จากการที่กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา ได้คาดหมายลักษณะอากาศช่วงฤดูหนาวปี 2565 ของประเทศไทย ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงประมาณต้นสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนตุลาคม 2565 ประมาณวันที่ 29 ตุลาคม ถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2566
ทั้งนี้ อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยบริเวณประเทศไทยตอนบน 20-21 องศาเซลเซียส ซึ่งจะสูงกว่าค่าปกติประมาณ 0.5 องศาเซลเซียส (ค่าปกติ 19.9 องศาเซลเซียส) และจะมีอากาศหนาวเย็นมากกว่าปีที่ผ่านมา (อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยปีที่ผ่านมา 21 องศาเซลเซียส) สำหรับอุณหภูมิต่ำที่สุด 8-9 องศาเซลเซียส ส่วนมากจะอยู่ตอนบนของทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ส่วนอุณหภูมิต่ำที่สุดบริเวณกรุงเทพมหานคร 17-18 องศาเซลเซียส และปริมณฑล 15-16 องศาเซลเซียส ช่วงเวลาที่จะมีอากาศหนาวเย็นที่สุด จะเริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2565 ถึงปลายเดือนมกราคม 2566 สำหรับบริเวณยอดดอย และยอดภู รวมทั้งเทือกเขาจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด
ส่วนบริเวณภาคใต้ จะมีอากาศเย็นบางแห่งในบางวันส่วนมากตอนบนของภาค แต่ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่น โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันออกในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม กับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากในบางแห่ง ซึ่งจะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งน้ำล้นตลิ่งได้ในหลายพื้นที่ สำหรับคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยจะมีกำลังแรงเป็นระยะๆ ในบางช่วงมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ทั้งได้แนะนำสำหรับข้อควรระวัง 3 ข้อดังนี้
- ในช่วงปลายเดือนตุลาคม บริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนจะยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ประกอบกับจะมีน้ำเหนือไหลบ่าลงมา และในบางช่วงจะมีน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำล้นตลิ่งได้ในบางพื้นที่
- ในเดือนธันวาคมและมกราคม บริเวณยอดดอยและยอดภูมักจะเกิดน้ำค้างแข็งขึ้นได้ กับจะมีหมอกหนาเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงควรระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้ยวดยานพาหนะไว้ด้วย
- ในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ อาจมีคลื่นกระแสลมตะวันตก เคลื่อนตัวจากประเทศเมียนมาผ่านประเทศไทยตอนบน ซึ่งจะทำให้ช่วงดังกล่าวเกิดฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกได้ในบางพื้นที่