×

วิโรจน์พบเครือข่ายผู้สูงอายุบางขุนเทียน ชูนโยบายเปลี่ยนภาษีที่ดิน 1 หมื่นล้าน เป็นสวัสดิการคนกรุงเทพฯ

โดย THE STANDARD TEAM
12.03.2022
  • LOADING...
วิโรจน์พบเครือข่ายผู้สูงอายุบางขุนเทียน ชูนโยบายเปลี่ยนภาษีที่ดิน 1 หมื่นล้าน เป็นสวัสดิการคนกรุงเทพฯ

วันนี้ (12 มีนาคม) วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์หลังลงพื้นที่เข้าร่วมรับฟังการสะท้อนปัญหาจากกลุ่มผู้สูงอายุ ณ ศูนย์กีฬาบางขุนเทียน โดยระบุว่า จากการลงพื้นที่ไปในชุมชนต่างๆ ของกรุงเทพฯ พบว่า ผู้สูงอายุในชุมชนต่างๆ กำลังเป็นปัญหาของเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ หลายคนรายได้ลดลง มีปัญหาสุขภาพ และต้องดูแลหลายที่เป็นเด็กเล็ก

 

“ในปี 2564 กรุงเทพฯ จะมีผู้สูงวัยมากกว่า 1 ล้านคน ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีฐานะการเงินเพียงพอต่อการดำรงชีพ ความท้าทายของกรุงเทพฯ คือ เราจะโอบอุ้มชีวิตผู้สูงอายุเหล่านี้ โดยเฉพาะคนที่มีรายได้น้อย ให้มีชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีได้อย่างไร”

 

วิโรจน์กล่าวต่อไปว่า ถ้าตนได้มีโอกาสเข้ามาบริหาร กทม. นโยบายที่เร่งด่วนที่สุดก็คือ ผลักดันให้มีการเพิ่มสวัสดิการคนกรุงเทพฯ โดยจะเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจาก 600 บาท เป็น 1,000 บาท เพิ่มเงินเลี้ยงดูเด็กเล็ก 0-6 ปีให้ได้ทุกคนถ้วนหน้าเดือนละ 1,200 บาท และจะเพิ่มเบี้ยคนพิการให้เป็นคนละ 1,200 บาทเท่าเทียมกันถ้วนหน้า

 

“เราต้องไม่มองว่านโยบายเงินโอนเป็นการสงเคราะห์หรือเป็นภาระงบประมาณ แต่ผมอยากให้มองว่าการโอบอุ้มให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีอยู่ในเมืองแห่งนี้ได้คือหน้าที่พื้นฐานที่ผู้บริหารเมืองต้องทำ เพราะอย่าลืมว่าถ้าเราช่วยกลุ่มเปราะบางเหล่านี้ คนที่จะมีชีวิตดีขึ้นไม่ใช่แค่เด็ก คนแก่ คนพิการ ที่ได้รับสวัสดิการ แต่มันคือการลดภาระของคนวัยแรงงานที่ต้องทำงานส่งเงินมาเลี้ยงดูคนในครอบครัวด้วย

 

“ผมอยากให้เราเปลี่ยนความคิดมองคนในสังคมเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน เฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขกัน โดยเฉพาะเมื่อการโอบอุ้มคนเหล่านี้ไม่เป็นภาระที่เพิ่มขึ้นสำหรับคนกลุ่มอื่นมากเกินไปนัก” วิโรจน์กล่าว

 

ทั้งนี้ เมื่อถามว่างบประมาณพอหรือไม่ จะใช้งบประมาณจากส่วนไหน วิโรจน์บอกว่า เราสามารถเปลี่ยนรายได้ใหม่จากภาษีที่ดินที่กรุงเทพฯ จะจัดเก็บได้ในปี 2565 ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เปลี่ยนมาเป็นสวัสดิการคนกรุงเทพฯ ได้ทันที

 

“จากที่เราลองคำนวณตัวเลขผู้ได้รับสวัสดิการของ กทม. ทั้งผู้สูงอายุ เด็ก คนพิการ นโยบายเพิ่มสวัสดิการของเราจะใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นเพียง 7,300 ล้านบาทต่อปี ซึ่งคิดเป็นไม่เกิน 10% ของงบประมาณ กทม. และน้อยกว่าเงินที่ กทม. สูญเสียรายได้จากการยกเว้นภาษีที่ดินให้นายทุนด้วยซ้ำ

 

“ในปี 2565 ที่มาตรการยกเว้นภาษีที่ดินจะหมดอายุลง กทม. จะมีรายได้เพิ่มขึ้นทันที 1 หมื่นล้านบาท คำถามสำคัญของผู้ว่าฯ กทม. คือ จะจัดสรรงบประมาณส่วนนี้ไปให้คนกลุ่มไหน จะยกเว้นให้นายทุน ละลายไปกับระบบราชการ หรือจะเปลี่ยนเป็นสวัสดิการประชาชน นี่คือสิ่งที่คนกรุงเทพฯ ต้องตัดสินใจร่วมกันในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งนี้” วิโรจน์กล่าวทิ้งท้าย

 

ด้าน ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขตบางขุนเทียน กล่าวว่า นอกจากการปักธงยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน กทม. ในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ในการเมืองระดับชาติ ตนในฐานะผู้ผลักดันสวัสดิการถ้วนหน้าบำนาญแห่งชาติ 3,000 บาทที่ถูกสภาคว่ำไป ยืนยันว่า พรรคก้าวไกลพร้อมผลักดันให้ประเทศไทยมีสวัสดิการถ้วนหน้าที่สอดคล้องกับรายจ่ายของประชาชน ยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย โดยนโยบายนี้จะเป็นนโยบายหลักที่พรรคใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่กำลังจะมาถึงด้วย

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X