เมืองซีอาน เมืองเอกของมณฑลฉ่านซี ประเทศจีน แม้ไร้ทางออกสู่ทะเล และเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองแห่งประวัติศาสตร์ แต่ก็มีศักยภาพในธุรกิจด้านอื่นๆ โดยเฉพาะทางด้านเทคโนโลยี
ปัจจุบันบริษัทกว่า 16,000 แห่ง ได้ลงทุนฐานการผลิตในเขตพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูงในเมืองซีอาน และภายหลังที่รัฐบาลจีนเริ่มการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคอย่างจริงจัง ทำให้ภาคตะวันตกของจีนกลายเป็นแหล่ง ‘ทำเลทอง’ ที่วิสาหกิจทั้งในและนอกประเทศต่างก็ให้ความสนใจในการเข้ามาลงทุนและตั้งฐานการผลิต เนื่องจากได้เปรียบในด้านทำเลที่ตั้ง และมีค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำที่ต่ำกว่าแรงงานในพื้นที่ภาคตะวันออกของจีน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ประธาน BYD ยังรั้ง Top 10 บุคคลที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลในจีน แม้ความมั่งคั่งวูบ 1.5 พันล้านดอล
- เปิดชื่อแบรนด์รถยนต์ EV จีน ที่เข้ามาตั้งโรงงานผลิตในไทย เริ่มเดินสายพานปี 2567-2568
- ซื้อ BYD ตอนนี้ คุ้มหรือไม่? เมื่อ ‘ดอย’ กลายเป็นเรื่องปกติ แต่เสี่ยงทำแบรนด์พังในระยะยาว
เมื่อเร็วๆ นี้ THE STANDARD WEALTH มีโอกาสเดินทางไปชมเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทาง BYD พัฒนามากว่า 15 ปี โดย DM-i ถือเป็นระบบพลังงาน และชุดควบคุมการทำงานของรถยนต์ประเภท PHEV ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ BYD เท่านั้น พร้อมสัมผัสวัฒนธรรมเมืองซีอาน
รู้จักเทคโนโลยี DM-i สุดล้ำของ BYD
เทคโนโลยี DM-i เป็นการผสานจุดแข็งของรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) และรถยนต์ Hybrid (HEV) ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง พร้อมเครื่องยนต์เบนซินที่พัฒนามาเพื่อรถยนต์ Plug-in Hybrid โดยเฉพาะ สามารถสลับการทำงานระหว่างโหมดไฟฟ้าและโหมด Hybrid ได้ ซึ่งจะแตกต่างจากระบบ Hybrid แบบเดิม BYD พยายามให้รุ่นนี้เป็นได้ทั้งรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่วิ่งได้ไกลสำหรับขับในเมือง และรถ Hybrid ที่วิ่งออกต่างจังหวัดแบบประหยัดน้ำมัน และต่างจากรถ Hybrid ทั่วไปตรงที่แบตเตอรี่สำหรับขับเคลื่อนมีขนาดใหญ่กว่า และยังสามารถชาร์จไฟจากภายนอกเข้าไปที่แบตเตอรี่ได้อีกด้วย
เรียกได้ว่าเทคโนโลยี DM-i นี้เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะจาก BYD ซึ่งพัฒนามากว่า 15 ปี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่
โดย ‘DM-i’ ย่อมาจาก Dual Mode รวมกับคำว่า Intelligent ซึ่งหมายถึงระบบขับเคลื่อน ‘Plug-in Hybrid รูปแบบใหม่’ ที่มีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งปัจจุบัน BYD คือผู้บุกเบิกและผู้นำในด้าน PHEV อันดับ 1 ของโลก ด้านยอดขายสะสม
วิวัฒนาการเทคโนโลยี DM ของ BYD
- DM 1.0
