ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม F นัดที่ 2 เป็นเกมระหว่างทีมชาติโครเอเชีย ที่เสมอกับโมร็อกโกในเกมแรก มาในชุดเก่งเสื้อขาวลายตารางหมากรุกสีแดง พบกับ ทีมชาติแคนาดา ที่นัดแรกพ่ายเบลเยียมแบบเกมเหนือกว่า มาในชุดสีดำ
เกมนี้โครเอเชียมาในระบบ 4-3-3 โดยที่ โดมินิก ลิวาโควิช เป็นผู้รักษาประตู กองหลัง 4 คน มี โจซิป จูราโนวิช, เดยัน ลอฟเรน, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, บอร์นา โซซา กองกลาง 3 ประสานมี ลูกา โมดริช, มาร์เซโล โบรโซวิช และ มาเตโอ โควาซิช แนวรุก 3 คนใช้ มาร์โก ลิวายา, อิวาน เปริซิช และ อังเดรจ์ คามาริช
ขณะที่แคนาดามาในระบบ 4-4-2 โดยที่ มิลาน บอร์ยาน เป็นผู้รักษาประตู แนวรับ 4 คน มี อลิสแตร์ จอห์นสตัน, สตีเวน วิตอเรีย, คามาล มิลเลอร์, ริชชี ลาร์เยีย กองกลาง 4 คนใช้ สตีเฟน ยุสตากิโอ, อัลฟอนโซ เดวีส์, อติบา ฮัตชินสัน และ ทาจอน บูชานัน หน้าคู่เป็น ไคล์ ลาริน กับ โจนาธาน เดวิด
เริ่มเกมได้แค่ 2 นาที เป็นแคนาดาออกนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากจังหวะโต้กลับ ก่อนที่ ทาจอน บูชานัน เปิดบอลให้ อัลฟอนโซ เดวีส์ โหม่งเข้าไป
นาทีที่ 7 แคนาดามีเสียว เมื่อลูกเปิดของ อังเดรจ์ คามาริช ไปแฉลบกองหลังเข้ามือของ มิลาน บอร์ยาน รับไว้ในจังหวะแรก แต่ก็ทำบอลหลุดมือ ทว่าสุดท้ายก็ตามมาคว้าบอลไว้ทัน
นาทีที่ 9 แคนาดาได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะแตะบอลให้ ไคล์ ลาริน ได้หลุดเดี่ยว บอลถูกเคลียร์ออกมาได้ และก่อนหน้านั้นก็เป็นลูกล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
นาทีที่ 22 เป็นทางโครแอเชียได้ลุ้นบ้าง เมื่อ มาเตโอ โควาซิช ไหลบอลให้ มาร์โก ลิวายา ได้จังหวะสุดท้ายโดยบอลแค่ถากๆ ทำให้ มิลาน บอร์ยาน เลยรับไว้ได้ไม่ยาก
นาทีที่ 26 โครเอเชียส่งบอลเข้าตาข่ายไปได้ จากจังหวะโต้กลับ ก่อนที่จังหวะสุดท้ายจะเป็น อังเดรจ์ คามาริช ยิงบอลเข้าไป ทว่าประตูดังกล่าวไม่นับเป็นสกอร์ หลังผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าไปตั้งแต่จังหวะแรกแล้ว
นาทีที่ 35 โครเอเชียได้ลุ้นอีกครั้ง หลัง มาเตโอ โควาซิช แทงบอลให้ มาร์โก ลิวายา ได้ยิง แต่ มิลาน บอร์ยาน ยังเซฟเอาไว้ได้
นาทีที่ 37 เป็นทางด้านโครเอเชีนตีเสมอจนได้ เมื่อ อิวาน เปริซิช ไหลบอลให้ อังเดรจ์ คามาริช หลุดไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนยิงสวนตัว มิลาน บอร์ยาน เข้าไปให้เกมเสมอกัน 1-1
