ธนาคารโลกเตือนว่า เศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้ามีแนวโน้มเผชิญกับความมืดมน เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มขึ้น เช่น ความไม่แน่นอนจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน การปฏิรูปเศรษฐกิจของจีน และปัญหา Brexit ในยุโรป
ในรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจประจำปีของเวิลด์แบงก์ระบุว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเติบโตชะลอตัวลงเหลือ 2.9% ในปี 2019 จากระดับ 3% ในปี 2018 และอาจโตช้าลงเหลือ 2.8% ในปี 2020
รายงานระบุด้วยว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะเริ่มชะลอตัวลง หลังมาตรการปรับลดภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เริ่มคลายมนต์ขลัง ขณะที่เวิลด์แบงก์คาดว่าอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐฯ จะลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง เหลือโตเพียง 1.6% ในปี 2021 เมื่อเทียบกับ 2.9% ในปี 2018
ธนาคารโลกยังคาดว่า เศรษฐกิจจีนจะเติบโตที่ระดับ 6% ในปี 2021 ซึ่งยังถือเป็นอัตราการขยายตัวที่แข็งแกร่ง แม้ว่าเศรษฐกิจจีนจะเคยเติบโตในอัตราเฉลี่ยถึง 10% ในช่วงระหว่างปี 1980-2010 ก็ตาม
ฟรานซิสกา โอห์นซอร์จ นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลกแสดงความเห็นกับ BBC ว่า จีนมีการปรับเปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจโดยต้องการชะลอความร้อนแรงลง เพื่อส่งเสริมการเติบโตในระยะยาวอย่างยั่งยืนยิ่งขึ้น ซึ่งนี่อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวมในช่วงหลายปีข้างหน้า
นอกจากนี้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนก็ยังเป็นความเสี่ยงที่ใหญ่หลวงอยู่ รวมถึงปัญหาความไม่แน่นอนของกระบวนการ Brexit ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจตลอดช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: