จากจุดเริ่มต้นที่มีชายคนหนึ่งแขวนป้ายข้อความประท้วงประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ณ สะพานซื่อทงในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้ชาวจีนจำนวนมากทั้งในและต่างประเทศออกมาเคลื่อนไหวแสดงสัญลักษณ์แบบเดียวกัน
แม้ตำรวจจะรีบนำป้ายประท้วงออกอย่างรวดเร็ว และข้อความทั้งหมดที่กล่าวถึงการประท้วงถูกลบออกจากอินเทอร์เน็ตของจีน แต่การประท้วงทางการเมืองซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยในประเทศที่เต็มไปด้วยการสอดส่องภายใต้การปกครองแบบเผด็จการของ สีจิ้นผิง ได้ดังก้องไปไกลกว่าเมืองหลวงของจีน ทำให้เกิดการแสดงความสามัคคีจากชาวจีนในประเทศและทั่วโลก เปรียบเสมือนประกายไฟเล็กๆ ที่ทำให้เกิดไฟลามทุ่ง
ในประเทศจีนมีการขีดเขียนข้อความประท้วงบนฝาผนังและประตูของห้องน้ำสาธารณะ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่สุดท้ายที่ไม่ถูกกล้องวงจรปิดของทางการที่ติดอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่งของประเทศจับจ้อง
ส่วนในต่างประเทศมีการติดโปสเตอร์ต่อต้าน สีจิ้นผิง ตามมหาวิทยาลัย นักศึกษาหลายคนบอกว่า ถ้าพวกเขาอยู่ในเมืองจีนซึ่งเต็มไปด้วยการเฝ้าระวังและการจับตาจากทางการ พวกเขาคงไม่กล้าทำสิ่งนี้
หลายคนกล่าวว่า พวกเขาตกใจและสะเทือนใจกับการประท้วงที่สะพานซื่อทง และรู้สึกว่าจำเป็นต้องแสดงการสนับสนุนชายผู้กล้าซึ่งถูกขนานนามว่า ‘ชายสะพาน’ (Bridge Man) ตามแบบ ‘ชายรถถัง’ (Tank Man) ผู้ยืนประจันหน้าขบวนรถถังที่กำลังเคลื่อนบนถนนฉางอันเข้ามายังจัตุรัสเทียนอันเหมินในตอนเช้าหลังจากคืนปราบปรามกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อปี 1989
ราเวน อู๋ นักศึกษามหาวิทยาลัยในภาคตะวันออกของจีน เป็นคนหนึ่งที่ได้แรงบันดาลใจจากชายสะพาน อู๋ฝากข้อความเป็นภาษาอังกฤษไว้ในห้องน้ำ เพื่อร่วมเรียกร้องเสรีภาพ ศักดิ์ศรี การปฏิรูป และประชาธิปไตย นอกจากนี้ที่ใต้ข้อความเขายังได้วาดรูป Winnie the Pooh สวมมงกุฎและมีเครื่องหมายขีดฆ่าวาดทับไปบนรูป
ขณะที่ เฉินเฉียง นักศึกษาจบใหม่จากภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งเคยพยายามแชร์ภาพและข้อความการประท้วงที่สะพานซื่อทงบน WeChat แต่กลับถูกเซ็นเซอร์อยู่ตลอด ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนไปใช้ห้องน้ำสาธารณะเป็นที่แสดงออกแทน
เฉินอธิบายตัวเองว่าเป็นผู้รักชาติ “แต่ผมไม่รักพรรคคอมมิวนิสต์ ผมมีความรู้สึกต่อจีน แต่ไม่ใช่รัฐบาล”
บัญชี Instagram ที่สนับสนุนประชาธิปไตยจำนวนหนึ่งที่ดำเนินการโดยชาวจีนนิรนาม ได้ติดตามกราฟฟิตี้และโปสเตอร์ต่อต้าน สีจิ้นผิง บัญชี Citizensdailycn ซึ่งมีผู้ติดตาม 32,000 คนเปิดเผยว่า พวกเขาได้รับภาพประท้วงต่อต้าน สีจิ้นผิง เป็นจำนวนหลายสิบภาพจากจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งกว่าครึ่งหนึ่งเกิดขึ้นในห้องน้ำ ส่วนบัญชี Northern_Square ซึ่งมีผู้ติดตาม 42,000 คน เปิดเผยว่า ได้รับรายงานการประท้วงในห้องน้ำจากเมืองใหญ่ๆ ของจีน เช่น ปักกิ่ง เทียนจิน เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว เซินเจิ้น และอู่ฮั่น