ออกแบบสถาปัตยกรรมระบบ Hybrid มอเตอร์คู่ที่มีรูปแบบการขับเคลื่อนแบบ Hybrid อนุกรม และ Hybrid ขนานผสมผสานกัน โดยเริ่มเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยี Plug-in Hybrid
- DM 2.0
ออกแบบสถาปัตยกรรมระบบ Hybrid โดยใช้ระบบส่งกำลัง DCT ที่มีรูปแบบการขับเคลื่อนแบบ Hybrid ขนาน สู่ผู้นำเทคโนโลยี Plug-in Hybrid
- DM 3.0
ออกแบบสถาปัตยกรรมระบบ Hybrid โดยใช้ระบบส่งกำลัง DCT ที่มีรูปแบบการขับเคลื่อนแบบ Hybrid ขนานและอนุกรม เป็นผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยี Plug-in Hybrid
- DM 4.0
ออกแบบสถาปัตยกรรมระบบ Hybrid มอเตอร์คู่ที่มีรูปแบบขับเคลื่อนแบบ Hybrid อนุกรม และ Hybrid ขนานผสมผสานกัน ขึ้นแท่นผู้พัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี Plug-in Hybrid
- DM 5.0
เป็นผู้ต่อยอดนวัตกรรมเทคโนโลยี Plug-in Hybrid
จุดเด่นคือมีแหล่งจ่ายพลังงานจาก BYD Blade Battery ขนาดใหญ่
ถามว่าเทคโนโลยี DM-i ที่กำลังพัฒนาคือเวอร์ชันไหน คำตอบคือ DM-i Super Hybrid 4.0 ที่มีจุดเด่นคือ ประหยัดพลังงานกว่า, เสียงเบา, ราคาถูก, ชาร์จไฟฟ้า 1 ครั้ง วิ่งได้ระยะทางถึง 1,200 กิโลเมตร เมื่อวิ่งควบระหว่างระบบไฟฟ้ากับน้ำมัน, มีแหล่งจ่ายพลังงานจาก BYD Blade Battery ขนาดใหญ่ รวมถึงเครื่องยนต์ที่ใช้ในการสร้างพลังงาน ส่วนนี้ BYD มีการวิจัยและพัฒนาระบบกำลังและระบบควบคุมแยกจากกันแบบอิสระ 100%
เริ่มผลิตรุ่น BYD SEALION 6 DM-i Super Hybrid ในไทยแล้ว
บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด เพิ่งได้ฤกษ์เปิดตัว BYD รุ่นที่ใช้เทคโนโลยีนี้ไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา นั่นคือ BYD SEALION 6 DM-i SuperHybrid และจะผลิตในประเทศไทยที่โรงงาน BYD ประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 600 ไร่ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ จังหวัดระยอง นับว่าถือเป็นก้าวสำคัญของ BYD
โดย BYD ต้องการให้โรงงานแห่งนี้มีกำลังการผลิตสูงสุด 150,000 คันต่อปี เป็นศูนย์กลางการผลิตและการส่งออกรถยนต์พวงมาลัยขวาไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ และจ้างงานคนไทยกว่า 10,000 ตำแหน่ง
เบนสัน เค่อ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บีวายดีไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า “ประเทศไทยมีอุตสาหกรรมยานยนต์ที่โดดเด่นที่สุด และมีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมแห่งหนึ่งในอาเซียน สะท้อนจากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เพิ่มขึ้นเกือบ 40 เท่าในปี 2566 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
“วันนี้รถ SUV ของ BYD ซึ่งติดตั้งเครื่องยนต์แบบ Plug-in Hybrid หรือ PHEV ที่ใช้เทคโนโลยี DM-i ที่พามารับชมถึงเมืองซีอาน จะเรียกชื่อรุ่นในตลาดต่างประเทศทั่วโลกให้ตรงกันว่า BYD SEALION 6”
เบนสัน เค่อ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บีวายดีไทยแลนด์ จำกัด
Hybrid อาจเป็นตัวเร่งให้ตลาด EV ในไทยเติบโตเร็วขึ้น
