วานนี้ (4 ตุลาคม) สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดในพื้นที่จังหวัดยะลา หลังพบยอดการติดเชื้อมากกว่า 700 คน ซึ่งข้อมูลการติดเชื้อ ณ วันนี้ 4 ตุลาคม พบผู้ติดเชื้อ 764 ราย ติดเชื้อสะสม 25,623 ราย เสียชีวิต 2 ราย เสียชีวิตสะสม 194 ราย
ภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้เรียกประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด ร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยะลา เพื่อกำหนดมาตราการในการป้องกันและแก้ไข
โดยภิรมย์ได้สั่งปรับระบบการตรวจหาเชื้อโควิดในโรงพยาบาลยะลา ซึ่งที่ผ่านมาจะใช้รูปแบบการตรวจแบบ RT-PCR สำหรับผู้ที่สัมผัสเสี่ยงสูง มาเป็นการตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจเชื้อ ATK ในเบื้องต้น โดยให้เหตุผลว่าการตรวจ RT-PCR ซึ่งเป็นการตรวจที่แม่นยำ แต่ต้องรอผลการตรวจประมาณ 6 ชั่วโมง จนทำให้กลุ่มเสี่ยงที่เข้ารับการตรวจต้องรอทางเจ้าหน้าที่โทรศัพท์ไปแจ้งที่บ้าน ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งของการแพร่ระบาดในครอบครัวและชุมชนได้
ในขณะเดียวกันการตรวจด้วยชุด ATK จะสามารถทราบผลได้ทันที และสามารถนำผู้ที่มีผลตรวจติดเชื้อเข้ารับการกักตัวได้ทันที โดยจะมีการเตรียมสถานที่สังเกตอาการ (State Quarantine: SQ) ไว้รองรับผู้ป่วยดังกล่าว จากนั้นก็จะทำการตรวจซ้ำด้วยระบบ RT-PCR เพื่อยืนยันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหากผลตรวจทั้งสองยืนยันการติดเชื้อก็จะนำเข้าสู่กระบวนการรักษาในขั้นตอนต่อไป
ภิรมย์กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้ทุกอำเภอจัดเตรียม SQ และศูนย์พักคอย (Community Isolation: CI) เพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อ เป็นการจำกัดพื้นที่สำหรับผู้ที่ติดเชื้อไม่ให้กลับไปบ้านแล้วเกิดการแพร่เชื้อภายในครอบครัว ชุมชน เพื่อลดการติดเชื้อเพิ่มในพื้นที่จังหวัดยะลาให้น้อยลง พร้อมทั้งได้กำชับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่คณะทำงานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยะลาทุกหน่วยงาน ร่วมบูรณาการเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด