วันนี้ (30 สิงหาคม) เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า อดีต สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กระบุว่า ขอแสดงความเห็นส่วนตัวในสถานการณ์การเมืองตอนนี้ การเลือกที่จะรีบยกมือ รีบประคอง เพื่อปิดทางไม่ให้ขั้วเก่ากลับมา ในมุมมองของตนเอง การทำแบบนั้นไม่ต่างอะไรกับการเข้าไปซ่อมระบบที่บิดเบี้ยวตั้งแต่ต้น
เยาวลักษณ์ระบุว่า สุดท้ายเราอาจจะถูกกลืน ถูกหักหลัง เหมือนที่เคยเจ็บ เคยจำกันมาแล้วหลายครั้ง หลายคนอาจมองว่า ถ้าเราไม่ร่วมมือ ไม่ยกมือสนับสนุนใคร กลไกเก่า (ทหาร–ตุลาการ–เครือข่ายอนุรักษ์) อาจหาทางดัน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือขั้วทหารกลับมาอีก ส่วนตัวเข้าใจเหตุผลนั้น แต่มันเป็นการเมืองที่มองสั้นๆ แค่ “กันไม่ให้คนที่เราไม่ชอบกลับมา”
เยาวลักษณ์ระบุต่อไปว่า ในมุมของตนเอง สิ่งที่ลึกกว่านั้นคือ
1.การยกมือให้ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หรือเพื่อไทย ก็คือการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่ไม่ยุติธรรมอยู่ดี
- เราเจ็บแล้วต้องจำ พรรคประชาชน และฝ่ายก้าวหน้าเคยถูกหลอกมาแล้วหลายครั้ง ทั้งสัญญาในสภาฯ นอกสภาฯ ที่ไม่เคยทำจริง ยังไม่นับรวมการยุบพรรค ถูกตัดสิทธิ
“ดังนั้น การ ‘ไม่เข้าร่วม’ สำหรับดิฉัน คือการดึงตัวเองออกจากเกมเดิม ไม่เล่นตามกติกาที่ถูกวางมาเพื่อให้เราต้องแพ้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง การ ‘ไม่เข้าร่วม’ ไม่ว่าจะด้วยยุทธศาสตร์ใดหรือกับฝั่งใด คือการยืนหยัดให้ชัดว่า เราจะไม่ยอมเป็นส่วนหนึ่งของเกมที่เขาออกแบบมาเพื่อให้เราแพ้อยู่เสมอ”
เยาวลักษณ์ระบุต่ออีกว่า ดังนั้น ปล่อยให้กลไกมันทำงานไปตามสภาพที่มันเป็น ระบบจะเปิดโปงตัวเองว่าไม่ใช่คำตอบ เพื่อให้สังคมได้เห็นเองว่านี่ไม่ใช่ทางออกของประเทศที่แท้จริง และตอกย้ำว่ากลไกอำนาจ (ตุลาการ, สถาบัน) มีอิทธิพลเกินกว่าการเลือกตั้งจริง จริงอยู่ที่รัฐธรรมนูญ ใหม่เป็นเรื่องสำคัญ แต่ยังเป็นการเคลื่อนไหวในกรอบการเมืองสถาบันที่มีข้อจำกัดมากอย่างที่เราทราบ การสร้างฐานรากจากภาคประชาชนเป็นสิ่งที่อาจเป็นไปได้มากกว่า (แม้ต้องใช้เวลาหรือถูกกลไกกดกัน)
“แต่ถ้าโครงสร้างมันบิดเบี้ยวมาตั้งแต่แรก ต่อให้เราช่วยพายเรือให้โจรนั่ง เราก็ไม่ได้ไปถึงฝั่งที่ปลอดภัยอยู่ดี สุดท้ายเราจะกลายเป็นเหยื่อของเกมนั้น” เยาวลักษณ์ทิ้งท้าย
▪️ย้อนเส้นทางเยาวลักษณ์ อดีต สส. อนาคตใหม่
เยาวลักษณ์ย้ำด้วยว่า “ยืนยันข้อเสนอเดียวคือยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน”
สำหรับเยาวลักษณ์ เคยเป็น สส. แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 17 ของพรรคอนาคตใหม่ และเคยได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 แข่งขันกับ สุชาติ ตันเจริญ จากพรรคพลังประชารัฐ
ต่อมาเยาวลักษณ์สิ้นสุดสมาชิกภาพ สส. เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่และเพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี หลังจากพ้นจากตำแหน่ง สส. ได้ย้ายมาทำงานร่วมกับคณะก้าวหน้า
