นิโคลัส เคจ เป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่มีผลงานภาพยนตร์โด่งดังจำนวนมากมายทั้ง Face/Off (1997), Con Air (1997), National Treasure (2004) รวมถึง Leaving Las Vegas (1995) ผลงานที่ส่งให้เขาคว้ารางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม แม้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราอาจจะไม่ได้เห็นหน้าค่าตาของเคจในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เท่าไร เพราะมรสุมหลายเรื่องหลากราวเหลือเกินที่ผ่านเข้ามาในชีวิต และถ้าลองไปค้นดูในเว็บไซต์ IMDb ก็จะพบว่าเขามีผลงานจากหนังฟอร์มเล็ก หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า ‘หนังเกรดบี’ ออกมาแทบทุกปี
เช่นเดียวกับ Willy’s Wonderland (2021) ภาพยนตร์แอ็กชัน-สยองขวัญเรื่องล่าสุดของเคจ ซึ่งครั้งนี้เขาจะมารับบทเป็น ‘ภารโรงผู้เงียบขรึม’ ที่ต้องเผชิญหน้ากับเหล่าหุ่นแอนิเมทรอนิกส์สุดโหด อีกทั้งบทบาทที่เขาได้รับยังเป็นบทบาที่ ‘ไม่มีบทพูด’ แม้แต่บรรทัดเดียว
ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของชายหนุ่มผู้เงียบขรึม (นิโคลัส เคจ) ที่จำเป็นต้องเข้ามาทำงานเป็นภารโรงให้กับสวนสนุกร้างแห่งหนึ่งนาม วิลลี่ วันเดอร์แลนด์ เพื่อนำเงินไปซ่อมรถของตัวเอง แต่แล้วเรื่องราวประหลาดก็เกิดขึ้น เมื่อ ‘หุ่นแอนิเมทรอนิกส์’ หน้าตาน่ารักเริ่มออกเคลื่อนไหวและเข้าทำร้ายชายหนุ่ม ค่ำคืนแห่งการนองเลือดที่มีชีวิตเป็นเดิมพันก็ได้เริ่มต้นขึ้น
หลังจากที่เราได้ชม Willy’s Wonderland จนจบ เราคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างเลือกผู้ชมอยู่พอสมควร ด้วยเนื้อหาที่ดำเนินเรื่องเป็นเส้นตรง ไม่มีอะไรซับซ้อนและไม่มีแวะข้างทาง จึงทำให้เราสามารถคาดเดาเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ง่ายๆ ตั้งแต่ต้นเรื่อง
รวมถึงความเก่งกาจเกินมนุษย์ของภารโรงที่ต้องเผชิญหน้ากับเหล่าหุ่นแอนิเมทรอนิกส์ ก็ค่อนข้างจะส่งผลไปถึงการคลี่คลายคอนฟลิกต์ (ปมปัญหาที่ตัวละครต้องเผชิญ) ของเรื่องที่ค่อนข้างเรียบง่าย จนไม่สามารถปลุกเร้าความตื่นเต้นของผู้ชมได้ดีเท่าที่ควรจะเป็น
สิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นจุดอ่อนใหญ่ที่ลดทอนความสนุกสนานของหนังลงไปมากพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อแนวหนังที่ถูกตั้งไว้คือ แอ็กชัน-สยองขวัญ เราจึงคิดว่า Willy’s Wonderland อาจจะไม่เหมาะกับคอหนังที่ต้องการเสพเนื้อเรื่องที่ซับซ้อน เต็มไปด้วยปริศนา และต้องการเสพสถานการณ์กดดัน เพื่อปลุกเร้าความตื่นเต้นและลุ้นระทึกเท่าไร
แต่อีกด้านหนึ่ง จุดเด่นที่เราคิดว่า Willy’s Wonderland ทำออกมาได้ดี คือการที่ผู้กำกับอย่าง เควิน ลูวิส และทีมสร้างต่างเข้าใจดีว่าหนังเรื่องนี้ต้องการจะขายอะไร มันจึงเปิดทางให้พวกเขาสามารถ ‘ใส่สุด’ ในทางที่พวกเขาเลือกเดิน
ทั้งความบ้าเลือดของภารโรงหนุ่มที่ไม่ต้องสนความสมจริงสมจัง ไม่ต้องซีเรียสว่าเนื้อเรื่องจะต้องเข้มข้น เน้นเอาความสะใจเป็นหลัก รวมถึงการวางคาแรกเตอร์ของตัวละครหลักให้เป็นคนเงียบขรึม ไม่พูดไม่จา ทำให้ผู้กำกับสามารถดึงจุดเด่นตรงนี้มาสร้างสรรค์ให้เกิดความตลกขบขันได้อย่างน่าสนใจ
และอีกสิ่งที่ไม่กล่าวถึงคงไม่ได้คือ ‘ความเท่’ ของเคจที่ดึงดูดสายตาของเราในทุกอากัปกิริยา ไล่เรียงตั้งแต่การแสดงออกทางใบหน้าที่เรียบนิ่ง ฉากแอ็กชันสุดโหด รวมถึงฉากตลกหน้าตาย แม้ว่าตลอดทั้งเรื่องเขาจะไม่มีบทพูดแม้แค่คำเดียว แต่มันก็ไม่สามารถลดทอนออร่าของนักแสดงเคยดังคนนี้ลงได้
ทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลที่เราคิดว่า Willy’s Wonderland คือหนังแอ็กชัน-สยองขวัญที่น่าจะเหมาะสำหรับคอหนังที่กำลังต้องการเสพความบันเทิงแบบเน้นๆ ฉากแอ็กชันโหดๆ ความตลกขบขันที่ถูกวางไว้อย่างถูกที่ถูกเวลา วางความเป็นเหตุเป็นผลทิ้งไป
และสำหรับแฟนๆ ของนิโคลัส เคจ เราขอย้ำอีกครั้งว่าผลงานครั้งนี้ ‘เขาเท่จริงๆ’
Willy’s Wonderland เข้าฉายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์
รับชมตัวอย่างได้ที่นี่
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง:
