×

เอ็น-เนเซ ซัดชัย! โมร็อกโก 10 คน พิชิตโปรตุเกส 1-0 สร้างสถิติเป็นทีมแรกจากแอฟริกาทะลุเข้ารอบรองฯ ศึกฟุตบอลโลก 2022

โดย THE STANDARD TEAM
11.12.2022
  • LOADING...
เอ็น-เนเซ

วันนี้ (10 ธันวาคม) ฟุตบอลโลก 2022 เป็นเกมการแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่อัลธูมามาสเตเดียม โดยโมร็อกโกมาในชุดสีแดง พบกับโปรตุเกสในชุดสีขาว

 

โดย 11 ผู้เล่นของโมร็อกโกมาในระบบ 4-3-3 ประกอบด้วย ยาสซีน บูนู (GK), อัชราฟ ฮาคิมิ, จาวาด เอล ยามิค, โรแม็ง ซาอิสส์, นูสแซร์ มาซราอุย, อัซเซดีน ฮูนาไฮ, ซอฟยาน อัมราบัต, เซลิม อมัลลาห์, ฮาคิม ซิเยค, โซฟิยาน บูฟาล และ ยูสเซฟ เอ็น-เนเซ

 

ส่วนโปรตุเกสมาในระบบ 4-3-3 ดิเอโก คอสตา (GK), ดิโอโก ดาโลต์, รูเบน ดิอาส, เปเป, ราฟาเอล เกร์เรโร, โอตาวิโอ, รูเบน เนเวส และ แบร์นาร์โด ซิลวา, บรูโน แฟร์นันด์ส, ชูเอา เฟลิกซ์ และ กอนซาโล รามอส

 

เริ่มเกมมาได้ 4 นาที โปรตุเกสได้ลุ้นทำประตูก่อนจากลูกโหม่งของ ชูเอา เฟลิกซ์ แต่ ยาสซีน บูนู ยังเซฟเอาไว้ได้

 

จากนั้น 2 นาที ยูสเซฟ เอ็น-เนเซ ได้ลุ้นขึ้นโขกทำประตูให้โมร็อกโกบ้าง แต่บอลก็เหินข้ามคานออกไป

 

นาทีที่ 30 ชูเอา เฟลิกซ์ ได้โอกาสยิงไกล แต่บอลไปแฉลบ จาวาด เอล ยามิค หลุดเสาออกไปนิดเดียว

 

นาทีที่ 34 จังหวะบุกต่อเนื่องของโมร็อกโก โซฟิยาน บูฟาล พาบอลขึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนได้ยิงไกล บอลยังไปเข้ามาของ ดิเอโก คอสตา

 

กระทั่งนาทีที่ 42 โมร็อกโกที่ทำเกมบุกจากฝั่งซ้าย ก่อนโยนบอลเข้ากลางประตูให้ ยูสเซฟ เอ็น-เนเซ ได้เทกตัวขึ้นโหม่งบอลตัดหน้า ดิเอโก คอสตา ส่งบอลไปซุกก้นตาข่าย ช่วยโมร็อกโกออกนำ 1-0

 

หลังจากนั้นทั้ง 2 ทีมพยายามเปิดหน้าแรกใส่กัน แต่ไม่มีสกอร์เพิ่มเติม จบครึ่งแรกเป็นโมร็อกโกออกนำโปรตุเกส 1-0

 

ครึ่งหลังเริ่มมาได้ 4 นาที โมร็อกโกเกือบมาได้ประตูที่ 2 จากลูกโหม่งของ จาวาด เอล ยามิค แต่ ดิเอโก คอสตา ยังชกออกไปได้

 

นาทีที่ 57 โปรตุเกสที่พยายามลุ้นทำประตูตีเสมอ เกือบได้ประตูจาก กอนซาโล รามอส แต่บอลหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

 

จากนั้นเป็นโปรตุเกสที่ขึงบอลบุกอย่างหนัก มีลุ้นประตูจาก บรูโน แฟร์นันด์ส นาทีที่ 63 แต่บอลหลุดคานไปนิดเดียวเท่านั้น

 

นาทีที่ 82 คริสเตียโน โรนัลโด แต่งบอลให้ ชูเอา เฟลิกซ์ ได้ซัดด้วยซ้ายเน้นๆ บอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเสาไกล แต่ ยาสซีน บูนู ยังโชว์ความยอดเยี่ยม บินเซฟไว้ได้หวุดหวิด

 

นาทีที่ 90+1 คริสเตียโน โรนัลโด รับบอลแทงทะลุช่องจากเพื่อนร่วมทีม ก่อนจะตวัดยิงด้วยขวา บอลไปเข้าซองของ ยาสซีน บูนู รับได้ไม่มีปัญหา

 

นาทีที่ 90+3 วาลิด เชดดิรา มาโดนใบเหลืองที่ 2 จากการทำฟาวล์ใส่ผู้เล่นของโปรตุเกส กลายโดนใบแดงไล่ออกจากสนามทันที

 

หลังจากนั้นโปรตุเกสเร่งเกมอย่างหนักหวังทวงประตูตีเสมอ แต่ไม่สามารถเจาะเกมรับของโมร็อกโกที่ลงไปแพ็กเกมรับอย่างแน่นหนาได้

 

จบเกมโมร็อกโกเอาชนะโปรตุเกสไปได้ 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ไปรอเจอผู้ชนะระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศส ซึ่งมีกำหนดแข่งขันในวันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม เวลา 02.00 น.

 

พร้อมสร้างสถิติกลายเป็นทีมแรกจากทวีปแอฟริกาที่สามารถทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ หรือรอบ 4 ทีมสุดท้ายในศึกฟุตบอลโลกได้สำเร็จ

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X