วันนี้ (14 มีนาคม) การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมก่อนการประกาศยุบสภา ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในต้นสัปดาห์หน้า ท่ามกลางปมร้อนที่ อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (รมช.คมนาคม) ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เสนอการอนุมัติผลการคัดเลือกเอกชนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่มีบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จํากัด (มหาชน) หรือ BEM เป็นผู้ได้รับการคัดเลือก เข้าที่ประชุม โดยกำหนดให้เป็นวาระจร เรื่องที่ไม่ได้บรรจุไว้ในระเบียบวาระแต่นำเข้ามาพิจารณาเป็นพิเศษในการประชุม
พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวภายหลังการประชุมถึงเรื่องดังกล่าวว่า ที่ประชุม ครม. ไม่มีการพิจารณาในเรื่องนี้
ขณะที่ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีนี้ว่า วาระดังกล่าวไม่ผ่านการพิจารณาเนื่องจาก อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เป็นผู้ยื่นเสนอเรื่องเป็นวาระจร และเป็นผู้ถอนเรื่องออกไปจากวาระการพิจารณาด้วยตนเอง ซึ่งเรื่องไหนที่จะนำเข้าสู่วาระการประชุม ครม. เจ้าของกระทรวงจะต้องเป็นคนพิจารณา และครั้งนี้คงพิจารณาแล้วว่ายังไม่สมควรนำเข้าที่ประชุมจึงได้ถอนเรื่องออกไป
โดยอธิรัฐได้ถอนเรื่องดังกล่าวออกไปหลังจากมีการรับฟังเหตุผลจากทางส่วนราชการและ ครม. ซึ่งอธิรัฐคงใช้วิจารณญาณในการถอนเรื่องออกไป
อนุทินกล่าวอีกว่า การจะเสนอเข้าที่ประชุม ครม. นั้นต้องแล้วแต่กระทรวงคมนาคม ซึ่งตอนนี้มีรักษาการดำเนินการอยู่ ถ้ารัฐมนตรีไม่อยู่ กระทรวงใดที่มีรัฐมนตรีช่วยก็รักษาการ ซึ่งกระทรวงคมนาคมมีอธิรัฐรักษาการอยู่ แต่ถ้ารัฐมนตรีช่วยว่าการเกิดไปต่างประเทศ ป่วย ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ค่อยเอากำกับดูแลมาที่ตน
“ไม่ใช่ไปเขียนว่าพรรคพลังประชารัฐ ภูมิใจไทย แย่งกระทรวงคมนาคม กระทรวงคมนาคมยังอยู่ในการดูแลของพรรคภูมิใจไทย” อนุทินกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าถ้ารักษาการมีการเสนอมา อนุทินกล่าวว่า ไม่สามารถเสนอได้แล้ว รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าเป็นเรื่องที่ยังไม่ได้ผูกพันงบประมาณ ถ้ายังไม่บรรจุก็ต้องรอรัฐบาลใหม่ ถ้าสัปดาห์หน้าไม่เข้า ครม. ก็ไม่ต้องเข้าแล้ว หรือถ้าสัปดาห์หน้ามีการยุบสภาก่อน เรื่องนี้ก็ถือว่ากระบวนการประมูลยังอยู่ แต่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลใหม่ แต่เรื่องนี้ยังห่างจากการลงนามหลายขั้นตอน เพราะต้องให้ ครม. พิจารณา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าที่ ครม. ไม่พิจารณาในวันนี้เพราะ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาแฉเรื่องการประมูลหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ไม่เกี่ยวเลย ส่วนใหญ่ฟังดูมีความกังวลข้อกฎหมายในเรื่องคดีที่ค้างคาอยู่ บางคดีตัดสินไปแล้วแต่ยังมีการอุทธรณ์ ซึ่งยังไม่มีคำพิพากษาลงมา เป็นความกังวลของรัฐมนตรีหลายท่าน