การเคลื่อนไหวดังกล่าวได้รับการขนานนามจากบางกลุ่มว่าเป็น ‘การปฏิวัติห้องน้ำ’ (Toilet Revolution) ซึ่งเป็นการเสียดสีการรณรงค์ของ สีจิ้นผิง เพื่อปรับปรุงสภาพสุขาภิบาลของห้องน้ำสาธารณะในจีน
เฉินกล่าวว่า คำนี้ยังช่วยย้ำเตือนถึงพื้นที่ที่จำกัดในการแสดงออกอย่างเสรีในประเทศจีน
“ท่ามกลางการเซ็นเซอร์และการสอดส่อง ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นทางการเมืองได้ด้วยการเขียนข้อความประท้วงในสถานที่อย่างห้องน้ำเท่านั้น เป็นเรื่องน่าเศร้าที่เราถูกกดขี่ถึงขนาดนี้” เฉินกล่าว
สำหรับนักศึกษาชาวจีนโพ้นทะเลจำนวนมาก นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เคลื่อนไหวทางการเมือง โดยมีความกลัวและความรู้สึกผิดต่อชายสะพาน รวมทั้งความสำนึกในหน้าที่เป็นตัวขับ
“การติดโปสเตอร์ประท้วงเป็นสิ่งเล็กที่สุด แต่ใหญ่ที่สุดที่ฉันทำได้ในตอนนี้ ไม่ใช่เพราะความสามารถของฉัน แต่เป็นเพราะว่าฉันไม่กล้า” โจลี นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยลอนดอนกล่าว โดยเธอเผยว่า เธอกลัวความปลอดภัยของครอบครัวและญาติๆ ที่อยู่ในประเทศจีน
บัญชี Citizensdailycn และ Northern_Square เปิดเผยว่า พวกเขาได้รับภาพที่แสดงการต่อต้าน สีจิ้นผิง มากกว่า 1,000 รายการที่ส่งมาจากชาวจีนในต่างประเทศ โดยมีรายงานว่าภาพเหล่านี้มาจากมหาวิทยาลัย 320 แห่งทั่วโลก
นักศึกษาอีกหลายคนแสดงความรู้สึกผิดคล้ายๆ กัน “ฉันรู้สึกละอายใจ ถ้าตอนนี้ฉันอยู่ที่ปักกิ่งฉันจะไม่กล้าทำเรื่องแบบนี้เลย” อีวอนน์ หลี่ ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอีราสมุส รอตเทอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ กล่าว
หลี่และเพื่อนคนหนึ่งติดโปสเตอร์หลายร้อยใบในวิทยาเขตและใจกลางเมือง รวมทั้งบริเวณไชน่าทาวน์
“ฉันอยากจะร้องไห้จริงๆ เมื่อฉันเห็นการประท้วงเป็นครั้งแรกบน Instagram ฉันรู้สึกหดหู่เมื่ออ่านข่าวจีนทุกวัน ฉันไม่เห็นความหวังใดๆ แต่เมื่อฉันเห็นชายผู้กล้าหาญคนนี้ ฉันก็รู้ว่ายังมีแสงริบหรี่อยู่” เธอกล่าว
“ผู้ประท้วงบนสะพานอาจเป็นคนเดียวที่มีความกล้าหาญและเต็มใจที่จะเสียสละ แต่ก็อาจมีคนจีนอีกหลายล้านคนที่มีความเห็นแบบเดียวกับเขา” แมตต์ นักศึกษาชาวจีนจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียในนิวยอร์ก กล่าว
“เขาทำให้ผมรู้ว่ายังมีคนแบบนี้อยู่ในประเทศจีน และผมก็อยากให้คนอื่นรู้เช่นกัน ไม่ใช่ทุกคนที่จะถูกล้างสมอง เรายังคงเป็นชาติที่มีอุดมการณ์และความหวัง”
ภาพ: Martin Pope / Getty Images
อ้างอิง: