คุณเชื่อเรื่องของการเดินทางข้ามเวลาไหมครับ?
เอาละ ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม มีคนที่บอกว่าตัวเขาเองเป็นนักเดินทางข้ามเวลา หรือ ‘Time Traveller’ และอ้างว่าเขาเดินทางมาจากโลกอนาคต (ไม่รู้ว่าปรากฏตัวออกมาทางลิ้นชักของโต๊ะเขียนหนังสือหรือเปล่า)
ที่สำคัญคือเขาคนนี้บอกว่า เขาล่วงรู้ผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ทุกนัด รวมถึงใครที่จะได้เป็นแชมป์ฟุตบอลโลกด้วย
นักเดินทางข้ามเวลาจากอนาคตผู้นี้ต้องการบอกเล่าเรื่องราวของผลการแข่งขันของโลกฟุตบอลในอนาคตให้เราทุกคนได้รับรู้เหมือนที่เขาได้ล่วงรู้มาก่อน โดยสิ่งที่เป็นหลักฐานสำหรับเขาก็คือคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่วงหน้าในอีก 3 สัปดาห์หลังจากนี้
ความพีคของเรื่องคือ ถึงแม้จะมีคนที่กล่าวอ้างว่าเป็นนักเดินทางข้ามเวลามาจากอนาคตเหมือนกันหลายคน แต่คนที่ใช้นามแฝงว่า ‘World Cup Time Traveller’ ที่บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอนาคตของศึกฟุตบอลโลกนั้นเป็นคนที่บอกเล่าเหตุการณ์ได้ตรงมากที่สุด
ก่อนหน้านี้เขาเคยสร้างชื่อเสียงจากการทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นในรายการฟุตบอลยูโร 2020 ซึ่งรวมถึงทายสกอร์ในคู่ชิงชนะเลิศและทีมแชมป์ว่าจะเป็นอิตาลี
เรียกว่าแม่นยำจนน่าขนลุก
ทีนี้อยากทราบไหมครับว่านักเดินทางข้ามเวลาคนนี้บอกว่าใครจะเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก?
เวลาที่คุณพี่ World Cup Time Traveller ทำนายอะไรนั้นเขาจะมีภาพประกอบด้วย ซึ่งสำหรับครั้งนี้สิ่งที่เกิดขึ้นในโลกอนาคตที่ถูกนำมาบอกเล่าในปัจจุบันก็คือ ภาพของการฉลองชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของแฟนฟุตบอลบราซิลที่ได้แชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 6
โดยข้อความในภาพนั้นบอกว่า “บราซิลเอาชนะฝรั่งเศสในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022”
ก่อนจะสำทับทุกคนอีกครั้งว่า “ผมคือนักเดินทางข้ามเวลา”
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกที่จะเชื่อกับเรื่องแบบนี้ อีกหลายคนวิเคราะห์ให้เห็นถึง ‘เทคนิค’ สำหรับคนที่อ้างว่าเป็นนักเดินทางข้ามเวลาว่าจริงๆ ก็แค่ทำนายอะไรไว้หลายๆ แบบ แล้วก็เลือกแบบที่ถูกที่สุดออกมาแค่นั้น
แต่สำหรับครั้งนี้เขาเลือกจะทำนาย (หรือความจริงก็คือบอกเล่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต) เอาไว้ล่วงหน้าร่วม 3 สัปดาห์ เรียกว่าออกตัวค่อนข้างแรงทีเดียว
แล้วบราซิลมีโอกาสจะไปถึงจุดนั้นไหม?
