วันนี้ (11 มิถุนายน) วิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ยังมีข้อกังวลอะไรหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถูกผู้สมัครร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญว่า ควรกังวลแต่ยังไม่ถึงเวลาจะกังวล เพราะเพิ่งผ่านการเลือกในระดับอำเภอ แต่เมื่อถึงในระดับจังหวัดและระดับประเทศก็จะน่ากังวลกว่า อย่างที่ใครๆ รู้ว่ายังมีความเข้าใจผิด และเข้าใจคลาดเคลื่อนในฝ่ายประชาชน อย่างกรณีที่อาจมีการไปทำข้อตกลง หรือนัดแนะอะไรกันขึ้นมา ทำให้มีปัญหาแต่ถือว่าเป็นปัญหาเฉพาะราย ซึ่งให้รางวัลนำจับเป็นหลักล้าน และมองว่าเป็นแรงจูงใจได้ดีพอสมควร
วิษณุยังระบุอีกว่า การเลือกในระดับอำเภอก็เห็นว่ามีปัญหาอยู่แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ กกต. จึงออกประกาศว่าการเลือก สว. เป็นไปด้วยความราบรื่น ซึ่งเราก็คาดการณ์อยู่แล้วว่าเป็นไปด้วยความราบรื่น เนื่องจากแต่ละอำเภอมีผู้สมัครน้อย แต่พอไปถึงระดับจังหวัดจะมีจำนวนผู้สมัครมากขึ้น และหากไปถึงระดับประเทศ บางจังหวัดอาจไม่มี สว. เลยก็ได้
เมื่อถามว่าหากดูจากสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น วันที่ 2 กรกฎาคมนี้จะได้ สว. หรือไม่ วิษณุกล่าวว่า ตนตอบไม่ถูก แต่เดาและหวังว่าน่าจะได้ เนื่องจากมีสำรองอีกกว่า 100 คน และหากผิดถูกก็ไปสอยออกทีหลังได้
ส่วนหากกระบวนการเลือก สว. ถูกล้มไปจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อการเมืองหรือไม่ วิษณุย้อนกลับทันทีว่า คุณเป็นคนสมมติขึ้นมา แต่หากล้มจริงอย่างที่คุณสมมติจึงกระทบรุนแรง แต่ตนไม่คิดว่าจะมีผลกระทบรุนแรงขนาดนั้น และที่ สมชาย แสวงการ ออกมาให้ความเห็น ว่าการเลือก สว. ครั้งนี้อย่างไรก็เป็นโมฆะ ขอให้ไปถามสมชาย มาถามตนทำไม
วิษณุกล่าวด้วยว่า หากยังไม่ได้ สว. ใหม่ทุกอย่างก็เหมือนเดิม ยกเว้นการเลือกนายกรัฐมนตรี รวมไปถึงมาตราที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายปฏิรูป ที่มีการระบุไว้ว่ามีอำนาจเฉพาะภายใน 5 ปี ส่วนมาตรา 109 ที่ระบุไว้ว่า ถ้ายังไม่มี สว. ชุดใหม่ ให้ สว. รักษาการยังคงปฏิบัติหน้าที่ ยืนยันว่าการปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้รวมถึงอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรี
รับแค่ช่วยตรวจทานเอกสารคำชี้แจง
วิษณุยังกล่าวถึงคำชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า ตนได้ดูด้วยซึ่งมีหลายขั้นตอน และไม่ใช่ผู้ร่างคำชี้แจงแต่มีทีมกฎหมายนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ยกร่าง ส่วนตนเป็นผู้ตรวจเอกสาร ถ้าพบว่ามีอะไรที่ต้องปรับปรุงก็ต้องปรับปรุง บางทีก็ยอมเขา บางทีเขาก็ยอมตน ส่วนเอกสารจะสมบูรณ์หรือไม่ไม่รู้ เพราะทำได้แค่นั้น
ส่วนศาลจะขอเอกสารชี้แจงเพิ่มเติมหรือไม่แล้วแต่ศาล เพราะศาลสามารถขอเอกสารเพิ่มเติมได้ โดยคำชี้แจงที่ส่งให้กับศาลมีทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งทำตามขั้นตอนที่เคยทำกับรัฐมนตรี 100 คนในอดีตอย่างไรก็ทำแบบนั้น แต่ยอมรับว่ารอบนี้เข้มงวดเป็นพิเศษ พร้อมย้ำว่ายังเปิดเผยอะไรไม่ได้ในส่วนที่มีข้อมูลใหม่หรือข้อกฎหมายที่ปรากฏตามสื่อ
วิษณุกล่าวว่า ร่างคำชี้แจงหน่วยงานด้านกฎหมายเป็นคนทำ นายกรัฐมนตรีไม่ได้ทำด้วยซ้ำไป ก็เอามาดูกัน ถ้าเห็นว่าซับซ้อนวกวนก็ปรับปรุงแก้ไข ตัดออกบ้าง โดยคำชี้แจงของหน่วยงานราชการและนายกรัฐมนตรีรวมเป็นฉบับเดียว ซึ่งเอกสารมีจำนวนเยอะมากจนตอบไม่ถูก