×

มอง ‘ไตรมาสที่เลวร้ายที่สุด’ ผ่านมุมของ วิลเลี่ยม ไฮเน็ค หัวเรือใหญ่ของไมเนอร์

29.04.2020
  • LOADING...
วิลเลี่ยม ไฮเน็ค ไมเนอร์

HIGHLIGHTS

  • วิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ในฐานะหัวเรือใหญ่ของ Minor มองวิกฤตในครั้งนี้ว่า “เป็นไตรมาสแรกที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Minor”
  • “Cash is king เราต้องมีเงินสดเพียงพอ” คือกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดของ Minor เวลานี้ ที่ธุรกิจโรงแรมซึ่งคิดเป็น 60% ของรายได้กลับไม่มีรายรับเข้ามาเลย
  • หลังธรรมชาติถูกรีเซตจากวิกฤตโควิด-19 วิลเลี่ยมแนะนำว่า “หากคุณต้องการดูสิ่งที่ดีที่สุดของประเทศของคุณ นี่คือเวลาในการเดินทางที่ดีที่สุด”

วิกฤตโควิด-19 ส่งผลให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวหยุดชะงัก ธุรกิจหลายแห่งต้องปิดตัวลง จากนักท่องเที่ยวที่เคยเดินทางมาไทยนับสิบล้านคนต่อปีกลายเป็นศูนย์ในเวลาเพียงไม่กี่วัน หนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักคือ Minor International ซึ่งประกอบธุรกิจประเภทโรงแรม ร้านอาหาร และสินค้าไลฟ์สไตล์ 

 

วิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ประธานกรรมการ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะหัวเรือใหญ่ของ Minor มองวิกฤตในครั้งนี้ว่า “เป็นไตรมาสแรกที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Minor” โดยเขาให้สัมภาษณ์กับ PTA Academy ซึ่งจัดโดยสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ภายใต้หัวข้อ ‘Minor Strategy in Crisis’ ซึ่ง THE STANDARD ได้สรุปมุมมองของเขามาให้ได้อ่านกัน

 

วิกฤตครั้งนี้แย่กว่าต้มยำกุ้งแค่ไหน 

ต้มยำกุ้งเปรียบเหมือนการเดินเล่นในสวนสาธารณะเลยครับ ครั้งนี้หนักกว่ามาก

 

ตอนนี้ Minor ทำอะไรบ้าง 

เรามีโรงแรมกับร้านอาหารใน 60 ประเทศ เราต้องเคลื่อนตัวให้เร็ว ไม่อย่างนั้นเราจะตายจากเศรษฐกิจก่อนไวรัส รัฐบาลต้องหาวิธีเปิดเป็นส่วนๆ เป็นการท่องเที่ยวแบบที่มีการควบคุม ให้ใครเข้าประเทศได้บ้าง เช่น ไต้หวัน จีน มาแล้วอาจต้องมีมาตรการรองรับ แต่เราต้องเริ่ม โควิด-19 อาจอยู่ไปอีกเป็นปี แต่ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) และมะเร็งก็อยู่มาตลอด เราต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริง

 

ธุรกิจในประเทศอื่นเป็นอย่างไร 

เรามีธุรกิจในประเทศอิตาลี เยอรมนี อังกฤษ ออสเตรเลีย ประเทศเหล่านี้สถานการณ์แย่หมด

 

กลยุทธ์ของ Minor ในการรับมือกับวิกฤตครั้งนี้คืออะไร

Cash is king เราต้องมีเงินสดเพียงพอ เราตัดเงินปันผล ผู้ถือหุ้นให้การสนับสนุน เราดูแลพนักงานอย่างดี พูดถึงประกันสังคม ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเราจ่ายไปประมาณ 600 ล้านบาท ตอนนี้พนักงานยังเบิกไม่ได้ แต่เราก็ยังมีความหวัง

 

