วันนี้ (30 กรกฎาคม) ที่จังหวัดยะลา บรรยากาศการเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อไปร่วมเฉลิมฉลองวันตรุษอีฎิลอัฎฮาหรือวันรายอฮัจยี ซึ่งเป็นวันสำคัญของพี่น้องชาวไทยมุสลิม และผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามทั่วโลก ซึ่งบรรยากาศที่สถานีรถไฟยะลา เป็นไปอย่างคึกคัก โดยตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีพี่น้องชาวไทยมุสลิมเดินทางมาใช้บริการโดยสารรถไฟขบวนท้องถิ่น ที่วิ่งรับ-ส่งผู้โดยสารจากสถานีรถไฟยะลาไปยังสุไหงโก-ลก สถานีรถไฟยะลาไปยังนครศรีธรรมราชเพื่อกลับภูมิลำเนากันจำนวนมาก โดยทางสถานีรถไฟได้จัดเจ้าหน้าที่คอยดูแลอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัยประชาชนอย่างเข้มงวด รวมทั้งการดูแลเรื่องมาตรการป้องกันโควิด-19 ก็ยังคงเป็นไปอย่างเข้มงวด ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง ลงชื่อ-นามสกุลผู้ใช้บริการ รวมทั้งการลงทะเบียนแอปพลิเคชันไทยชนะ
ซึ่งตลอดทั้งวันนี้ มีชาวไทยมุสลิมจำนวนมากเดินทางมาใช้บริการโดยสารรถไฟ ทั้งขบวนรถธรรมดา รถเร็ว ด่วนพิเศษทักษิณารัถย์ ด่วนพิเศษดีเซลราง เพื่อกลับไปเฉลิมฉลองกับครอบครัว
สำหรับบรรยากาศในตลาดสดจังหวัดยะลา เริ่มมีประชาชนทยอยเดินทางออกมาจับจ่ายเลือกซื้ออาหารกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมนำไปประกอบอาหารสำหรับจัดเลี้ยงครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูงในวันพรุ่งนี้ (31 กรกฎาคม) ทำให้บรรยากาศที่ตลาดรถไฟ เขตเทศบาลนครยะลา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นไปอย่างคึกคัก ขณะเดียวกันบรรดาพ่อค้า แม่ค้า ได้นำข้าวเหนียวสามเหลี่ยม แป้งข้าวหมาก ละซอ (ขนมจีน) ละแซ ซึ่งเป็นอาหารที่ชาวมุสลิมนิยมรับประทานในช่วงเทศกาลฮารีรายอ มาวางขายกันจำนวนหลายร้าน เพื่อให้ประชาชนได้เลือกซื้อ
ขณะที่สถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารและอาสาสมัคร นำกำลังตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ที่ถนนสุขยางค์ ซึ่งเป็นถนนเส้นทางหลักเขตเมืองยะลา โดยเน้นเข้มงวด คัดกรองบุคคล รถยนต์ รถจักรยานยนต์ต้องสงสัย เป้าหมาย ตรวจสอบบัตรประชาชน สิ่งของภายในรถ สิ่งของพกพาในกระเป๋า สิ่งของแปลกปลอม ผิดกฎหมาย เพื่อป้องกัน สกัดกั้นคนร้ายที่อาจจะแฝงตัว ซุกซ่อนวัตถุระเบิดขนาดเล็ก อาวุธปืน เข้ามาก่อเหตุความไม่สงบ หลังแหล่งข่าวได้แจ้งเตือนทุกหน่วยให้เพิ่มความเข้มงวด และเฝ้าระวังการก่อเหตุอย่างต่อเนื่องในช่วงวันสำคัญ
ทั้งนี้ อาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ผู้นำสูงสุดด้านศาสนาอิสลาม ได้กำหนดให้วันอีฎิลอัฎฮา ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1441 ตรงกับวันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม 2563 เพื่อกำหนดผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามในประเทศไทยปฏิบัติศาสนกิจอย่างพร้อมเพรียงกัน ซึ่งวันดังกล่าวเป็นวันที่ชาวมุสลิมทั่วโลก เฉลิมฉลองวันแรกของการประกอบพิธีฮัจญ์ ที่นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยมีศาสนกิจที่สำคัญ คือ การทำพิธีละหมาดร่วมกันในช่วงเช้า ก่อนจะทำพิธีกรุบาน (เชือดสัตว์) แล้วนำไปแจกจ่ายให้กับคนยากจน รวมทั้งจะเดินทางไปยังกุโบร์ (สุสาน) และเดินทางไปเยี่ยมเยียนญาติพี่น้อง
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