ก่อนหมดครึ่งแรก นาทีที่ 44 เป็นทางด้านโครเอเชีย แซงนำ เมื่อ โจซิป จูราโนวิช แทงบอลทะลุช่องให้ มาร์โก ลิวายา ได้ลงแถวเส้นกรอบเขตโทษ ผ่านมือ มิลาน บอร์ยาน เข้าไป
นาทีที่ 45+2 โครเอเชียเกือบมาได้ประตูที่ 3 จากจังหวะฉกบอลโต้กลับของ อิวาน เปริซิช ก่อนจ่ายให้ อังเดรจ์ คามาริช ได้ยิง แต่บอลข้ามคานไป ทำให้จบครึ่งแรก โครเอเชียนำแคนาดาอยู่ 2-1
ครึ่งหลังนาทีที่ 49 แคนาดาได้โอกาสตีเสมอจากการยิงไกลของ โจนาธาน โอโซริโอ แต่บอลติดไซด์เฉียดเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น
นาทีที่ 54 โครเอเชียเกือบมาได้ประตูทิ้งห่าง 2 สกอร์ เมื่อ ลูกา โมดริช พาบอลขึ้นมาทางกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนหักเข้าในให้ อังเดรจ์ คามาริช ได้ยิงเน้นๆ แต่บอลยังไปติดเซฟ มิลาน บอร์ยาน เซฟเอาไว้ได้
นาทีที่ 56 แคนาดาน่าจะได้ประตูตีเสมอ จากการทำเกมขึ้นมาก่อนที่ โจนาธาน เดวิด จะได้ยิงหน้ากรอบเขตโทษ จังหวะสุดท้ายก่อนบอลจะฮุกเสียบใต้คาน โดมินิก ลิวาโควิช ยังกระโดดปัดบอลออกหลังไปได้
นาทีที่ 69 โครเอเชียทิ้งห่าง 3-1 เมื่อ อิวาน เปริซิช เปิดบอลเข้าในไปที่เสาไกลให้ อังเดรจ์ คามาริช เอาบอลลงก่อนตัดเข้าใน และยิงผ่านมือ มิลาน บอร์ยาน เข้าไป
นาทีที่ 72 โครเอเชียเกือบมาได้ประตูที่ 4 จากจังหวะบอลเปิดเข้ามาจากกราบขวาให้ อังเดรจ์ คามาริช พุ่งไปชาร์จ แต่โดนบอลเพียงถากๆ ทำให้บอลผ่านหน้าประตูไป
นาทีที่ 78 โครเอเชียมาได้โอกาสอีกครั้งจากการยิงของ อิวาน เปริซิช แต่บอลยังติดเซฟของ มิลาน บอร์ยาน เอาไว้ได้
นาทีต่อมาโครเอเชียยังได้โอกาสต่อเนื่อง หลัง มาร์เซโล โบรโซวิช ได้ยิงอีกครั้ง แต่ก็ยังเป็น มิลาน บอร์ยาน เจ้าเก่าที่เซฟเอาไว้ได้ นาทีที่ 90 โครเอเชียได้ลุ้นอีกครั้งจาก มิลาส ออร์ซิช แต่บอลก็เบาไปเข้ามือ มิลาน บอร์ยาน
นาทีที่ 90+3 แคนาดาน่าจะได้ประตูไล่มา เมื่อ จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์ ได้ยิงนอกกรอบเขตโทษ บอลหลุดกรอบไปนิดเดียวเท่านั้น
นาทีที่ 90+4 จากจังหวะความผิดพลาดของแคนาดา ทำให้โครเอเชียหลุดมาพร้อมกัน 2 คน ก่อนที่ มิลาส ออร์ซิช จะไหลใส่พานให้ ลอฟโร เมเจอร์ ยิงง่ายๆ เข้าไป ให้โครเอเชียทิ้งห่าง 4-1
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกมโครเอเชียทุบเอาชนะแคนาดา 4-1 เก็บเพิ่มเป็น 4 คะแนน พร้อมแซงขึ้นไปรั้งจ่าฝูงของกลุ่ม F โดยมี 4 คะแนนเท่ากับโมร็อกโก แต่ประตูได้เสียดีกว่า ส่วนแคนาดา เล่น 2 นัด ยังไม่มีคะแนน ตกรอบแน่นอนแล้ว