โรงแรม ร้านอาหาร สินค้าไลฟ์สไตล์ อะไรกระทบมากที่สุด

แน่นอนว่าโรงแรม เราเพิ่งเปิดที่เวียดนาม แต่ได้รายได้เพียง 5-7% จากช่วงเวลาปกติ ร้านอาหารและขายปลีกจึงต้องมีเดลิเวอรี แต่ก็ยังไม่เพียงพอ

 

ในแง่ของโรงแรม คาดว่าจะเปิดได้เมื่อไร

เรามองว่าน่าจะช่วงเดือนพฤษภาคมสำหรับการเดินทางภายในประเทศ เราอยากเปิดสักโรงแรมเพื่อรับนักท่องเที่ยวในเครือทั้งหมดก่อน แต่ผมยังไม่เห็นภาพว่าจะมีการเดินทางมากนักจนถึงเดือนมิถุนายน

 

คุณมองโลกในแง่บวกนะ คนอื่นพูดกันว่าน่าจะเป็นตุลาคม 

การเปิดไม่ง่ายเหมือนการปิด เราจึงต้องมองบวกเข้าไว้ เพราะถ้าเราสูญเสียความหวังก็โบกมือลาได้เลย เพราะฉะนั้นรัฐบาลต้องช่วย

 

คุณมีวิธีรักษาพนักงานไว้อย่างไร 

พนักงานบางคน Leave without pay โดยหวังว่าเราจะเปิดใหม่ได้โดยเร็ว การให้เงินเดือนที่ต่ำกว่าปกติจะทำให้คุณไม่สามารถรักษาคนที่ดีที่สุดไว้ เราเข้าใจตรงนี้ ความสำเร็จของ Minor ส่วนใหญ่เป็นเพราะเราแสวงหาคนที่มีความสามารถที่ดีที่สุดเสมอ

 

วิลเลี่ยม ไฮเน็ค ไมเนอร์

 

New Normal สำหรับ Minor หลังจากนี้เป็นอย่างไร

เราควรทำการสแกนอุณหภูมิอย่างเข้มข้น มาตรการ Social Distancing ควรจะยังคงอยู่จนกว่าเราจะค้นพบบรรทัดฐานใหม่ว่าจะเป็นอย่างไร ผมชอบมาตรการของรัฐบาลที่งดการรวมตัวเป็นกลุ่มใหญ่ แต่ผู้คนควรได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่สาธารณะหรือชายหาดได้บ้าง เพราะคนฉลาดพอ สิ่งที่ดีที่สุดคือเราต้องพึ่งพาสติปัญญาของผู้คน ต้องศรัทธาในตัวพวกเขา

 

ร้านอาหารมีที่นั่งน้อยลงต่อตารางเมตรและต้องเน้นขายปลีก คุณมองเรื่องนี้อย่างไร

มันไม่เวิร์ก ร้านค้าปลีกไม่สามารถทำรายได้มากพอหากเราจำกัดจำนวนคนเข้าห้าง เราต้องเชื่อมั่นในผู้คน สิ่งต่างๆ จะกลับสู่ภาวะสมดุล ผู้คนจะเข้าใจ อย่างผมเองคงจะไม่เข้าไปในร้านอาหารที่เต็มไปด้วยผู้คน โรงแรมไม่ควรปิดสระว่ายน้ำ เพราะคลอรีนฆ่าเชื้อได้ ผมคิดว่าคนทั่วไปจะทำอย่างนั้น 

 

ให้พวกเขาได้ใช้ชีวิตโดยไม่มีกฎมากเกินไป โควิด-19 จะอยู่กับเราเหมือนโรคมะเร็งและไข้หวัดใหญ่ อัตราการเสียชีวิตเท่าๆ กับอุบัติเหตุ ทุกๆ วันจะมี 51 คนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ นี่คือความจริง

 

ปีนี้ถือว่าแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ 50 ปีของ Minor หรือเปล่า

ใช่ เราไม่รู้ว่าเมื่อไรที่นักท่องเที่ยวจะกลับมา จำนวนผู้คนที่จะกลับไปซื้อของและรับประทานอาหารในร้านจะเพิ่มขึ้นเมื่อไร ถือเป็นไตรมาสแรกที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Minor เลยก็ว่าได้

