วันนี้ (5 กันยายน) ที่อาคารรัฐสภา วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่กรมพลาธิการทหารบกและกองทัพบกชี้แจงภายหลังการอภิปรายเรื่องถาดหลุมรับประทานอาหารของพลทหาร
วิโรจน์ระบุว่า ส่วนแตกต่างที่สำคัญที่สุดจากการชี้แจงของกองทัพคือความยาวที่ต่างกันของยี่ห้อหัวม้าลายและนกนางนวล 3 เซนติเมตร แต่หากกรมพลาธิการทหารบกดูตามความคิดเห็นในสื่อโซเชียลมีเดีย จะเห็นว่ามีคำถามเกิดขึ้นว่าจะให้ใหญ่ไปทำไม
“เพราะอาหารในหลุมก็มีน้อยเหมือนกับของไหว้สัมภเวสี บางครั้งของไหว้เหล่านั้นยังจะดูเยอะกว่าอาหารของนายทหาร หรือจะเน้นก็แต่ข้าวที่พูนถาดหลุม” วิโรจน์กล่าว
สำหรับราคาที่กรมพลาธิการทหารบกออกมาชี้แจงว่าใกล้เคียงกับทั้งสองยี่ห้อในราคาหน่วยละ 500 บาทนั้น หากค้นหาจากเว็บไซต์ทั่วไปก็จะอยู่ที่ประมาณ 300-400 บาท ซึ่งนั่นคือราคาต่อ 1 ใบ กรณีของกองทัพบกมีการสั่งผลิตจำนวนมากถึง 10,000 ใบ แต่กองทัพก็อาจจะอ้างได้ว่านี่เป็นการผลิตจึงต้องมีการขึ้นมวลใหม่ คำถามคือจะต้องผลิตใหม่เพื่ออะไรทั้งที่ในท้องตลาดมีอยู่ แค่สั้นกว่า 3 เซนติเมตร และบางอยู่กว่า 0.3 มิลลิเมตร หากจะบอกว่าของกองทัพถูกผลิตในลักษณะที่ขอบถาดโค้ง แต่ของทั้งสองยี่ห้อก็มีขอบมนใช้ในโรงเรียนอยู่แล้ว
วิโรจน์ตั้งคำถามถึงการนำไปใช้ในปฏิบัติการนอกฐานที่มั่นต้องมีความคงทนเป็นพิเศษว่า จะนำไปเป็นโล่กันกระสุนหรืออย่างไร หรือขว้างไปและเป็นบูมเมอแรงกลับมาได้เหมือนโล่กัปตันอเมริกา ย้ำว่ากรมพลาธิการทหารบกต้องยอมรับว่าประชาชนก็มีการตรวจสอบทีโออาร์ และรู้ว่าสเปกที่กำหนดแปลกๆ หวังจะดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างแบบเฉพาะเจาะจง
วิโรจน์ยังพูดถึงราคาของถาดหลุมหลัก 10,000 ใบ ซึ่งแพงกว่าซื้อ 1 ใบนั้น ในอินเทอร์เน็ตก็มีคนแย้งว่า ขายของกับกองทัพต้องมีเวลาวางบิล 90 วัน ซึ่งก็ถือว่านานกว่าจะได้เงินกลับมา แต่ไม่คิดว่าอัตราดอกเบี้ยที่จะเพิ่มจากการเสียโอกาสไปก็ไม่น่าจะแพงหรือบวกเยอะขนาดนี้
“อยากให้ไปดูคอมเมนต์ในโซเชียลว่าต้องมีฟังก์ชันอย่างนั้นอย่างนี้ แต่คำถามที่ถูกตั้งกลับมาคือ 6 หลุมใส่ครบหรือไม่ จะใส่ครบก็ต่อเมื่อมีผู้หลักผู้ใหญ่ ข้าราชการระดับสูง รัฐมนตรีว่าการ รัฐมนตรีช่วยว่าการ มาเยี่ยมค่ายทหาร แต่ในวันปกติที่อยู่ในค่ายก็ไม่ได้อยากมารวมทั้งหมดทุกเหล่าทัพ หลายค่ายก็ถูกร้องเรียนว่ากับข้าวมีนิดเดียว บางทีหลุมซ้ายก็ใส่ส้อม หลุมขวาก็ใส่ช้อน จึงคิดว่างบประมาณนี้ควรปรับลดลง เปลี่ยนให้กับค่าอาหารของข้าราชการทหารจะดีกว่าหรือไม่” วิโรจน์ระบุ
วิโรจน์กล่าวถึงความสำคัญของการอภิปรายเรื่องนี้ว่าเป็นแค่จุดเริ่มต้น อยากให้ไปค้นหาผู้ชนะการประมูล จะเจอกระเทียม เนื้อโค ที่ซื้อหลักหมื่นกิโลกรัม แต่แพงกว่าราคาท้องตลาด นอกจากนี้ยังมีเสื้อยืด กางเกง มุ้งหมอน ตู้ เตียง ผ้าขาวม้าด้วย
วิโรจน์เปิดเผยอีกว่า สิ่งที่ได้ยินมาคือขุมทรัพย์และแดนสนธยาของกองทัพที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่การจัดซื้อยุทโธปกรณ์ เพราะสิ่งเหล่านี้จะมีสัญญาซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) ที่ห้ามมีการเสนอผลประโยชน์หรือเงินใต้โต๊ะ ซึ่งจะมีข้อจำกัดในการคอร์รัปชัน แต่ในรูปแบบนี้อาจจะเป็นการกินง่าย กินดิบ กินจุก กินจิก จึงตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเกิดที่กรมพลาธิการบก และขอฝากไปดูรายการดังกล่าวที่ตนได้พูดไปก่อนหน้านี้
ส่วนการดำเนินการของคณะกรรมาธิการการทหาร วิโรจน์ระบุว่า คิดที่จะมีการหารือในที่ประชุม แต่กลัวจะเป็นเบี้ยหัวแตก หากเรียงมุ้ง หมอนมาดู วันหนึ่งคงไม่ต้องทำอะไร ซึ่ง กมธ. ตั้งข้อสังเกตว่ามีรายการอื่นๆ ที่มีราคาแพงอีกมาก นี่ยังไม่รวมถุงเท้าต้านแบคทีเรีย หนาอย่างดี ซึ่งก็ไม่รู้ว่าดีอย่างไร จะเหยียบกับระเบิดแล้วไม่เป็นอะไรหรือไม่