เกมฟุตบอลโลก 2022 ในรอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย กลุ่ม F ที่สนามอาห์หมัด บิน อาลี สเตเดียม เป็นเกมระหว่างโครเอเชีย ที่มี 4 คะแนนจาก 2 นัด ในเสื้อสีขาว มีลายตารางสีแดง พบกับเบลเยียม ที่มี 3 คะแนนจาก 2 นัด ในเสื้อสีแดง
โดยเกมนี้โครเอเชียมาในระบบ 4-3-3 โดยมี โดมินิก ลิวาโควิช เป็นผู้รักษาประตู กองหลัง 4 คน มี โจซิป จูราโนวิช, เดยัน ลอฟเรน, ยอสโก กวาร์ดิโอล, บอร์นา โซซา กองกลาง 3 คนใช้ ลูกา โมดริช, มาร์เซโล โบรโซวิช, มาเตโอ โควาซิช กองหน้า 3 ประสานเป็น มาร์โก ลิวายา, อิวาน เปริซิช, อังเดรจ์ คามาริช
ด้านเบลเยียมมาในระบบ 3-4-2-1 โดยที่ ติโบต์ กูร์ตัวส์ เป็นผู้รักษาประตู กองหลัง 3 คนมี โธมัส มูนิเยร์, โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์, แยน แฟร์ตองเกน กองกลาง 4 คนใช้ ทิโมธี คาสตานเย, เลอันเดอร์ เดนด็องเกอร์, อักเซล วิตเซล และ ยานนิค การ์ราสโก ตัวรุก 2 คนมี เควิน เดอ บรอยน์ กับ เลอันโดร ทรอสซาร์ โดยที่ ดรีส์ เมอร์เทนส์ เป็นกองหน้าตัวเป้า
เริ่มเกมได้แค่ 1 นาที โครเอเชียได้ทักทายก่อนจากการโยนยาวขึ้นมาให้อิวาน เปริซิช ได้ลองยิงก่อน แต่บอลหลุดกรอบออกหลังไป
นาทีที่ 11 เบลเยียมก็ได้ลุ้นจะแจ้งเป็นครั้งแรก เมื่อดรีส์ เมอร์เทนส์ หลุดขึ้นมาทางฝั่งขวาของเขตโทษ ก่อนไหลบอลข้ามฟากไปถึงยานนิค การ์ราสโก ที่บริเวณมุมกรอบ 6 หลาฝั่งซ้าย และได้ยิงจ่อๆ แต่บอลติดบล็อกออกหลังไป
นาทีที่ 13 เบลเยียมควรได้ประตูนำอย่างยิ่งจากจังหวะโต้กลับ เมื่อเควิน เดอ บรอยน์ ไหลบอลให้ดรีส์ เมอร์เทนส์ ได้ยิงบริเวณฝั่งซ้ายของหัวกะโหลกหน้ากรอบเขตโทษ แต่เท้าไปโดนใต้บอล บอลลอยข้ามคานไปแบบไม่ได้ลุ้น
นาทีที่ 15 โครเอเชียเกือบมาได้ลูกที่จุดโทษ จากจังหวะพยายามสกัดบอลของยานนิค การ์ราสโก แต่จังหวะสุดท้ายเหมือนไปย่ำใส่อังเดรจ์ คามาริช ก่อนผู้ตัดสิน แอนโทนีย์ เทย์เลอร์ จากอังกฤษ เป่าเป็นลูกที่จุดโทษในจังหวะแรก แต่มีสัญญาณจากห้อง VAR เรียกให้ไปดูภาพช้า ปรากฏว่าอังเดรจ์ คามาริช ล้ำหน้าไปก่อน ทำให้มีการเปลี่ยนคำตัดสินในที่สุด
หลังจากนั้นทั้ง 2 ทีมไม่ค่อยมีโอกาสที่จะแจ้ง จนนาทีที่ 33 โครเอเชียมาได้โอกาสจากการครอสบอลของบอร์นา โซซา ให้มาร์โก ลิวายา ได้โหม่ง แต่บอลก็ยังไม่ตรงกรอบ
นาทีที่ 42 เป็นเบลเยียมที่มาได้ลุ้นบ้าง เมื่อเลอันเดอร์ เดนด็องเกอร์ ผ่านบอลเข้าหน้ากรอบเขตโทษ ให้ดรีส์ เมอร์เทนส์ พยายามแต่บอลเปลี่ยนทาง โดนบอลบางไป ทำให้บอลหลุดเสาไกลออกหลังไป
นาทีที่ 45 โอกาสกลับมาเป็นของโครเอเชียอีกครั้ง เมื่อบอร์นา โซซา ลองยิงไกล แต่บอลก็ยังไม่ตรงกรอบและออกหลังไปอีกครั้ง
นาทีที่ 45+4 โครเอเชียมาได้โอกาสลุ้นปิดท้ายครึ่งแรกจากจังหวะการยิงของโจซิป จูราโนวิช ได้ลองยิงบริเวณฝั่งขวาของกรอบเขตโทษ แต่บอลก็หลุดกรอบออกไป ทำให้จบครึ่งแรก ทั้ง 2 ทีมเสมอกันก่อน 0-0
