งเราสามารถทักทายได้ราวกับเพื่อนสนิท ไม่ว่าจะเป็นควายป่าไบซัน กวางมูส กวางเอลก์ แต่ที่พูดอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะสามารถดึงเขา จับหัว หรือลูบหางได้หรอกนะ แต่ให้อารมณ์เหมือนสวนสัตว์เปิดให้นักท่องธรรมชาติอย่างเราได้ใกล้ชิด

 

 

     จุดเช็กอินอีกแห่งที่ต้องไปเยือนคือบริเวณ Old Faithful Geyser สายน้ำพุร้อนที่เกิดจากน้ำแร่ธรรมชาติอุณหภูมินับร้อยองศาเซลเซียส ดันตัวผ่านช่องเล็กๆ พุ่งออกมาไกลนับสิบๆ เมตร โดยน้ำร้อนจะพุ่งออกมาทุกๆ 33 และ 93 นาที ไม่เปลี่ยนแปลงเลยตลอดระยะเวลา 100 ปีที่ผ่านมา พลาดรอบนี้ก็นั่งรอรอบหน้า รับรองได้เห็นชัวร์ สายน้ำพุร้อนพุ่งสูงกว่า 100 ฟุต บางครั้งถึง 200 ฟุต เวลาน้ำพุร้อนพุ่งออกมาทีก็มีเสียงเฮตื่นตาตื่นใจจากนักท่องเที่ยว เพิ่มบรรยากาศความตื่นเต้นไปด้วย

     ไม่เกินไปเลยที่จะบอกว่าการมาเยือนอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตนเป็นสุดยอดประสบการณ์ชีวิต และโรดทริปอันคุ้มค่าที่สุดกับการเดินทางไกลกว่าพันไมล์จนมาถึงดินแดนแห่งบ่อน้ำพุร้อนฝีมือธรรมชาติสร้างแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่ไม่มีใครรู้ว่าวันหนึ่งดินแดนนี้อาจปะทุระเบิดแล้วสูญสลายไปเพียงชั่วข้ามคืนหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้มันยังอยู่และถูกบันทึกไว้ในสมองของฉันเรียบร้อย

 

 

More Things to do

     นอกจากเดินดูความงามของบ่อน้ำแร่ร้อน ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก เราลิสต์มาให้ดูดังนี้

     1. กิจกรรมส่องสัตว์ เรียนรู้วิถีชีวิตสัตว์ป่าในบ้านธรรมชาติ บอกเลยว่าคุณสามารถพบปะทักทายกับควายป่าไบซันได้อย่างใกล้ชิด แต่ควรพึงระวังไว้ว่า ไม่ควรอยู่ใกล้จนเกินไป เพราะอาจเกิดอันตรายได้          

     2. ชื่นชมความอลังการของ Grand Canyon of the Yellowstone แคนยอนที่ใหญ่ที่สุดในอุทยาน มีความยาวประมาณ 24 ไมล์ หรือ 39 กิโลเมตร ซึ่งมีน้ำตก Lower Falls ไหลผ่านท่ามกลางหินผาสีชมพูสลับสีเหลือง สวยงามราวกับภาพศิลปะ

     3. ภายในบริเวณอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตนเหมาะแก่การเดินป่าเพื่อศึกษาธรรมชาติเป็นอย่างมาก

     4. สนุกไปกับการล่องเรือหรือพายเรือในทะเลสาบเยลโลว์สโตน

     5. ตั้งแคมป์นอนดูดาวยามค่ำคืนอย่างใกล้ชิด โรแมนติกที่สุด

     6. การตกปลาถือเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวใช้ในการผ่อนคลายและเพลิดเพลิน

     7. ตามหาซากหิน ซากฟอสซิล และร่องรอยไดโนเสาร์จากยุคดึกดำบรรพ์ภายในบริเวณอุทยาน

 

Photo: วัชรียา เจริญชูเกียรกิจ

FYI
  • การเดินทางท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน ควรไปช่วงหน้าร้อน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงต้นพฤศจิกายน เนื่องจากอุทยานเปิดเส้นทางให้สามารถขับรถไปได้ทั่วทุกแห่ง
  • ควรปฏิบัติตามกฎระเบียบการใช้อุทยานอย่างเคร่งครัด ตรวจสอบข้อมูลและข้อกำหนดในการเข้าอุทยานได้ที่ www.yellowstonenationalpark.com
  • ควรเที่ยวอุทยานด้วยการเช่ารถและขับรถเที่ยวเอง (road trip) แนะนำเว็บไซต์เช่ารถ www.rentalcars.com
  • อย่าลืมเตรียมน้ำดื่มและอาหารว่างให้พร้อม เพราะจุดแวะพักภายในอุทยานอยู่ห่างกันพอสมควร
  • เวลาเยี่ยมชมอุทยานที่ดีที่สุดคืออย่างน้อย 2-3 วัน ไม่อย่างนั้นจะแทบไม่เห็นอะไรเลย
  • อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตนมีอาณาเขตเชื่อมกับอุทยานแห่งชาติแกรนด์เตตัน คุณสามารถขับรถออกไปทางทิศใต้เพื่อเที่ยวชมต่อได้
  • ศึกษาข้อมูลต่างๆ ของอุทยานทั้งที่พัก เส้นทาง แผนที่ ฯลฯ ที่ www.yellowstonenationalpark.com
  • ภายในอุทยานมีที่พักทั้งหมด 9 แห่ง ตั้งอยู่บริเวณน้ำพุร้อน Old Faithful Geyser และริมทะเลสาบ และจุดตั้งแคมป์ทั้งหมด 12 แห่ง ตรวจสอบและทำการจองล่วงหน้าที่ www.yellowstonenationalparklodges.com

ข้อปฏิบัติของผู้ขับขี่รถยนต์ในอุทยาน

  • การขับขี่ในอุทยาน รัฐกำหนดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 45 ไมล์ต่อชั่วโมง และบางพื้นที่อาจกำหนดความเร็วลดลง
  • ผู้ขับขี่ต้องขับขี่ในเส้นทางที่อุทยานกำหนดเท่านั้น หากฝ่าฝืนจะถูกจับและปรับเป็นเงินหลายร้อยเหรียญสหรัฐ
  • ผู้ขับขี่ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือของมึนเมา เพราะอาจเป็นอันตรายได้
  • เมื่อพบเจอสัตว์ขวางทางอยู่ในระหว่างขับขี่ ผู้ขับขี่ต้องเป็นฝ่ายหลีกเลี่ยงการชนหรือการเข้าใกล้จนสัตว์ตื่นตกใจ หรือให้อาหารสัตว์ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎ

Map:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X