เค่อกล่าวอีกว่า BYD SEALION 6 จะเป็นตัวเปิดตลาด PHEV ในประเทศไทย และอาจส่งผลต่อส่วนแบ่งทางการตลาดของรถยนต์สันดาปแน่นอน
“ผมมองว่า DM-i Super Hybrid อาจเป็นตัวเร่งให้ตลาด EV ในประเทศไทยเติบโตเร็วขึ้น และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ผลิตรายอื่นในการแข่งขัน PHEV เพราะตอนนี้ในประเทศไทยยังใช้เทคโนโลยีการผลิตรถยนต์ ICE เป็นหลักอยู่ ดังนั้นการมาถึงของ PHEV โดยเฉพาะ BYD ที่ยิ่งมีโรงงานผลิตในประเทศไทยอยู่แล้วนั้น อาจเป็นตัวเร่งให้เกิดการทรานส์ฟอร์มจากรถ ICE สู่ EV ล้วนได้เร็วขึ้น” เค่อย้ำ
ที่ผ่านมา BYD SEALION 6 DM-i Super Hybrid ได้การตอบรับดีมาก ด้วยยอดขายทะลุ 1 ล้านคันในจีนและทั่วโลก ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปีนับจากวันเปิดตัว
การเปิดตัว BYD SEALION 6 DM-i Super Hybrid รถยนต์ C-SUV ในประเทศไทย จะให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับรถยนต์ไฟฟ้า 100% โดยคนไทยจะได้สัมผัสอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป ราคาเริ่มต้นที่ 9.3 แสนบาท
เค่อกล่าวอีกว่า นอกจากจะทำตลาดในประเทศไทยแล้ว ยังได้เริ่มทำการตลาดรถรุ่นนี้ในอีกหลายประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และอีกหลายประเทศในยุโรป
Plug-in Hybrid มาแรง ยอดจำหน่ายตลาดจีนสูงเป็นประวัติการณ์
หากดูยอดขาย PHEV ปีที่แล้วในจีนมียอดขายรวมกันกว่า 3.6 ล้านคัน ซึ่ง BYD เป็น 1 ใน 3 รถ Plug-in Hybrid ที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ทำให้หลายโรงงานของ BYD ต้องปรับเปลี่ยนสายพานการผลิตจากรถยนต์ไฟฟ้ามาเป็นรถ Plug-in Hybrid
นอกจากนี้คาดว่ามีแผนเปิดตัวรถแบรนด์หรูอีกแบรนด์ นั่นคือ Denza ซึ่งเป็นรถ MPV หรูไฟฟ้า และรถ SUV หรู Plug-in Hybrid ที่ใช้เทคโนโลยี DM-i อย่าง Denza N8
ขณะเดียวกัน BYD ยังมีอีกแบรนด์หรูที่ผู้บริโภคชาวไทยให้ความสนใจไม่น้อย คือ YangWang โดยมีรถ SUV หรู คือ YangWang U8 (ราคาที่จีน ราว 5 ล้านบาท) และรถซูเปอร์สปอร์ต YangWang U9 (ราคาที่จีน ราว 8 ล้านบาท) อีกด้วย
หลังจากนี้คงต้องลุ้นว่ากระแส EV ในประเทศไทยที่เติบโตต่อเนื่อง และแบรนด์ EV จากจีนหลั่งไหลเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย พร้อมตั้งฐานผลิตไปแล้วมากกว่า 4 แบรนด์ บวกกับการแข่งขันที่สูงและมีทางเลือกมากขึ้น บางรุ่นราคาครึ่งล้าน PHEV ที่มีราคาสูงกว่าจะเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตาม ถือว่าขณะนี้รถยนต์ Hybrid มาแรงอย่างมากในประเทศไทย เพราะนอกจากจะตอบโจทย์ผู้บริโภคที่อาจยังไม่ตัดสินใจซื้อ EV ล้วน รัฐบาลไทยเองก็สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านการผลิตรถยนต์ Hybrid ไม่น้อย
ขณะเดียวกันข้อมูลล่าสุดจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยว่า การผลิตและยอดขายรถยนต์ Hybrid เติบโตสวนทางอย่างมากในประเทศไทย ซึ่งเพิ่มขึ้น 2 เท่าในปีนี้
รวมถึงโอกาสที่ BYD จะนำเข้ารุ่นซูเปอร์คาร์เข้ามาในประเทศไทยหรือไม่ ต้องติดตาม
อ้างอิง: