กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เตือนนายจ้างให้ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน โดยให้ลูกจ้างหยุดปฏิบัติงานเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ 1 พฤษภาคมนี้ หากฝ่าฝืนจะมีความผิด
นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า วันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปีเป็นวันแรงงานแห่งชาติ ทั้งนี้เพื่อให้สังคมได้ตระหนักถึงความสำคัญของผู้ใช้แรงงานและให้ผู้ใช้แรงงานได้ร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสวันแรงงานแห่งชาติ นอกจากนี้พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ได้กำหนดให้นายจ้างประกาศกำหนดวันหยุดตามประเพณีให้ลูกจ้างทราบเป็นการล่วงหน้าปีหนึ่งไม่น้อยกว่า 13 วัน โดยรวมวันแรงงานแห่งชาติด้วย และให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างในวันหยุดตามประเพณีดังกล่าวเท่ากับค่าจ้างในวันทำงานปกติ
กสร. จึงขอให้นายจ้างปฏิบัติตามกฎหมาย โดยจัดให้ลูกจ้างได้หยุดงานในวันแรงงานแห่งชาติและจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้าง สำหรับนายจ้างที่ไม่อาจให้ลูกจ้างหยุดงานได้ เนื่องจากลูกจ้างทำงานที่มีลักษณะหรือสภาพของงานตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่ งานในกิจการโรงแรม สถานมหรสพ ร้านขายอาหาร ร้านขายเครื่องดื่ม สโมสร สมาคม สถานพยาบาล สถานบริการท่องเที่ยว งานในป่า งานในที่ทุรกันดาร งานขนส่ง และงานที่มีลักษณะหรือสภาพของงานต้องทำติดต่อกันไปถ้าหยุดจะเสียหายกับงาน ให้นายจ้างตกลงกับลูกจ้างว่าจะให้หยุดชดเชยในวันอื่นแทนหรือจะจ่ายค่าทำงานในวันหยุดให้กับลูกจ้าง กรณีที่ตกลงกันว่าจะจ่ายค่าทำงานในวันหยุดนั้น นายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 1 เท่าของค่าจ้างในวันทำงานปกติ สำหรับลูกจ้างที่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด และจ่ายเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 2 เท่าของค่าจ้างในวันทำงานปกติ สำหรับลูกจ้างที่ไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด และหากมีการทำงานล่วงเวลา นายจ้างจะต้องจ่ายค่าล่วงเวลาในอัตราไม่น้อยกว่า 3 เท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามชั่วโมงที่ให้ลูกจ้างทำ
อธิบดี กสร. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับนายจ้างที่ไม่ปฏิบัติให้ถูกต้อง จะมีความผิดตามกฎหมายโดยมีอัตราโทษสูงสุดคือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากลูกจ้างนายจ้างมีข้อสงสัย สามารถสอบถามได้ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 ถึง 10 สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด หรือที่โทรศัพท์สายด่วน 1506 กด 3