ครึ่งหลัง นาทีที่ 49 เบลเยียมได้ลุ้นก่อน เมื่อเควิน เดอ บรอยน์ โยนบอลไปที่เสาสองให้โรเมลู ลูกากู ที่ลงมาเป็นตัวสำรองได้โหม่ง แต่มุมเหลือน้อยเกินไปทำให้โดมินิก ลิวาโควิช รับไว้ได้ไม่ยาก
นาทีต่อมาเป็นโครเอเชียที่ได้โอกาสทองบ้าง เมื่อยอสโก กวาร์ดิโอล ไหลบอลให้มาเตโอ โควาซิช ได้ยิงเน้นๆ แต่ติโบต์ กูร์ตัวส์ ยังบินปัดออกไปได้
นาที 51 เป็นโครเอเชียยังได้ลุ้นต่อเนื่อง เมื่อบอร์นา โซซา ลองส่องไกลนอกกรอบเขตโทษอีกครั้ง แต่บอลก็ยังข้ามคานออกไปไกล
นาทีเดียวกัน เบลเยียมทำเกมขึ้นมา ก่อนที่เควิน เดอ บรอยน์ จะได้โอกาสส่องนอกเส้นเขตโทษไม่ไกล แต่บอลก็ยังข้ามคานออกหลังไป
นาทีที่ 54 โครเอเชียได้ลุ้นต่อเนื่อง 2 จังหวะ โดยในจังหวะแรกเป็นมาร์เซโล โบรโซวิช ได้ยิง แต่บอลก็ยังไปติดเซฟติโบต์ กูร์ตัวส์ ป้องกันไว้ได้ แต่หลังจากนั้นโครเอเชียได้ครองบอลต่อ ก่อนที่ลูกา โมดริช จะพาบอลเข้ากรอบเขตโทษทางขวามือ ก่อนเลี้ยงตัดเข้าในและได้ยิง แต่ก็ยังเป็นกูร์ตัวส์ที่ล้มตัวป้องกันไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
นาทีที่ 58 เป็นจังหวะของโครเอเชียอีกครั้ง เมื่อมาร์โก ลิวายา พยายามจะเปิดบอลเข้าใน แต่บอลย้อยจะเสียบใต้คาน ทว่าติโบต์ กูร์ตัวส์ ยังคว้าบอลเอาไว้ได้
นาทีที่ 60 เบลเยียมพลาดโอกาสขึ้นนำอย่างเหลือเชื่อแบบ 2 จังหวะซ้อนๆ โดยในจังหวะแรกเควิน เดอ บรอยน์ จ่ายให้ยานนิค การ์ราสโก เลี้ยงผ่าน 2 ตัวประกบไปดวลกับโดมินิก ลิวาโควิช แต่ยิงไปติดเซฟ บอลกระดอนออกมาถึงโรเมลู ลูกากู ได้ลุ้นจังหวะที่ 2 เมื่อได้ยิงหน้าปากประตูโล่งๆ แต่ยิงไปชนเสากระดอนออกมาอย่างเหลือเชื่อ
นาทีที่ 62 เบลเยียมมาพลาดโอกาสทองอีกครั้ง เมื่อเควิน เดอ บรอยน์ เลี้ยงบอลไปถึงเส้นหลังก่อนหักบอลเข้ามา บอลแฉลบศีรษะแนวรับโครเอเชียเล็กน้อย ก่อนไปถึงโรเมลู ลูกากู ได้โหม่งบอลหน้าปากประตูว่างๆ แต่โหม่งข้ามคานออกหลังไป อย่างไรก็ตาม จังหวะที่เดอ บรอยน์ หักบอลเข้ามาในจังหวะแรก บอลออกหลังไปก่อนแล้ว
นาทีที่ 68 โครเอเชียได้ลุ้นขึ้นบ้าง เมื่อบรูโน เพ็ตโควิช ยกบอลจากฝั่งขวาไปบริเวณหัวกะโหลก ให้ลูกา โมดริช ที่เติมขึ้นมาพาบอลไปบริเวณจุดโทษ ก่อนตัดสินใจยิง แต่บอลยังติดเซฟของติโบต์ กูร์ตัวส์ รับไว้ได้
นาทีที่ 69 คราวนี้เป็นโอกาสของเบลเยียมบ้าง จากเควิน เดอ บรอยน์ ได้ลองยิงโดยตรง แต่บอลก็ยังไปติดเซฟของโดมินิก ลิวาโควิช รับไว้ได้ไม่ยาก
นาที 87 เบลเยียมพลาดโอกาสทองในการขึ้นนำอีกครั้งเมื่อโธมัส มูนิเยร์ ได้โอกาสกึ่งยิงกึ่งผ่านเข้าไปหน้าปากประตู แต่โรเมลู ลูกากู แหย่เท้าจิ้มบอลได้สำเร็จ แต่ทว่าบอลหลุดกรอบออกหลังไปอย่างน่าเหลือเชื่อ
เวลาที่เหลือ แม้เบลเยียมจะโหมบุกหนัก แต่ก็ไม่มีโอกาสที่จะแจ้ง ทำให้จบเกมโครเอเชียเสมอเบลเยียม 0-0 เก็บเพิ่ม 1 คะแนน เป็น 5 คะแนน เข้ารอบเป็นที่ 2 ของกลุ่ม F ส่วนเบลเยียมมีเพิ่มเป็น 4 คะแนน จบที่ 3 ในกลุ่มนี้ ตกรอบฟุตบอลโลกเป็นที่เรียบร้อย