หลังจากที่ได้เห็นฟอร์มในเกมที่เอาชนะสวิตเซอร์แลนด์แล้วต้องยอมรับว่าบราซิลชุดนี้มีศักยภาพที่น่าเกรงขามจริงๆ
อาจจะไม่ได้ถึงขั้นเหนือโลกเหมือนนักเตะในชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2002 ซึ่ง 4 ในนั้นอย่าง ‘อิล เฟโนเมโน’ โรนัลโด, ริคาร์โด กาก้า และสองฟูลแบ็ก โรแบร์โต คาร์ลอส กับ คาฟู เดินทางมาชมเกมเมื่อคืนนี้ด้วย เพียงแต่ด้วยขุมกำลังเวลานี้บราซิลน่าจะเป็นหนึ่งในทีมที่แกร่งและน่าประทับใจที่สุดของการแข่งขัน
การขาดหัวใจของทีมอย่าง เนย์มาร์ ที่บาดเจ็บไปมีผลอยู่ไม่น้อยในแนวรุก เพราะถึงจะมี วินิซิอุส จูเนียร์, ราฟินญา หรือ ริชาร์ลิสัน แต่เจ้าชายลูกหนังแห่งบราซิลยังคงเป็นหัวใจของทีมเสมอ ด้วยพรสวรรค์การเล่นอันสูงส่งที่ทั้งสร้างสรรค์เกม และสังหารคู่แข่งด้วยสัญชาตญาณกองหน้า
จะเห็นได้ว่าตลอดทั้งเกมบราซิลต้องเหนื่อยหนักทีเดียวกว่าที่จะคว้าชัยชนะได้
แต่สิ่งที่ทีม ‘กานารินญา’ แสดงให้เห็นคือ ถึงจะไม่มีเนย์มาร์ องค์ประกอบโดยรวมของพวกเขาก็ดีพอจะล้มทีมที่ใช้ได้อย่างสวิตเซอร์แลนด์ลงได้
คีย์แมนอย่าง ‘วินิ’ เริ่มแสดงให้เห็นถึงความอันตรายในฐานะปีกซ้ายที่น่ากลัวที่สุดในโลกเวลานี้ ด้วยความเร็วที่เหมือนสายฟ้าฟาด ซึ่งกลายเป็นอาวุธสำคัญในการเจาะทะลวงเกมรับของสวิตเซอร์แลนด์ที่แน่นหนาให้พังทลาย
แต่คนที่เป็นฮีโร่ในเกมนี้คือ คาเซมิโร กองกลางที่เป็นมากกว่าฮาร์ดแมน เพราะนอกจากจะเป็นผู้ทำประตูได้ แล้วยังทำหน้าที่ทั้งในเกมรับและเกมรุกได้อย่างไร้ที่ติ
และเพราะมีเขาทำให้เกมรับของบราซิลจึงแทบไม่มีปัญหาในการรับมือกับเกมรุกของคู่แข่ง ถึงขั้นที่ตลอดทั้งเกมทีมจากแดนนาฬิกาไม่มีโอกาสยิงเข้ากรอบแม้แต่เกมเดียว
มองจากที่เห็นแล้วบราซิลดีไม่ได้แพ้ฝรั่งเศสหรือสเปน และหากรักษามาตรฐานการเล่นในระดับนี้เอาไว้ได้ ก็เป็นไปได้ที่อาจจะไปได้ไกลถึงสุดทาง
เอาเข้าจริงก็แอบคิดว่าพ่อนักเดินทางข้ามเวลาก็เพลย์เซฟอยู่เหมือนกันที่เลือกทีมเต็งหนึ่งอย่างบราซิลเป็นแชมป์โลก
เพราะมันมีโอกาสถูกมากกว่าผิดที่คำทำนายนี้จะกลายเป็นความจริง
ว่าแต่อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คุณเชื่อเรื่องของการเดินทางข้ามเวลาหรือยังครับ?
บันทึกเพิ่มเติม
- ประทับใจกับความใจสู้ของทีมอย่างแคเมอรูน เกาหลีใต้ รวมถึงกานา ที่สู้สุดหัวใจ
- ประทับใจเป็นพิเศษกับ โชคยูซอง เพชฌฆาตหน้าหยกของทีมแทกุกวอร์ริเออร์ส ที่โหม่งคนเดียว 2 ประตู การเป็นจ้าวเวหาสำหรับนักเตะเอเชียเป็นเรื่องที่ไกลเกินความคาดหมายมาก
- โปรตุเกสเป็นอีกทีมที่เริ่มได้สวยงาม และดูเหมือนข่าวฉาวของ คริสเตียโน โรนัลโด จะไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อทีม ดูจากที่หยอกล้อกับ บรูโน แฟร์นันด์ส แล้ว