Xiaomi ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่ของจีน สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัวชิปเซ็ตสมาร์ทโฟนที่ ‘พัฒนาเอง’ เป็นครั้งแรก โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัยเทียบเท่า Apple การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Xiaomi ในการยกระดับผลิตภัณฑ์ ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่เพิ่มขึ้น
ชิปเซ็ตใหม่นี้มีชื่อว่า XRING O1 SoC (System-on-Chip) ได้รับการออกแบบมาเพื่อผลิตด้วยเทคโนโลยี 3 นาโนเมตรของ Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. (TSMC) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตชิปที่ ‘ล้ำสมัยที่สุด’ ในโลกปัจจุบัน และเป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับที่ Apple, MediaTek และ Qualcomm ใช้สำหรับชิปมือถือชั้นนำ
Lei Jun ประธานกรรมการผู้ก่อตั้ง Xiaomi กล่าวในการเปิดตัวว่า “Apple ทำชิปที่เก่งที่สุดในโลก เราเลยตั้งเป้าว่าจะทำชิปให้เก่งเท่า Apple” พร้อมระบุว่าชิปใหม่นี้มีทรานซิสเตอร์ 1.9 หมื่นล้านตัว เหมือนกับชิปประมวลผลมือถือล่าสุดของ Apple
ผู้ก่อตั้ง Xiaomi ยังประกาศว่าสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ Xiaomi 15S Pro และแท็บเล็ตรุ่นใหม่ Pad 7 Ultra ที่มาพร้อมจอ OLED จะใช้ชิป XRING O1 นี้ นอกจากนี้ Xiaomi ยังได้เปิดตัวชิปโมเด็ม 4G ตัวแรกสำหรับใช้ในสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ของบริษัทด้วย
“หากเราต้องการเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ การสร้างชิปของเราเองเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้” Jun กล่าว “การเปิดตัวชิปตัวแรกของเราเป็นเพียงจุดเริ่มต้น และยังมีหนทางอีกยาวไกล”
การพัฒนาชิปเซ็ตเช่นนี้ต้องอาศัย ‘การลงทุนมหาศาล’ Jun เปิดเผยว่าบริษัทได้ลงทุนกว่า 1.35 หมื่นล้านหยวน ในการวิจัยและพัฒนาชิป Xring ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาถึงเดือนเมษายน และให้คำมั่นว่าจะลงทุนเพิ่มอีกอย่างน้อย 5 หมื่นล้านหยวนในอีกสิบปีข้างหน้า
การพัฒนาหน่วยประมวลผลเองของ Xiaomi ถือเป็น ‘ก้าวสำคัญ’ สำหรับอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนจีนโดยรวม เนื่องจากก่อนหน้านี้มีเพียง Huawei (ผ่านหน่วยงาน HiSilicon) เท่านั้นที่สามารถสร้างชิปเซ็ตสมาร์ทโฟนที่สามารถแข่งขันได้ ขณะที่ Oppo ซึ่งเคยมีทีมออกแบบชิปขนาดใหญ่ ก็ได้ยุบทีมนี้ไปในปี 2023
ตลาดชิปเซ็ตสมาร์ทโฟนนั้นถูก MediaTek, Qualcomm และ Apple ครองตลาดมาอย่างยาวนาน โดยรวมกันมีส่วนแบ่งประมาณ 78% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2024
Cristiano Amon ซีอีโอของ Qualcomm ไม่ได้แสดงความกังวลต่อการที่ลูกค้าเก่าแก่ของพวกเขาจะพัฒนาชิปประมวลผลสมาร์ทโฟนเอง โดยยืนยันถึง “ความสัมพันธ์ที่ยาวนานและแน่นแฟ้น” กับ Xiaomi และคาดว่า Xiaomi จะยังคงใช้ชิป Qualcomm สำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงบางรุ่นต่อไป
Ethan Qi นักวิเคราะห์จาก Counterpoint มองว่าการพัฒนาชิปเซ็ต 3 นาโนเมตรของ Xiaomi สะท้อนถึง ‘กลยุทธ์ระยะยาว’ ที่กว้างไกลของบริษัท “ความสำเร็จครั้งสำคัญนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของประสิทธิภาพสมาร์ทโฟนเท่านั้น แต่ยังเป็นการปูทางสู่การใช้งานที่กว้างขึ้นในด้าน IoT (Internet of Things) และยานยนต์” Qi กล่าว
“แม้ผลกระทบต่อส่วนแบ่งตลาดในระยะใกล้จะยังไม่มากนัก แต่คุณค่าของชิปนี้น่าจะปรากฏให้เห็นในด้านยานยนต์และ IoT ก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของ Xiaomi ในตลาดมือถือ”
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จจะขึ้นอยู่กับความสามารถของ Xiaomi ในการรักษาสมดุลระหว่างประสิทธิภาพ ต้นทุน และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ท่ามกลางความซับซ้อนทางภูมิรัฐศาสตร์และห่วงโซ่อุปทานที่เพิ่มขึ้น
อ้างอิง: