วานนี้ (15 สิงหาคม) วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ อดิศร เพียงเกษ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์แนะนำให้วิโรจน์ซื้อตะกร้อครอบปาก ภายหลังปราศรัยช่วยผู้สมัครพรรคก้าวไกลเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จังหวัดระยอง ว่าตนคิดว่าเราเป็นผู้ใหญ่แล้ว ถ้าจะให้ไปโต้ทุกความคิดเห็นคงจะไม่ใช่ ตนคิดว่าต้องมีวุฒิภาวะที่ดี ส่วนคำวิพากษ์วิจารณ์ก็ขอให้ปล่อยวางบ้าง ไม่เป็นไร
วิโรจน์กล่าวต่อว่า ในส่วนของอดิศรจะพูดก็เป็นสิทธิ์ของอดิศร แต่การจะถือสาหรือไม่เป็นเรื่องของเรา วุฒิภาวะอยู่ที่ตัวเรา ความเป็นผู้หลักผู้ใหญ่อยู่ที่ตัวเรา ไม่อย่างนั้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์เต็มไปหมด ถ้าเราจะต้องไปโต้ทุกครั้งมันก็คงไม่มีเวลาทำงาน ดังนั้นเรามีวุฒิภาวะที่ดี บางเรื่องก็ปล่อยวางดีกว่า เพราะงานเยอะอยู่แล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการปราศรัยของวิโรจน์เกินขอบเขตไป มีการพาดพิงหรือไม่ วิโรจน์กล่าวว่า ไม่ได้พาดพิง ก็แล้วแต่คนวิจารณ์ ส่วนจะจริงหรือไม่จริง ประชาชนเป็นคนตัดสิน คนวิพากษ์วิจารณ์ทั้งบวกทั้งลบเราก็รับฟังไว้ จะให้เราไปตอบโต้ทุกครั้ง เราเป็นผู้ใหญ่ เราจะไม่ไปตอบโต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ มันเสียเวลาทำงาน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงมติพรรคที่ไม่โหวตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย จะเป็นผลบวกหรือลบกับพรรคหรือไม่ วิโรจน์กล่าวว่า เวลาประเมินอะไรเราคงไม่คิดถึงเป็นตัวหรือลบกับพรรค เราประเมินจากจุดยืนของพรรคและสัจจะวาจาที่ให้ไว้กับประชาชนซึ่งมองว่าเป็นสิ่งสำคัญกว่า
“อย่างที่เลขาธิการพรรคได้แถลงไป ก็ชัดเจนว่าประชาชนเองก็ไม่ได้ต้องการเห็นรัฐบาลที่สลายขั้วหรือข้ามขั้วอะไรแบบนั้น เพราะมันไม่ได้สะท้อนถึงความหวังและการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่ประชาชนต้องการ ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่เลขาธิการ คุณชัยธวัชแถลง” วิโรจน์กล่าว
