เมื่อวันศุกร์ที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีน พูดคุยทางโทรศัพท์กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยทรัมป์โพสต์ข้อความผ่าน Truth Social ว่าการพูดคุยครั้งนี้เป็นการสนทนาที่ดีมากสำหรับทั้งจีนและสหรัฐฯ
ทรัมป์กล่าวว่า “เราได้หารือกันเรื่องการปรับสมดุลการค้า ปัญหายาเฟนทานิล (Fentanyl) TikTok และหัวข้ออื่นๆ อีกมากมาย พร้อมให้คำมั่นว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้โลกสงบสุขและปลอดภัย”
ด้านสถานีโทรทัศน์ CCTV ของจีนรายงานว่า สีจิ้นผิงเน้นย้ำความสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดยกล่าวว่า “เราหวังว่าความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ จะเริ่มต้นอย่างราบรื่นในวาระใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ และพร้อมที่จะส่งเสริมความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ขึ้นในการเริ่มต้นใหม่”
นอกจากนี้ สีจิ้นผิงยังระบุถึงความแตกต่างระหว่างสองประเทศ แต่ชี้ว่าการเคารพในผลประโยชน์หลักของกันและกันเป็นสิ่งสำคัญ พร้อมกล่าวถึงปัญหาเรื่องไต้หวันว่าเป็นเรื่องอธิปไตยของจีน และเรียกร้องให้สหรัฐฯ ดำเนินการอย่างระมัดระวัง
ทั้งนี้ การพูดคุยครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ TikTok ถูกกำหนดให้ถูกถอดออกจากร้านค้าแอปพลิเคชันในสหรัฐฯ ในวันพรุ่งนี้ (19 มกราคม) ตามกฎหมายที่บังคับให้ ByteDance ซึ่งเป็นบริษัทแม่สัญชาติจีน ขายกิจการในสหรัฐฯ
ส่วนประเด็นเรื่องยาเฟนทานิล ทรัมป์เคยประกาศระหว่างการหาเสียงว่า จะเรียกเก็บภาษี 25% กับเม็กซิโกและแคนาดา และ 10% กับสินค้าจีน เพื่อต่อสู้กับการลักลอบนำเข้าเฟนทานิล ซึ่งเป็นปัญหายาเสพติดที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงในสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ในวันจันทร์ที่ 20 มกราคมที่จะถึงนี้ ทรัมป์เตรียมเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง และเขาเชิญสีจิ้นผิงเข้าร่วมพิธีด้วย แต่ทางการจีนยืนยันแล้วว่าจะส่ง หานเจิ้ง รองประธานาธิบดี มาเป็นตัวแทน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่าพร้อมที่จะเสริมสร้างการเจรจาและการสื่อสารกับรัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ เพื่อจัดการความแตกต่างและส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน
ทั้งนี้ แม้ผู้นำประเทศต่างๆ มักส่งตัวแทนเข้าร่วมพิธีเปลี่ยนผ่านอำนาจประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ครั้งนี้ทรัมป์เชิญผู้นำระดับสูงของบางประเทศ เช่น ทาเคชิ อิวายะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น ซึ่งมีกำหนดเข้าร่วมพิธีดังกล่าวด้วย
ขณะที่รัฐบาลยุคทรัมป์ 2.0 ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนอาจมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยทรัมป์เสนอชื่อบุคคลที่วิจารณ์จีนอย่างหนัก เช่น มาร์โก รูบิโอ ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งรูบิโอที่อยู่ในรายชื่อถูกจีนคว่ำบาตร กล่าวในที่ประชุมยืนยันการแต่งตั้งว่า “จีนโกหก โกง และขโมยจนก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจโลก”
ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงเต็มไปด้วยความท้าทาย ทั้งในประเด็นการค้า ไต้หวัน และความขัดแย้งในระดับยุทธศาสตร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของทั้งสองประเทศและเศรษฐกิจโลกในอนาคต
ภาพ: Photo by Thomas Peter-Pool / Getty Images
อ้างอิง:
