บริเวณสามเหลี่ยมทองคำที่เป็นพื้นที่รอยต่อระหว่าง 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ถือเป็นพื้นที่ที่มีการลักลอบค้าสัตว์ป่าเสรีอย่างผิดกฎหมายที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาค
ข้อมูลน่าตกใจจากองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือ WWF ได้เปิดเผยถึง 10 อันดับสัตว์ป่าที่มีการลักลอบซื้อขายกันมากที่สุดในสามเหลี่ยมทองคำ พบว่า เสือโคร่ง ช้าง หมี และตัวลิ่น ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน 4 รายชื่อแรก รองลงมาคือ แรด เลียงผา นกเงือก กระทิง เสือดาว และเต่า ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสัตว์ป่าหายากที่ใกล้สูญพันธุ์ทั้งสิ้น
เรื่องจริงชวนช็อก! ลักลอบซื้อขายเสือโคร่งป้อนร้านอาหาร ดองเหล้า ทำเครื่องประดับ
ลักลอบซื้อกันไปทำไม? หลายคนคงตั้งคำถาม
ซึ่งจากข้อมูลของ WWF ระบุว่า เสือโคร่งตามธรรมชาติ และเสือโคร่งจากฟาร์มที่ถูกซื้อขายส่วนใหญ่จะส่งไปป้อนให้กับภัตตาคารร้านค้า ซึ่งจะนำกระดูกเสือโคร่งไปดองเหล้า นำเนื้อไปประกอบอาหาร รวมถึงการแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน และทำเครื่องประดับราคาแพง
ส่วนความต้องการหนังช้างตากแห้ง และงาช้างก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นจนคุกคามความอยู่รอดของช้างในทวีปเอเชียและทวีปแอฟริกา
เช่นเดียวกับหมีที่ตกเป็นผู้ถูกล่าจากความนิยมเปิดฟาร์มหมีในภูมิภาค ซึ่งทำให้หมีหมา (Sun Bear) และหมีควาย (Asiatic Black Bear) ตามธรรมชาติถูกจับมากขึ้นเรื่อยๆ และฟาร์มหมีเหล่านี้จะนำหมีมารีดน้ำดีเพื่อสกัดเป็นยา ตามความเชื่อว่าจะรักษาโรคต่างๆ ได้ แต่ปัจจุบันก็ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์รับรองว่าความเชื่อดังกล่าวเป็นเรื่องจริง
จากสถิติยังพบว่า แรดแอฟริกา จะถูกล่าและฆ่าทิ้งเฉลี่ยวันละ 3 ตัว เพื่อตอบสนองความต้องการนอแรดที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม ซึ่งเชื่อว่าการมีนอแรดในครอบครองเป็นสัญลักษณ์แทนความร่ำรวย หรือนำมาใช้เป็นส่วนผสมผลิตยาสมุนไพร ซึ่งเชื่อว่าช่วยรักษาอาการเมาค้างและอาการไข้ได้ ทั้งที่ในความจริงนอแรดมีองค์ประกอบเช่นเดียวกับเล็บของมนุษย์ และไม่มีผลการรับรองว่ามีคุณสมบัติทางยาแต่อย่างใด โดยล่าสุดมีความนิยมนำนอแรดมาแกะสลักทำเป็นเครื่องประดับ
ตัวลิ่น (Pagolin) เป็นสัตว์อีกสายพันธุ์ที่มีความต้องการสูงมากในจีนและเวียดนาม อีกทั้งยังถูกจัดให้เป็นสัตว์ที่มีการลักลอบซื้อขายมากที่สุดในโลกอีกด้วย
นกชนหิน (Helmeted Hornbill) เป็นหนึ่งในตระกูลนกเงือกหายากชนิดหนึ่ง จากจุดเด่นของจะงอยปากที่มีรูปร่างโค้งคล้ายหมวกกันน็อกและแข็งแรง ทำให้ถูกล่าเพื่อนำมาแกะสลักเป็นเครื่องประดับ ซึ่งตลาดใหญ่ที่รับซื้อนกชนหินก็คือประเทศจีน
เลียงผา (Serow) ก็เป็นสัตว์อีกประเภทที่นิยมลักลอบซื้อขายกัน เพื่อนำเนื้อไปบริโภค หรือชิ้นส่วนต่างๆ ไปผลิตยาสมุนไพร เป็นที่นิยมอย่างสูงในประเทศลาว
ขณะที่ เสือดาว (Leopard) ซึ่งครั้งหนึ่งสามารถพบเห็นได้ทั่วไปในพื้นป่าของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็กำลังเผชิญภัยคุกคามอย่างหนักจากการล่า เพื่อตอบสนองความต้องการหนังเสือดาวและกะโหลก
นอกจากนี้ เต่า (Turtle) นิยมซื้อขายทั้งในแบบมีชีวิตและในรูปแบบเครื่องประดับ รวมไปถึงเนื้อเต่าก็นิยมเสิร์ฟกันในร้านอาหาร
สัตว์ชนิดสุดท้ายที่มีการซื้อขายมากที่สุดคือ กระทิง (Gaur) ด้วยเขากระทิงที่มีความสวยงาม ทำให้มีความต้องการจากตลาดการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายอย่างมาก เพื่อนำมาใช้ตกแต่งบ้าน
Chrisgel Cruz ที่ปรึกษาทางเทคนิคด้านการค้าสัตว์ป่า ประจำ WWF ภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง กล่าวว่า “สัตว์ป่าจำนวนมากอยู่ในสถานภาพใกล้สูญพันธุ์ ปัจจัยหลักเกิดการจากค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ไม่เฉพาะแต่ในพื้นที่ลุ่มน้ำโขงเท่านั้น แต่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก พื้นที่ชายแดน เช่น สามเหลี่ยมทองคำ เป็นจุดที่มีการลักลอบค้าขายแพร่หลายมากที่สุด และเราต้องหาวิธีการหยุดยั้งความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นในอนาคตให้ได้”
10 อันดับสัตว์ป่าที่มีการลักลอบมากที่สุดในสามเหลี่ยมทองคำ
- เสือโคร่ง
- ช้าง
- หมี
- ตัวลิ่น
- แรด
- เลียงผา
- นกเงือก
- กระทิง
- เสือดาว
- เต่า