 

มองในแง่ดี ธุรกิจอาหารก็ยังคงอยู่ คุณคิดอย่างนั้นไหม

รายได้เกือบ 50 ล้านบาทต่อวันมันใหญ่มาก เดลิเวอรีเป็นรายได้สูงสุดในขณะนี้ แต่เราพึ่งการค้าปลีกเพียง 5% โรงแรม 60% อาหาร 35% ดังนั้นเดลิเวอรีจึงไม่เพียงพอ 

 

โรงแรมกำลังเริ่มเปิด แต่ยังไม่ค่อยมีแขก ดังนั้นเราจึงยังคงเสียเงินไปเรื่อยๆ ทันทีที่ได้รับอนุญาต การเดินทางภายในประเทศจะเกิดขึ้น แต่ในประเทศไทยไม่เพียงพอ เราต้องการนานาชาติ เราอาจจะต้องยอมแลกกับความเสี่ยงบางอย่าง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด

 

นโยบายใดบ้างที่อยากจะแนะนำรัฐบาล

เราต้องสร้างเครือข่ายความปลอดภัยของเรา กำหนดเกณฑ์การวัดที่ชัดเจน หากพวกเขาผ่าน เราก็อนุญาตให้เดินทางได้ ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์ เราก็ต้องเข้มงวด

 

สิ่งสำคัญคือต้องปกป้องผู้สูงอายุและผู้มีอาการเจ็บป่วย ผู้คนในประเทศไทย และผู้คนอีกจำนวนมากที่อาจติดเชื้อไปแล้วหากมีการทดสอบ แต่พวกเขาไม่รู้ 

 

ในประเทศไทย หลายคนรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้มาทำงานเมื่อพวกเขาป่วย ค่านิยมนี้อาจไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบัน 

 

แต่สรุปเลยคือรัฐต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วด้วยความระมัดระวัง อย่าล่าช้า

 

ก่อนหน้านี้คุณเข้าควบรวมแบรนด์โรงแรมมากมายในช่วงเวลาเดียว เหตุผลคืออะไร

กระจายความเสี่ยง แม้ว่าตอนนี้ทำให้เรามีความเสี่ยงมากขึ้น ยังโชคดีที่เราขายโรงแรมได้ 5-6 แห่งในปีที่แล้ว เรายังคงบริหารให้ แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของ แต่เราเป็นบริษัทที่มีสินทรัพย์มาก เรายังเป็นเจ้าของโรงแรมอีกมาก เราจึงโดนสองต่อ

 

เชนใหญ่ๆ เช่น St. Regis หรือ Marriott พวกเขามีวิธีดีลกับคุณอย่างไร

นี่ไม่ใช่เวลาที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา พวกเขาใหญ่และเคลื่อนที่ช้า แต่พวกเขาจะไม่ขาดทุน พวกเขาต้องการให้เราเปิดโดยเร็ว แต่พวกเขาไม่ประสบความสูญเสีย แต่เราในฐานะเจ้าของโรงแรมประสบ

 

การลดหรือตัดราคา (โรงแรม) เป็นผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้หรือไม่

ใช่ เป็นเรื่องน่าเศร้า เราจะพยายามเตือนผู้คนถึงอัตราราคาที่ถูกต้อง เราให้ราคาพิเศษสำหรับช่วงเวลานี้ แต่หลังจากนี้มันจะเป็นราคาปกติ เพราะสุดท้ายพวกเราทุกคนยังต้องจ่ายเงินพนักงานและเจ้าหนี้

 

ถ้าลองมองตลาด Online Travel Agency เช่น Agoda อะไรจะเกิดขึ้นกับพวกเขาหลังจากนี้

นั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่ดี เพราะมีผู้คนจำนวนมากที่จะติดต่อกับโรงแรมโดยตรงในตอนนี้ เพราะพวกเขาสามารถพูดคุยกับเราได้ถึงปัญหา ความเสี่ยงต่างๆ เราทำความสะอาดให้เขาเพิ่มเติมได้ แต่หากคุณใช้ Airbnb คุณไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านเป็นใคร 