“ผมว่าสิ่งที่ทำให้รัฐมนตรีหลายท่านเกิดความวิตกกังวล ท่าน รมช.คมนาคม ถอนเรื่องออกไป เพราะความเห็นของส่วนราชการมากกว่า ทั้งคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง ให้ความเห็นว่าควรจะมีคำพิพากษาทุกอย่างให้ชัดเจนก่อน พอเริ่มประโยคแรกก็คาดเดาได้แล้ว เราไม่เชื่อคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วเราจะเชื่อใคร”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าพ้นระยะเวลายื่นราคาเสนอแล้วเอกชนไม่ยื่นราคา จะต้องมีการประมูลใหม่หรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ต้องประมูลใหม่ ถ้าพ้นแล้วไม่มีการยื่นราคาต่อไป เพราะปกติเวลายื่นราคาแล้วกระบวนการยังไม่เสร็จ หน่วยงานมีสิทธิทำหนังสือไปขอผู้เข้าการประกวดราคาขยายเวลาการยื่นราคาออกไป 3 เดือน 6 เดือน หรือ 9 เดือน ถ้าขยายก็เดินต่อได้ ถ้าไม่ขยายก็มารับหลักประกันคืนเท่านั้นเอง อย่าไปซีเรียส ไม่จบในรัฐบาลนี้ก็ต้องจบในรัฐบาลหน้า
“สายสีส้มมี 2 ตอน ตะวันออกสร้างเรียบร้อยมาครึ่งหนึ่งแล้ว สายตะวันตกยังไงก็ต้องสร้าง ถ้า ครม. ชุดนี้พิจารณาไม่ทันก็อยู่ที่ ครม. ชุดต่อไป จะดำเนินการต่อหรือล้มประมูลแล้วประมูลใหม่นั้นเป็นเรื่องอนาคต ไม่เกี่ยวกับ ครม. ชุดนี้แล้ว” อนุทินกล่าว
ขณะที่ สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการพิจารณาวาระรถไฟฟ้าสายสีส้มในการประชุม ครม. วันนี้ว่า ที่ประชุมมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง แต่ พล.อ. ประยุทธ์ ได้ตัดสินใจเอาวาระดังกล่าวถอนออกไป โดยให้เหตุผลว่ายังมีโอกาสที่จะต้องพิจารณาและอนุมัติได้ ทั้งนี้ ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนที่แสดงความคิดเห็นและขอให้บันทึกการประชุมว่าไม่เห็นชอบที่จะนำเรื่องนี้เข้ามาพิจารณา
สาธิตกล่าวต่อไปว่า สำหรับตนเองนั้นมีความชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่เห็นด้วย เมื่อผลออกมาเป็นเช่นนี้ก็รู้สึกสบายใจที่นายกฯ ตัดสินใจในสิ่งที่จะต้องตอบคำถามกับสังคมได้ พร้อมมองว่าช่วงเวลาเป็นสิ่งที่สำคัญมาก จะกล่าวอ้างว่าเป็นผลประโยชน์ของประชาชนโดยที่กระทรวงคมนาคมถ้ามีการพิจารณาออกไปอาจสร้างความเสียหายแก่ประชาชนได้ ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาประชาชนเสียหายไปเท่าไร การพิจารณาเรื่องนี้จึงมีความจำเป็นต้องรอบคอบ มีเหตุผล และมีความเสี่ยง เพราะศาลปกครองยังพิจารณาเรื่องนี้อยู่ ยังต้องรอความชัดเจนพอสมควร
สำหรับรายชื่อรัฐมนตรีที่เสนอให้ถอนวาระนี้ออกไปก่อน เช่น สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ขณะที่ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อ ครม. ยังมีความเห็นที่แตกต่างกันอยู่ และหลายฝ่ายเห็นว่าควรรอคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุดที่ใกล้จะตัดสินแล้ว โดยที่อธิรัฐไม่ได้เสนอวาระจร แต่เป็นเรื่องจร เพราะเรื่องเพิ่งเสนอเข้ามากว่าจะขอความเห็นจากหน่วยงานต่างๆ ได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าเรื่องดังกล่าวจะกลับมาเสนอทันในรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ วิษณุระบุว่า ยากที่จะเสนอมาในรัฐบาลนี้ เพราะหาก ครม. ไม่ได้อนุมัติไว้แล้วจะติดเงื่อนไขรัฐธรรมนูญมาตรา 169 (1) ส่วนทั้งรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีส้มจะไม่ทันในรัฐบาลชุดนี้ใช่หรือไม่ วิษณุกล่าวยอมรับว่า ใช่
วิษณุยังกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงสลับตัวรัฐมนตรีรักษาการ กรณีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไม่อยู่ว่า ไม่มี มีเพียงกรณี อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมไม่อยู่ ซึ่งกระทรวงคมนาคมเหลืออธิรัฐอยู่คนเดียว หากไม่อยู่ให้ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไปรักษาการแทน นอกนั้นไม่ได้เปลี่ยนอะไร
