เมือง อู่ฮั่น ในภาคกลางของจีนถูกสั่งปิดธุรกิจบางแห่ง และระงับบริการขนส่งมวลชนบางส่วนในเขตเจียงเซี่ยเป็นเวลา 3 วัน ส่งผลประชากรเกือบ 1 ล้านคนถูกจำกัดการเดินทางและใช้ชีวิตประจำวัน หลังจากตรวจพบผู้ติดโควิดรายใหม่หลายราย
เมืองอู่ฮั่นได้รับการพูดถึงทั่วโลกในฐานะเมืองแรกของโลกที่ค้นพบว่ามีการแพร่ระบาดของโควิด และถูกล็อกดาวน์เพราะวิกฤตการณ์ดังกล่าวมาเมื่อต้นปี 2020 และล่าสุดอู่ฮั่นถูกล็อกดาวน์อีกครั้งเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคร้าย หลังจากที่มีรายงานเมื่อวานนี้ (26 กรกฎาคม) ว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ไม่แสดงอาการ จำนวน 4 ราย ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศทั้งหมดอยู่ที่ 604 ราย ลดลงจาก 868 ในวันก่อนหน้า (จันทร์ที่ 25 กรกฎาคม)
การล็อกดาวน์ครั้งนี้กระทบต่อชาวเมืองอู่ฮั่นราว 1 ล้านคน โดยต้องอยู่ภายในบ้าน และห้ามเดินทางไปที่อื่น ยกเว้นเฉพาะการออกจากบ้านที่จำเป็นเท่านั้น ขณะเดียวกัน การขนส่งสาธารณะทั้งหมดของเมืองถูกระงับ และสถานบันเทิงต่างๆ ถูกสั่งปิดเป็นเวลา 3 วัน
หน่วยงานรัฐของเขตเจียงเซี่ยเปิดเผยว่า ย่านใจกลางเมืองหลักต้องเผชิญมาตรการจำกัดการเดินทางและการทำกิจกรรมต่างๆ เป็นเวลา 3 วันนับตั้งแต่วันนี้ (27 กรกฎาคม) โดยห้ามจัดงานที่มีการรวมตัวกันของคนหมู่มาก และห้ามรับประทานอาหารภายในร้าน รวมถึงสั่งปิดธุรกิจมหรสพ ตลาดค้าพืชผลการเกษตร และคลินิกขนาดเล็ก ตลอดจนระงับบริการรถโดยสารและรถไฟฟ้าใต้ดิน
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า จีนทุ่มทุนอย่างมหาศาลในการดำเนินนโยบาย Zero-COVID โดยมุ่งเน้นไปที่การปูพรมตรวจหาเชื้อเป็นวงกว้าง การบังคับใช้มาตรการจำกัดกิจกรรมทางธุรกิจและการเดินทางของประชาชนอย่างรวดเร็ว รวมถึงการสั่งกักตัวผู้ติดเชื้ออย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้กลุ่มก้อนการติดเชื้อเล็กๆ ลุกลามบานปลายจนกลายเป็นการแพร่ระบาดในวงกว้าง
นโยบาย Zero-COVID ช่วยให้เมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นสถานที่แรกที่พบการแพร่ระบาดของโรคโควิด และพื้นที่อื่นๆ ในประเทศจีนสามารถควบคุมยอดผู้ติดเชื้อ แต่การบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดในช่วงที่มีการระบาดครั้งใหญ่ และความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการออกมาตรการควบคุมซ้ำอีกเมื่อตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่นั้น ได้บั่นทอนเศรษฐกิจของประเทศ ความเชื่อมั่นทางธุรกิจ และความต้องการเดินทางของประชาชน
สำนักข่าว Bloombreg รายงานเพิ่มว่า ศูนย์กลางภาคการผลิตทางตอนใต้ของเซินเจิ้นก็กำลังเป็นที่จับตามอง เนื่องจากมีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4 ราย และเมื่อนับรวมกับจำนวนผู้ติดเชื้อตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม จะเพิ่มเป็นมากกว่า 150 ราย จำนวนผู้ติดเชื้อจำนวนมากนี้ส่งผลให้บริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนบางแห่งดำเนินการภายในระบบ ‘Closed Loop’ เป็นเวลา 7 วัน ซึ่งนำไปสู่ความความกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
โดยหน่วยงานรัฐท้องถิ่นได้ขอให้บริษัทที่ใหญ่ที่สุด 100 แห่ง ซึ่งรวมถึงบริษัท Foxconn ผู้ผลิตชิ้นส่วน iPhone และบริษัท Cnooc ผู้ผลิตน้ำมัน จัดการด้านกระบวนการทำงานใหม่ โดยให้อนุญาตเฉพาะพนักงานที่ต้องทำงานภายในพื้นที่หรือพื้นที่ใกล้เคียงที่จำเป็นเท่านั้นให้สามารถมาทำงานได้ และขอให้งดการติดต่อกับผู้คนนอกโรงงานหรือสำนักงานใหญ่ อีกทั้งยังขอให้บริษัทต่างๆ ลดปฏิสัมพันธ์ที่ไม่จำเป็นระหว่างพนักงานที่ไม่ใช่ฝ่ายผลิตกับพื้นที่โรงงาน เพื่อลดการแพร่ระบาด
เจ้าหน้าที่ในเซินเจิ้นกล่าวเมื่อวันอังคารว่า การแพร่ระบาดอยู่ภายใต้การควบคุม โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่ถูกตรวจพบอย่างรวดเร็วและถูกแยกไปกักตัวในทันที แม้ว่าจะยังคาดว่าจะพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ รวมถึงการติดเชื้อจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วตำรวจเซินเจิ้นระบุว่า ได้เข้าจับกุมผู้ต้องสงสัยจำนวน 82 คน โดย 19 คนเป็นคนขับรถส่งของระหว่างเซินเจิ้นและฮ่องกง ฐานลักลอบขนสินค้า และฝ่าฝืนกฎหมายป้องกันการแพร่ระบาดในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
อ้างอิง:
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-07-27/wuhan-locks-down-1-million-residents-in-echo-of-pandemic-s-start?srnd=premium-asia#xj4y7vzkg&sref=CVqPBMVg
- https://www.reuters.com/world/china/chinas-wuhan-shuts-some-businesses-transport-amid-new-covid-cases-2022-07-27/
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP