ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ โดยเดินทางถึงสนามบินนานาชาติคิงคาลิด กรุงริยาด เมื่อวานนี้ (7 ธันวาคม) ตามคำเชิญของสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด ท่ามกลางการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งจากฝูงบินขับไล่ 4 ลำที่บินคุ้มกันทันทีที่เครื่องบินของผู้นำจีนเข้าน่านฟ้า และการปูพรมสีม่วง พร้อมยิงปืนใหญ่ต้อนรับอย่างสมเกียรติ ในขณะที่เจ้าชายไฟซาล บิน บันดาร์ บิน อับดุลลาซิส ผู้ว่าการภูมิภาคริยาด และเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาร์ฮาน บิน อับดุลลาห์ รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุ เป็นผู้ให้การต้อนรับ
กำหนดการเยือนของสีระยะเวลา 3 วัน รวมถึงการประชุม 2 รายการกับผู้นำชาติอาหรับ ได้แก่ การประชุมสุดยอดผู้นำจีน-อาหรับ และการประชุมสุดยอดจีนและคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ โดยคาดว่าจะมีการลงนามในข้อตกลงด้านการค้า เศรษฐกิจ และการทหารหลายสิบฉบับ รวมมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ ผู้นำซาอุเตรียมสร้างความประทับใจแก่สีด้วยการจัดแสดงที่สวยงาม เช่นการรำดาบตามประเพณีท้องถิ่น และจัดงานเลี้ยงรับรองอันหรูหรา ขณะที่มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน นายกรัฐมนตรีแห่งซาอุ อาจพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียญรางวัลแก่ผู้นำจีนด้วย
โดยการแสดงออกถึงมิตรภาพอันมากมายนี้คาดว่าจะส่งผลต่อการดำเนินการทางการทูต และเน้นย้ำความเป็นหุ้นส่วนอันแน่นแฟ้นระหว่างปักกิ่งและริยาด ขณะที่เจ้าชายอับดุลอะซีซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานซาอุ ในฐานะประเทศผู้ส่งออกน้ำมันอันดับ 1 ยืนยันว่าจะยังคงเป็นหุ้นส่วนด้านพลังงานที่ไว้วางใจและเชื่อถือได้สำหรับจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีอัตราการบริโภคน้ำมันมากที่สุดในโลก
อย่างไรก็ตาม การเยือนซาอุของสี ซึ่งคาดว่าจะเป็นหลักชัยสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างจีนและชาติอาหรับ ถูกจับตามองถึงความพยายามในการขยายอิทธิพลและสร้างพันธมิตรในตะวันออกกลาง
โดยซาอุนั้นถือเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ แต่ในการเยือนซาอุของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา กลับไม่เป็นไปอย่างน่าประทับใจนัก ซึ่งเจ้าชายโมฮัมเหม็ดตัดสินใจประกาศเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอย่างจำกัดต่อหน้าไบเดน ระหว่างการประชุมโต๊ะกลม ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการของสหรัฐฯ และหลังจากนั้นได้ตัดลดกำลังการผลิตลงอีก 2 เท่า
ขณะที่จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ แถลงเตือนว่า ความพยายามของจีนที่จะขยายอิทธิพลของตนไปทั่วโลกนั้น ‘ไม่เอื้ออำนวย’ ต่อกฎระเบียบระหว่างประเทศ
“เราตระหนักถึงอิทธิพลที่จีนพยายามขยายไปทั่วโลก ตะวันออกกลางเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่พวกเขาต้องการเพิ่มระดับอิทธิพลให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น” เคอร์บีกล่าว
ภาพ: Saudi Arabian Foreign Ministry / Handout/Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: