สภากรีฑาโลก (World Athletics Council) ร่วมกันโหวตไม่ให้นักกีฬาข้ามเพศที่ผ่านความเป็นเพศชายในช่วงวัยแรกรุ่น ลงแข่งขันรายการประเภทหญิงระดับนานาชาติ โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคมเป็นต้นไป และให้เหตุผลว่าเพื่อปกป้องอนาคตของกรีฑาประเภทหญิง
โดย ลอร์ด เซบาสเตียน โค ประธานกรีฑาโลก ยอมรับว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะกลายเป็นข้อถกเถียงในวงกว้าง แต่เขาเชื่อว่าการตัดสินใจนี้เกิดขึ้นจากการยึดมั่นในหลักการของความยุติธรรมในการแข่งขัน เช่นเดียวกับหลักการทางวิทยาศาสตร์กีฬาและ ความได้เปรียบของผู้ชาย
“การตัดสินใจเป็นเรื่องที่ยากเมื่อมีความต้องการและสิทธิของหลายกลุ่มเกี่ยวข้อง แต่เราต้องเดินหน้ามองในมุมที่รักษาความยุติธรรมสำหรับนักกีฬาหญิงเหนือสิ่งอื่นใด” โคกล่าวหลังการตัดสินใจของกรีฑาโลก
อย่างไรก็ตาม โคเปิดเผยว่าเขาจะจัดตั้งทีมร่วมทำงานกับนักกีฬาข้ามเพศ และศึกษาข้อมูลจากงานวิจัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับยืนยันว่าการตัดสินใจครั้งนี้ “เราจะไม่ห้ามตลอดไป”
โดยนับตั้งแต่การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ที่โตเกียว สหพันธ์กีฬาต่างๆ ได้เปิดรับให้นักกีฬาข้ามเพศเข้าร่วมแข่งขัน แต่ต้องเป็นนักกีฬาที่มีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในเลือดน้อยกว่า 5 นาโนโมลต่อลิตร เป็นเวลา 12 เดือน
โดยทางกรีฑาโลกยังได้แถลงว่า นักกีฬาข้ามเพศจะถูกห้ามไม่ให้ลงแข่งขันประเภทหญิง นอกจากจะมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในเลือดน้อยกว่า 2.5 นาโนโมลต่อลิตร เป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน
แต่จากผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาระบุว่า นักกีฬาหญิงข้ามเพศมีความได้เปรียบในด้านความแข็งแกร่ง พลัง และปอดที่มีขนาดใหญ่กว่า แม้ว่าระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนจะถูกจำกัดเป็นเวลา 24 เดือนแล้ว
“เราเข้าสู่ขั้นตอนการปรึกษาหารือกันเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว เพราะเราต้องถกเถียงกัน นี่เป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องได้มุมมองจากทุกฝ่าย รวมถึงตัวนักกีฬา โค้ช และสมาชิกของกรีฑาโลก” โคกล่าว
สำหรับกรีฑาโลก เป็นอีกหนึ่งสหพันธ์กีฬาที่ตัดสินใจห้ามนักกีฬาข้ามเพศลงแข่งขันในประเภทหญิงต่อจากรักบี้โลก (World Rugby) เมื่อปี 2020 สหพันธ์ว่ายน้ำ และสหพันธ์รักบี้ลีก
การตัดสินใจของกรีฑาโลกเชื่อว่าจะพบกับแรงต่อต้านจากกลุ่ม LGBTQIA+ หนึ่งในนั้นคือกลุ่ม Stonewall ที่เดือนที่แล้วออกมาเรียกร้องให้กีฬาชนิดต่างๆ เปิดรับกลุ่มที่มีความหลากหลายมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“กลุ่มคนข้ามเพศอาจจะเป็นกลุ่มที่เล็ก แต่พวกเขามีสิทธิทุกอย่างที่จะแข่งขันในกีฬา และสนุกไปกับการแข่งขันทั้งร่างกาย จิตใจ และชุมชนของกีฬา
“หลักฐานทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับกลุ่มคนข้ามเพศในกีฬาตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการพิสูจน์ที่อยู่ห่างไกลจากข้อสรุปมาก”
แต่ในขณะเดียวกันการตัดสินใจครั้งนี้ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากกลุ่ม Fair Play for Women ที่ออกมาแสดงจุดยืนว่า
“นี่เป็นสิ่งที่ถูกต้องสำหรับผู้หญิง ที่ตรงกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และหลักการทั่วไป เราคาดหวังให้สหพันธ์ระดับชาติดำเนินการตามกรีฑาโลก เพื่อรักษาหนทางสำหรับนักกีฬาหญิง และเพื่อให้กีฬาหญิงมีความยุติธรรมในทุกระดับของการแข่งขัน”
อ้างอิง:
