(9 ก.ย.) ณ วัดกลางศรีไตรภูมิ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางไปตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยของจังหวัดยโสธร โดยมี นิกร สุกใส ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร กล่าวรายงาน
จากอิทธิพลพายุโซนร้อนโพดุลและพายุคาจิกิ ส่งผลกระทบให้จังหวัดยโสธรมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมแรงและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2562 เป็นต้นมา ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัย น้ำไหลเอ่อเข้าท่วมบริเวณบ้านเรือนราษฎร พื้นที่การเกษตร สิ่งสาธารณประโยชน์ สะพาน ถนน สถานพยาบาล (โรงพยาบาลและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล) โรงเรียน ฯลฯ ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำของจังหวัดยโสธรสูงกว่าระดับเก็บกัก และระดับน้ำในแม่น้ำชีเพิ่มสูงขึ้น น้ำได้ไหลเอ่อล้นเข้าสู่ในเขตเทศบาลเมืองยโสธร โดยพื้นที่ประสบภัยมีจำนวน 8 อำเภอ 53 ตำบล 424 หมู่บ้าน
ซึ่งจังหวัดยโสธรจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัยและดินถล่ม พ.ศ. 2562 ณ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยโสธร และจัดประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยโสธร พร้อมทั้งจัดทำประกาศและวิทยุแจ้งเตือนภัย เพื่อให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง หน่วยทหาร อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำจากพายุโซนร้อนโพดุลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
โดยในส่วนของการเยียวยาผู้ประสบภัย ได้จัดตั้งศูนย์รับบริจาคน้ำดื่มและเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ณ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยโสธรได้ทำหนังสือขอถุงยังชีพประทานของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก และถุงยังชีพของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อีกทั้งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เตรียมช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยจากพายุโพดุลทั้งกรณีฉุกเฉินและการช่วยเหลือฟื้นฟูหลังประสบภัย พร้อมช่วยเหลือด้านภาระหนี้สินด้วยการขยายระยะเวลา ระดมกำลังสาขาในพื้นที่จัดถุงยังชีพช่วยเหลือแล้วกว่า 2 หมื่นถุง พร้อมสนับสนุนศูนย์อพยพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น อีกทั้งได้รับพระมหากรุณาธิคุณครัวพระราชทานและครัวเพื่อนพึ่ง (ภาฯ)
โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวตอนหนึ่งว่า ดีใจที่มาพบประชาชนในวันนี้ สิ่งสำคัญคือนำความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่เป็นห่วงประชาชนผู้ประสบภัยให้ดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลประชาชนที่ประสบความเดือดร้อน ต้องมีกำลังใจ ต่อสู้ ยิ้มสู้ สิ่งสำคัญคือการช่วยเหลือกันทั้งยามปกติสุขและยามประสบปัญหา เพื่อความเข้มแข็งของชุมชน และช่วยเหลือกันรักษาสิ่งแวดล้อม ใช้สารเคมีน้อยลง ทำเกษตรอินทรีย์ และปลูกพืชหมุนเวียนเพื่อเพิ่มช่องทางเมื่อยามประสบปัญหาการเพาะปลูก
ในด้านการบรรเทาความเดือดร้อนและผู้ประสบอุทกภัย รัฐบาลพร้อมเยียวยารวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย มีการเตรียมความพร้อมโครงการและงบประมาณที่จะดูแลประชาชนในปี 2563 รัฐบาลกำลังเร่งทำทุกอย่างให้เร็วที่สุด ให้ครอบคลุม ทั่วถึง และสิ่งสุดท้ายคือเรื่องสุขภาพอนามัยของประชาชน ขอประชาชนให้ดูแลร่างกาย และขอให้หน่วยงานต่างๆ ช่วยกันดูแลโรคภัยที่มากับน้ำท่วม
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้มอบถุงยังชีพให้ประชาชน เยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัย ให้มีกำลังใจ กำลังกายที่แข็งแรง พร้อมกับให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ แพทย์ พยาบาล อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน อาสาสมัคร และส่วนท้องถิ่นที่ช่วยกันบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนด้วย
ภาพ: สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์