 

ไม่มีใครใน Minor เสียชีวิตจากโควิด-19 มีผู้ป่วยที่รักษาหาย เมื่อเทียบกัน เราสูญเสียพนักงานจำนวนมากจากสึนามิและอุบัติเหตุทางถนน

 

MICE (Meetings, Incentives, Conferences and Exhibitions) ในประเทศและต่างประเทศจะกลับมาหรือไม่

จะไม่มี MICE ก่อนไตรมาสสุดท้าย อาจเริ่มกลับมาในปี 2021 ผมได้ดูงานวิจัยชิ้นหนึ่ง ทุกคนควรจะผ่านจุดที่แย่ที่สุดในช่วงไตรมาส 4 ของปี แต่โควิด-19 จะยังอยู่ สุดท้ายเราจะเข้าใจว่ามันไม่ใช่อัตราการเสียชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

 

อะไรคือสิ่งที่จะรีเซตหลังจากวิกฤต

ภูเก็ตไม่เคยมีชายหาด ท้องฟ้า ทราย และทะเลที่สวยงามขนาดนี้ เป็นช่วงรีเซตสำหรับธรรมชาติ กระรอก สิ่งมีชีวิตใต้ทะเล หากคุณต้องการดูสิ่งที่ดีที่สุดของประเทศของคุณ นี่คือเวลาในการเดินทางที่ดีที่สุด

 

ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการรีเซตรัฐบาลคืออะไร

สภาพแวดล้อมในที่ทำงาน สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการก้าวเข้าสู่บรรทัดฐานใหม่ และเปิดสถานที่ให้กับคนที่ต้องการเดินทาง สิมิลันปิดปีละ 6 เดือน พีพีอาจปิดบางช่วงก็ดี แต่เราต้องกลับมา เราเหมือนกับสเปน คือเป็นสถานที่ซึ่งมีธุรกิจท่องเที่ยวเป็นรายได้หลัก

 

ไทยควรเปิดรับนักเดินทางจากประเทศใดบ้าง

ไต้หวันและเกาหลี เพราะพวกเขามีการทดสอบเชื้อที่ดี ความกังวลของประเทศไทยคือเราไม่มีการทดสอบที่มากพอ ถ้าเราทดสอบ เราจะหาฮอตสปอต และเราจะปิดได้ตรงจุด ไม่ใช่ปิดทั้งประเทศ

 

การท่องเที่ยวของประเทศไทยมากเกินไปหรือไม่ (Overtourism)

ใช่ เราอยากจะมีนักท่องเที่ยวน้อยลง แต่ใช้จ่ายเงินมากขึ้น ผมต้องการที่จะเห็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น มัลดีฟส์ ที่เปิดสำหรับผู้ที่มีเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ซึ่งอาจนำมาซึ่งรายได้ที่เท่ากับโบอิ้งหนึ่งลำ ดังนั้นเราจึงควรพาเขามาประเทศไทยบ้างในบางครั้ง แต่เรายังคงปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนคนทั่วไป เราควรดูว่าพวกเขานำเงินมาให้เราเป็นจำนวนเท่าไร

 

ปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยว 14.4 ล้านคนในภูเก็ต หลายฝ่ายยังต้องการ Mass Tourism อะไรคือความสมดุล

บางประเทศมีการกำหนดการใช้จ่ายขั้นต่ำ เราไม่สามารถอนุญาตให้มีการท่องเที่ยวศูนย์เหรียญ เพราะพวกนั้นไม่ใช้จ่าย หลายครั้งเขามาโรงแรมที่เจ้าของคือคนในประเทศของพวกเขาเองเสียด้วย ดังนั้นเราจึงมุ่งเน้นไปที่กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เหมาะสม สร้างกรอบภาษี การใช้จ่ายขั้นต่ำ

 

ประเทศจีนและนักท่องเที่ยวชาวจีน คุณมองนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้อย่างไร

พวกเขาอยากกลับมาประเทศไทยมาก พวกเขาเป็นคนแรกที่เจอวิกฤตในครั้งนี้ และเป็นคนแรกที่ออกมาจากวิกฤต ผู้คนอาจยังคงมีโรคนี้ ไทยก็เช่นกัน แต่เราต้องเปิด

 

เราควรติดตามพวกเขาด้วยโทรศัพท์มือถือ แม้ว่าเราจะสูญเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้าง วัดอุณหภูมิของทุกคนที่มา เรามีที่ตั้งของพวกเขา อันตรายของ Airbnb และโรงแรมที่ไม่ได้จดทะเบียนคือพวกเขาไม่ได้ผ่านมาตรฐานการฆ่าเชื้อและความปลอดภัย ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องติดตามเรื่องนี้อย่างเหมาะสม เราจะเห็นแรงกดดันมากขึ้นในเรื่องนี้ โฮมสเตย์เป็นสิ่งที่ดี แต่คุณต้องมั่นใจในความปลอดภัย

 

จะเกิดอะไรขึ้นถ้ากฎหมายยังไม่คลายความเข้มงวดลงเร็วๆ นี้

ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมยอมแพ้ ถ้าเรารอวัคซีน เราจะตายจากพิษเศรษฐกิจก่อนไวรัส เราไม่มีวัคซีนสำหรับเอชไอวี ไข้หวัดใหญ่ แต่เรายังคงอยู่มาได้ โควิด-19 ก็เช่นกัน

 

ออนไลน์คือ New Normal ทาง Minor ลงทุนไปมากน้อยแค่ไหน

ใช่ แต่ไม่เพียงพอ มันก็มีการแข่งขันสูงมาก ทุกคนสามารถทำธุรกิจได้ แต่เราต้องการทั้งออนไลน์และออฟไลน์ Charles & Keith ร้านค้าหนึ่งของเรา มีร้านออฟไลน์เพื่อเดลิเวอรี เปลี่ยนและลองสินค้า เราต้องการความสมดุล

 

ร้านอาหาร Cloud Kitchen เป็นกลยุทธ์ของ Minor ด้วยหรือไม่

เราซื้อ BonChon เราจึงสาขาเปิดมาก แต่เราไม่พบวิธีแก้ปัญหากับ BonChon และ The Pizza Company เราเรียนรู้ว่าเราสามารถเดลิเวอรีและเปิดร้านเพิ่มอีกได้ เราพยายามจัดส่งใน 30 นาที เรามีถุงร้อนและพนักงานที่ผ่านการฝึกอบรม เรามีแบรนด์ หากคุณต้องการเบอร์เกอร์หรือพิซซ่าราคาถูกก็ใช้ Grab ถ้าคุณต้องการ The Pizza Company, Burger King, Swensen’s โทร 1112

 

อุตสาหกรรมที่น่าจะช่วยซัพพอร์ตโรงแรมในภูเก็ตได้คืออะไร

สายการบินอย่าง AirAsia ไม่ใช่ชั้นธุรกิจ การเดินทางต้นทุนต่ำต้องอยู่ต่อ การสั่งให้เปิดได้เพียงที่นั่งเว้นที่นั่งจะทำให้ราคาตั๋วเพิ่มขึ้น คนอาจเดินทางไม่ได้ การอนุญาตให้เปิดปกติจะมาพร้อมความเสี่ยง แต่ความเสี่ยงอยู่ในทุกช่วงของชีวิต หากคุณไม่ต้องการเดินทางโดยสายการบินโลว์คอสต์ก็ไม่ต้อง แต่ผมว่าเราไม่ควรจำกัดพวกเขา เพราะการเดินทางคืออิสระแห่งชีวิต

 

ท้ายที่สุด คุณได้รับจดหมายจากนายกรัฐมนตรีหรือไม่

ผมอยู่ในลิสต์ แต่ยังไม่ได้เปิดอ่านจดหมาย ผมต้องขอบคุณรัฐบาล เราจำเป็นต้องทำงานร่วมกัน ผมมีความสุขมากที่รัฐบาลแสดงความยินดีที่จะรับฟังความคิดเห็นจากผม

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X